ผวจ.ตราด สับประมงแก้ปัญหาเรือคราดหอยไม่จบ

ตราด - ปัญหาเรือคราดหอยบานปลาย ผู้ว่าฯ ตราดสับประมง 1 ปีแก้ปัญหาไม่จบ บอก “กรมประมง” ทำเอง ออกกฎเอง แต่ปฏิบัติไม่ได้

วันนี้ (2 เม.ย.) ที่ห้องประชุมตราดสีทอง ศาลากลางจังหวัดตราด นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานการประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากเรือประมงคราดหอย ที่ลักลอบเข้ามาทำการประมงบริเวณชายฝั่งทะเล โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานประมงจังหวัดตราด หน่วยบริหารจัดการประมงทะเลเกาะช้าง ตราด รวมทั้งนายกิตติ โกสินสกุล นายกสมาคมประมงจังหวัดตราด เข้าร่วมประชุม

นางสาวเบญจวรรณ กล่าวว่า จากการที่ชาวประมงพื้นบ้านที่ตำบลอ่าวช่อ เขตอำเภอเมืองตราด ได้รับความเดือดร้อนจากเรือประมงคราดหอย 13 ลำ ลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขต 3,000 เมตร ทำให้ชาวประมงไม่สามารถออกทำการประมงอวนลอยปลา อวนจมปู และลอยปูได้ เนื่องจากเรือประมงคราดหอยเข้ามาทำการประมงชายฝั่งส่งผลให้ประมงพื้นบ้านได้รับความเสียหาย เกิดความเดือดร้อยแก่ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่อ่าวช่อเป็นอย่างมาก

จังหวัดตราด ได้แต่งตั้งคณะทำงานของหน่วยเฉพาะกิจเพื่อเฝ้าระวังตรวจปราบปรามการลักลอบการทำการประมงที่ผิดกฎหมาย บริเวณชายฝั่งทะเลจังหวัดตราดที่ 1600/2554 ลงวันที่ 22 กันยายน 2554 แต่ในปัจจุบัน ยังมีเรือคราดหอยบางลำขัดขืนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และมีการต่อสู้เจ้าหน้าที่ในขณะปฏิบัติงาน โดยไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ทั้งที่ตั้งคณะกรรมการชุดนี้มานานหลายเดือนแล้ว

ด้านนายวีระ หัวหน้าหน่วยอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล หมู่เกาะช้าง-ตราด ในฐานะตัวแทนส่วนราชการประมง กล่าวว่า ทางหน่วยและส่วนราชการประมงที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการป้องกันและปราบปรามปัญหาเรื่องเรือคราดหอยมาตลอด ทั้งการเฝ้าระวังและการออกจับกุมดำเนินคดี แต่มักจะถูกกลุ่มเรือคราดหอยล้อมกรอบและทำร้าย

เมื่อเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการจริงจังก็ถูกร้องเรียนว่าทำเกินกว่าเหตุ เรือคราดหอยไม่ได้กลัวเกรงกฎหมาย หรือเกรงกลัวเจ้าหน้าที่ เพราะรู้ว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปจับกุมดำเนินคดีได้ จะใช้กฎหมู่และคนหมู่มากมากดดันเจ้าหน้าที่เมื่อโดนจับกุม ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็มีจำนวนน้อย น้ำมันเชื้อเพลิงก็ขาดแคลน ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ประมงทุกฝ่ายได้เข้ามาแก้ปัญหาร่วมกัน แต่ก็ไม่สามารถดูแลได้

ขณะที่นายกิตติ กล่าวว่า อยากเห็นการแก้ปัญหาของทางราชการไม่ใช่แก้ที่ปลายเหตุโดยการจับกุม แต่ควรจะใช้วิธีหาความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องหรือชาวประมงทั้ง 2 ฝ่าย ออกกฎกติกาด้วยตัวของกลุ่มประมงเหมือนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีทำ และประสบความสำเร็จ กรณีของกลุ่มประมงอ่าวใหญ่ ที่เคยดำเนินการแก้ปัญหา โดยร่วมมือนำเงินจากกลุ่มเรือคราดหอยมาให้กลุ่มประมงพื้นบ้านที่ได้รับความเสียหาย ก้นับว่าเป็นวิธีการที่ดี อีกทั้งก็เคยคุยกับผู้อำนวยการส่วนคนหนึ่งของกรมประมงก็เห็นด้วยกับวิธีนี้ การปราบปรามจึงเป็นเรื่องปลายเหตุ

ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า เวลาเกือบ 1 ปีที่ให้ทางประมงแก้ไขปัญหาเรือคราดหอย แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เหตุผลที่บอกว่าเจ้าหน้าที่มีน้อย น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เพียงพอ ประมงจะมาอ้างไม่ได้ เพราะประมงเป็นผู้กำหนด และควบคุมกฎทุกอย่าง ปฏิบัติเอง ทำเอง ก็ต้องแก้ปัญหาเอง จะมาอ้างว่ามีปัญหาตรงจุดนั้น จุดนี้ไม่ได้ ทุกวันนี้ ชาวประมงคราดหอยร่ำรวย แต่ชาวประมงพื้นบ้านยังยากจนอยู่ แล้วประมงจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร

การประชุมดังกล่าว ยังหาข้อสรุปในการแก้ปัญหาในเรื่องเรือคราดหอยไม่ได้ทั้งหมด แต่ในที่ประชุมได้ให้คณะทำงานสรุปปัญหา และอุปสรรค เพื่อหาแนวทางแก้ไขให้ผู้ประกอบอาชีพประมงทั้ง 2 ฝ่ายให้อยู่ร่วมกันได้ โดยไม่มีใครแหกกติกาที่ได้ร่วมกันตั้งขึ้นมาเหมือนปัจจุบันที่เกิดขึ้นต่อไป