สุรินทร์ - สูญเปล่า งบประมาณของทางราชการ เมื่อ อบจ.สุรินทร์นำงบประมาณกว่า 10 ล้าน สร้างโครงการพัฒนาบริเวณด่านช่องจอม อ.กาบเชิง เป็นอาคารสองชั้น แต่กลับปล่อยให้อาคารทรุดโทรม ขยะเกลื่อน ไร้การดูแล และยังมีผู้แสวงหาผลประโยชน์ ยึดพื้นที่ให้เช่า เก็บรายได้เข้ากระเป๋า แต่ไม่ดูแลอาคารสถานที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณโครงการพัฒนาบริเวณด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ตรงข้ามด่านศุลกากรกาบเชิง และอยู่ห่างจากด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง เพียง 2 กิโลเมตร ด้านหน้าโครงการขึ้นป้าย องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ (อบจ.) สร้างโครงการพัฒนาบริเวณด่านช่องจอม ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการค้าขายบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ได้จัดสร้างอาคารขนาด 2 ชั้น ยกสูง กว่า 4 เมตร ด้านล่างโล่ง และแบ่งเป็นห้องสำหรับอาคารสำนักงาน ขณะที่บริเวณชั้น 2 จัดแบ่งเป็นห้องๆ ให้เช่าเป็นสำนักงานเพื่อส่งเสริมการค้าขายชายแดนไทย-กัมพูชา อาคารแห่งนี้สร้างมาแล้วกว่า 10 ปี ด้วยงบประมาณของ อบจ.สุรินทร์ สร้างบนพื้นที่ที่ราชพัสดุ ซึ่งพบว่า อบจ.สุรินทร์เมื่อสิบปีที่ผ่านมาได้เข้ามาพัฒนาพื้นที่และสร้างอาคาร แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากที่ราชพัสดุ มีการสร้างอาคารไปจนแล้วเสร็จ เมื่อจะเปิดใช้งานก็ถูกทักท้วงจากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ เรื่องยังไม่จบ จนกระทั่งยาวมาจนถึงทุกวันนี้
ทำให้อาคารที่สร้างไว้ด้วยงบประมาณของรัฐจากภาษีของประชาชนกว่า 10 ล้านบาท ต้องถูกปล่อยปละละเลย ฝ้าเพดานหลุดลงกองกับพื้น ประตูเลื่อนหลุดห้อยจะหล่นไม่หล่นแหล่ กระจกถูกทุบทิ้ง พื้นเต็มไปด้วยขี้นกพิราบ พื้นด้านล่างอาคารเต็มไปด้วยขยะกระดาษ เศษของพืชผักที่พ่อค้าแม่ค้านำมาขาย
นอกจากนั้น พ่อค้า แม่ค้ายังบอกว่า พื้นที่ด้านหน้าของอาคารเป็นลานปูน ใช้เป็นที่เช่าขายสินค้าของพ่อค้า แม่ค้า ชาวไทย และชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นผลผลิตการเกษตร ผลไม้ ผักต่างๆขายเป็นตลาดนัด วันพุธ กับวันเสาร์ แต่ก่อนวันพุธเก็บค่าเช่า 30 บาท วันเสาร์เก็บค่าเช่า 50 บาท แต่ทุกวันนี้เก็บค่าเช่า 50 บาททั้งสองวัน แต่เมื่อจ่ายค่าเช่าไปแล้วไม่มีการนำเงินไปพัฒนาสถานที่ จัดเก็บขยะหรือทำความสะอาดสถานที่ ปล่อยให้สกปรก พ่อค้าแม่ค้าบ่นกันมาก
ขณะเดียวกัน ยังมีการขายน้ำและเก็บค่าเข้าห้องน้ำ ซึ่งไม่รู้ว่าหน่วยงานไหนมาจัดเก็บและหาผลประโยชน์จากโครงการนี้ ทั้งที่ยังเป็นปัญหาถูกปล่อยปละละเลย แต่ก็มีผู้แสวงหาผลประโยชน์ ควรที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาหารายได้เข้ารัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป