ศูนย์ข่าวศรีราชา - เกิดพายุฤดูร้อนพัดนาน 1 ชั่วโมง ส่งผลให้สวนผลไม้ ยางพารา กว่า 120 ไร่ และบ้านเรือนชาวบ้าน 10 หลังคาเรือนใน 2 หมู่บ้านได้รับความเสียหาย ขณะที่เทศบาลตำบลจันเขลมได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือ
เวลา 08.00 น.วันนี้ (19 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสุเนส เฉียงเหนือ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลจันเขลม ว่าได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดนาน 1 ชั่วโมง ส่งผลให้สวนผลไม้ สวนยางพาราของเกษตรกร กว่า 120 ไร่ และบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยพบว่า หมู่ที่ 7 บ้านคลองชัน ตำบลจันเขลม อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ที่เป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด
นายสุเนส เฉียงเหนือ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลจันเขลม และนายชัย สอนคำ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/1 หมู่ที่ 7 ตำบลจันเขลม อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี เกษตรกรชาวสวนผลไม้ยืน ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนที่พัดนาน 1 ชั่วโมง ส่งผลให้ต้นทุเรียน อายุ 25 ปี ที่ติดลูกออกผล และสามารถที่จะเก็บเกี่ยวขายได้อีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ล้มหักโค่น ฉีกขาด และลูกร่วงหล่นเสียหายกว่า 120 ไร่ หรือคิดเป็นความเสียหายประมาณ 20-30 ตัน
นอกจากนี้ ในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านสะท้อน ตำบลจันเขลม อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี สวนยางพารา อายุ 4 ปี กว่า 300 ต้น ของนายถาวร ชื่นหญ้าปอก ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนพัดถอนรากถอนโคนเสียหายกว่า 5 ไร่
นอกจากนี้ ในพื้นที่ หมู่ที่ 7 ยังมีบ้านเรือนของชาวบ้านกว่า 10 หลังคาเรือน ถูกพายุฤดูร้อนพัดต้นไม้หักทับหลังคาบ้าน กระเบื้องแตกเสียหาย
ในเบื้องต้นทางเทศบาลตำบลจันเขลมได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อสรุปให้จังหวัดได้รับทราบแล้ว และเพื่อที่ทางจังหวัดจะได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวน และชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อนในครั้งนี้ต่อไปอีกด้วย
นายชัย สอนคำ เกษตรกรชาวสวนทุเรียนที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า เป็นแรงลมและพายุพัดหมุนเข้ามาในสวน ทำให้ต้นทุเรียน เงาะ เสียหายเป็นจำนวนมาก ตรงนี้ตนเองก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นมาเพราะตนเองติดหนี้ธนาคารด้วยในการกู้มาในการทำสวน ทำให้ตนเองต้องหมดเนื้อหมดตัวกับการเกิดพายุในครั้งนี้ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยเหลือ พายุที่เกิดขึ้นตนเองไม่เคยเห็นมาก่อนเพราะมันมีความแรงเป็นอย่างมาก