ประจวบคีรีขันธ์ - สรรพากรประจวบฯ เตรียมลงพื้นที้ห้วยยาง ตรวจสอบโครงการบ้านพักหรูขายชาวต่างชาติเลี่ยงภาษี พร้อมยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวเกิดจากหน่วยงานราชการบางแห่งปฏิบัติหน้าที่หละหลวม ไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนการทำสัญญาซื้อขายที่ดิน และเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการ ส่วนบริษัทที่ทำโครงการ ขู่จะฟ้องศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว หากไม่ดำเนินการออกเลขที่บ้านตามที่ร้องขอ
มีรายงานความคืบหน้ากรณี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ออกมาเปิดข้อมูลโครงการบ้านพักชาวต่างชาติ ที่มีการเลี่ยงการเสียภาษีให้ภาครัฐว่า ล่าสุด วันนี้ (4 เม.ย.) นายธวัชชัย แดงฉ่ำ นายก อบต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนางสาวคุลิกา คลับคล้าย ปลัด อบต.ห้วยยาง ได้เข้าพบนายภักดี ศิวะพรชัย สรรพากรพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อหารือกรณีการประเมินการจัดเก็บภาษีโรงเรือน และแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากบริษัทประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในพื้นที่ให้ชาวต่างชาติเช่าซื้อที่พักอาศัย โดยยื่นเสียภาษีจากการเช่าซื้อที่ดิน และที่พักอาศัยเป็นระยะเวลา 30 ปีต่ำกว่าข้อเท็จจริง ทำให้องค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) ขาดรายได้จำนวนมหาศาล หลังจากโครงการหมู่บ้านจัดสรรบางแห่งยื่นเสียภาษีโรงเรือนเพียงปีละ 750 บาทต่อปี ขณะที่มีการเช่าซื้อบ้านหรูบริเวณชายทะเลห้วยยาง หลังละ 7-10 ล้านบาท กว่า 400 หลัง
นายภักดี ศิวะพรชัย สรรพากรพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หากมีบริษัทฯเข้ามายื่นเสียภาษี อบต. จะต้องทำการสำรวจค่าเช่าซื้อจริง โดยประเมินและอ้างอิงจากป้ายโฆษณาขาย หรือสอบถามจากเจ้าของที่ดินข้างเคียง รวมทั้งการสอบถามไปยังสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ เพื่อขอให้ประเมินราคาสิ่งปลูกสร้างในที่ดินที่ยื่นขอตามราคากลางที่ทางราชการกำหนด
ทั้งนี้ ที่ผ่านมายอมรับว่า ปัญหาดังกล่าวมีหน่วยงานราชการบางแห่งไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนการทำสัญญาซื้อขายที่ดิน และเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการ แต่เรื่องนี้อธิบดีกรมสรรพากรให้ความสนใจเพื่อทำข้อเท็จจริงให้ปรากฎ และตนจะเดินทางไปตรวจสอบการประกอบธุรกิจอสังหาริอมทรัพย์ในพื้นที่ ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก และ อ.หัวหิน ซึ่งมีอัตราการเติบโตในการทำธุรกิจสูงมาก แต่การตรวจสอบยังมีปัญหาเนื่องจากเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ
ด้านนายธวัชชัย แดงฉ่ำ นาย อบต.ห้วยยาง กล่าวว่า หลังจากบริษัท ซาลทาน่า พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้ยื่นขอทะเบียนบ้าน บ้านเลขที่ 119/5-119/12 จำนวน 8 หลังในพื้นที่หมู่ 7 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามโฉนดเลขที่ 9968 เลขที่ 13 ที่อำเภอทับสะแกเสนอเรื่อง และต่อมาพบข้อพิรุธในการแจ้งข้อมูลเท็จจากเอกสารสัญญากับทางราชการ โดยนางดลฤดี อยู่สุข อยู่บ้านเลขที่ 19/16 หมู่ 7 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขายให้แก่บริษัทซาลทาน่าฯ โดยทำสัญญาซื้อขายเมื่อวันที่ 23 ม.ค.55 ระบุว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นการขายที่ดิน 3 งาน ในราคา 300,000 บาท โดยไม่มีสิ่งปลูกสร้าง และไม่ค้างชำระภาษีบำรุงท้องที่และไม่มีการเช่านั้น อบต.ได้ระงับการออกเลขที่บ้าน และมีหนังสือเชิญนางดลฤดี มาพบเพื่อสอบถามข้อมูลกรณีสัญญาซื้อขายเป็นเท็จ เนื่องจากฝ่ายการคลังไม่พบหลักฐานการเสียภาษีบำรุงท้องที่กับ อบต. และมีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารในที่ดินกับอบต. แต่ล่าสุด นางดลฤดี ยังไม่เดินทางมาพบแต่อย่างใด
ขณะที่บริษัทซาลทาน่าฯ ซึ่งอ้างว่าจะเกิดความเสียหายในการทำธุรกิจหาก อบต.ระงับขั้นตอนการขอเลขที่บ้าน ได้ส่งทนายความผู้รับอำนาจเข้ามาเจรจาโดยขู่จะร้องศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว หากไม่ดำเนินการตามที่ร้องขอ ซึ่งหากมีการฟ้องร้องก็จะได้นำเอกสารหลักฐานที่ปรากฎไปชี้แจงเหตุผลเพื่อสร้างบรรทัดฐานในการทำหน้าที่ให้แก่ผู้ประกอบการบางราย ที่พยายามหาช่องทางหลีกเลี่ยงภาษีกับทางราชการ และต้องการให้หน่วยราชการที่ทำนิติกรรมที่ดินได้ร่วมกันชี้แจงเหตุผลในการทำสัญญาซื้อขายที่ดิน ที่เอกชนร่วมกันแจ้งข้อมูลเท็จกับทางราชการ
ทางด้านนางสาวคุลิกา คลับคล้าย ปลัด อบต.ห้วยยาง เปิดเผยว่า ปัจจุบัน บริษัทฯ บางแห่งไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีโรงเรือนในการเช่าซื้อฯ ซึ่งคาดว่าอาจมีการโอนกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของที่ดินให้แก่ผู้เช่าแล้ว ทำให้ อบต.ไม่สามารถเก็บภาษีได้ และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการชำระภาษีในเรื่องการซื้อขายที่ดิน และการชำระภาษีของบริษัทต่างๆ ว่า เป็นไปโดยถูกต้องหรือไม่ มีการเสียภาษีหรือไม่ และเมื่อบริษัทมีการซื้อขายที่ดิน หรือโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้เช่าแล้วจะชำระเงินค่าภาษีโรงเรือนให้แก่ อบต. หรือจะเรียกเก็บภาษีจากผู้ให้เช่าได้อย่างไร