จันทบุรี - เกิดพายุหมุนพัดถล่มบ้านเรือนกว่า 50 หลังคาเรือน และสวนผลไม้ของชาวบ้านใน 10 หมู่บ้าน กว่า 200 ไร่ เสียหายเป็นพื้นที่กว้าง ในพื้นที่ตำบลช้างข้าม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
เช้าวันนี้( 1 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวสวนผลไม้ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 บ้านช้างข้าม ตำบลช้างข้าม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ว่า เกิดพายุหมุนพัดถล่มต้นไม้ลงมาทับบ้านเรือน และสวนผลไม้เสียหายเป็นจำนวนมาก ขอให้ผู้สื่อข่าวเดินทางมาตรวจสอบ และทำข่าวช่วยเหลือด้วย
หลังรับแจ้ง ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ พบบ้านเรือนของชาวบ้านกว่า 50 หลังคาเรือน ใน 10 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 3-13 ถูกพายุหมุนพัดกระเบื้องหลังคาปลิวหายไป เสาไฟฟ้าล้มหักโค่น และพบว่า มีต้นไม้ใหญ่ล้มทับบ้านจำนวนหลายหลัง และพบโรงรถถูกพายุพัดจนเสาหักทับรถยนต์ จำนวน 2 คัน ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านของ นางลัดดาวรรณ จำเนียร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ที่ 9 ตำบลช้างข้าม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ถูกต้นไม้หักโค่นพังทับรถยนต์ที่จอดไว้เสียหาย 2 คัน และบ้านได้ถูกต้นไม้ทับกระเบื้องหลังคาแตกกว่า 300 แผ่น
นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบยังมีบ้านเรือนอีกเป็นจำนวนมากถูกแรงลมพัดกระเบื้องหลัง และสังกะสีปลิวหายไป รวมทั้งสวนผลไม้ที่เป็นสวนทุเรียน พันธุ์หมอนทองของนางชะลอ ทรัพย์โพธิ์คา อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/1 ตำบลช้างข้าม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ถูกพายุพัดต้นทุเรียนล้มหักโค่น ฉีกขาด ที่จะสามารถเก็บเกี่ยวขายได้ในสัปดาห์หน้าเสียหาย กว่า 40 ต้น นอกจากนี้ ยังมีสวนลำไย มะไฟ ของเกษตรกรในพื้นที่ตำบลช้างข้าม อีกเป็นจำนวนมากได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างอีกประมาณ 200 ไร่
นายชิชัย หล้ำศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลช้างข้าม ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในเบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้ เนื่องจากยังสำรวจไม่หมด ทั้งนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลช้างข้าม และผู้นำท้องถิ่นได้มีการรายงานให้ทางอำเภอ และจังหวัดได้รับทราบเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดพายุหมุนในพื้นที่อำเภอนายายอามแล้ว และคาดในวันพรุ่งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน และเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป
นางชะลอ ทรัพย์โพธิ์คา เกษตรกรชาวสวนที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวทั้งน้ำตาว่า สวนทุเรียนที่ปลูกไว้ อายุ 20 กว่าปี ถูกพายุพัดถล่มเสียหายเกือบทั้งหมด และผลผลิตทุเรียนหมอนทองร่วงหล่นเสียหายกว่า 3,000 ลูก เงินที่จะได้จากที่พ่อค้ามาเหมาสวนไว้ 5 แสนกว่าบาทต้องสูญหายไปหมด ในส่วนนี้ ก็รับทราบข่าวว่าจะมีพายุเข้า แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเร็วเช่นนี้ และความเสียหายที่เกิดขึ้นทำให้ตนเองต้องหมดตัวเป็นหนี้เป็นสิ้นอีก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ
เช้าวันนี้( 1 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวสวนผลไม้ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 บ้านช้างข้าม ตำบลช้างข้าม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ว่า เกิดพายุหมุนพัดถล่มต้นไม้ลงมาทับบ้านเรือน และสวนผลไม้เสียหายเป็นจำนวนมาก ขอให้ผู้สื่อข่าวเดินทางมาตรวจสอบ และทำข่าวช่วยเหลือด้วย
หลังรับแจ้ง ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ พบบ้านเรือนของชาวบ้านกว่า 50 หลังคาเรือน ใน 10 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 3-13 ถูกพายุหมุนพัดกระเบื้องหลังคาปลิวหายไป เสาไฟฟ้าล้มหักโค่น และพบว่า มีต้นไม้ใหญ่ล้มทับบ้านจำนวนหลายหลัง และพบโรงรถถูกพายุพัดจนเสาหักทับรถยนต์ จำนวน 2 คัน ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านของ นางลัดดาวรรณ จำเนียร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ที่ 9 ตำบลช้างข้าม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ถูกต้นไม้หักโค่นพังทับรถยนต์ที่จอดไว้เสียหาย 2 คัน และบ้านได้ถูกต้นไม้ทับกระเบื้องหลังคาแตกกว่า 300 แผ่น
นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบยังมีบ้านเรือนอีกเป็นจำนวนมากถูกแรงลมพัดกระเบื้องหลัง และสังกะสีปลิวหายไป รวมทั้งสวนผลไม้ที่เป็นสวนทุเรียน พันธุ์หมอนทองของนางชะลอ ทรัพย์โพธิ์คา อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/1 ตำบลช้างข้าม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ถูกพายุพัดต้นทุเรียนล้มหักโค่น ฉีกขาด ที่จะสามารถเก็บเกี่ยวขายได้ในสัปดาห์หน้าเสียหาย กว่า 40 ต้น นอกจากนี้ ยังมีสวนลำไย มะไฟ ของเกษตรกรในพื้นที่ตำบลช้างข้าม อีกเป็นจำนวนมากได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างอีกประมาณ 200 ไร่
นายชิชัย หล้ำศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลช้างข้าม ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในเบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้ เนื่องจากยังสำรวจไม่หมด ทั้งนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลช้างข้าม และผู้นำท้องถิ่นได้มีการรายงานให้ทางอำเภอ และจังหวัดได้รับทราบเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดพายุหมุนในพื้นที่อำเภอนายายอามแล้ว และคาดในวันพรุ่งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน และเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป
นางชะลอ ทรัพย์โพธิ์คา เกษตรกรชาวสวนที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวทั้งน้ำตาว่า สวนทุเรียนที่ปลูกไว้ อายุ 20 กว่าปี ถูกพายุพัดถล่มเสียหายเกือบทั้งหมด และผลผลิตทุเรียนหมอนทองร่วงหล่นเสียหายกว่า 3,000 ลูก เงินที่จะได้จากที่พ่อค้ามาเหมาสวนไว้ 5 แสนกว่าบาทต้องสูญหายไปหมด ในส่วนนี้ ก็รับทราบข่าวว่าจะมีพายุเข้า แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเร็วเช่นนี้ และความเสียหายที่เกิดขึ้นทำให้ตนเองต้องหมดตัวเป็นหนี้เป็นสิ้นอีก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ
