ศูนย์ข่าวศรีราชา - แก๊งยูเครน ใช้บัตรเอทีเอ็มปลอมตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ ไม่รอดมือตำรวจพัทยา หลังแฝงตัวเข้ามาในคราบนักท่องเที่ยวได้เพียง 1 วัน กดเงินไปแล้วกว่า 5 หมื่นบาท ผบช.ภ.2 เผยแก๊งนี้สร้างความเสียหายแก่ธนาคารต่างๆ มาแล้วกว่า 15 ประเทศ
วันนี้ (30 มี.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และ พ.ต.อ.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาแก๊งยูเครน ที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ซึ่งใช้บัตรเอทีเอ็มปลอม ตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ โดยนำเงินที่ได้ส่งกลับให้นายใหญ่ที่ประเทศยูเครน ประกอบด้วย นายแอนเดส บาลาเลฟ อายุ 25 ปี นายวิลาลี สเตฮัน อายุ 25 ปี และนายอิจีเนฟ สาโลกัฟ อายุ 24 ปี
โดยทั้งหมดถูกตำรวจเมืองพัทยาจับกุมได้ที่บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ถนนพัทยาสาย 2 ขณะกำลังใช้บัตรปลอมกดเงิน และจากการขยายผลตรวจค้นที่ห้องพักหมายเลข 324 โรงแรมเคแอล เมโทร ยังสามารถยึดบัตรเอทีเอ็มปลอมได้อีก 30 ใบ พร้อมเงินสดจำนวน 58,000 บาท และทั้งหมดถูกตั้งข้อหา ร่วมกันทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม พร้อมแก้ไขข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้ โดยรู้ว่าเป็นของปลอม หรือแปลงขึ้น
โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 ถูกส่งตัวจากแก๊งในประเทศยูเครนเพื่อแฝงตัวเข้ามาในคราบนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทย หลังจากนั้น จะได้รับ ข้อมูลบัตรเอทีเอ็มจริงที่ส่งมาทางอินเทอร์เน็ตจากประเทศยูเครน ก่อนจะนำมาสกรีมมิ่ง เพื่อแปลงข้อมูลเข้าบัตรเอทีเอ็มปลอม และนำไปกดเงินตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ ในเมืองพัทยา โดยเงินที่ได้จะถูกนำส่งกลับไปยังประเทศยูเครน ซึ่งผู้ต้องหาจะได้รับส่วนแบ่ง 30 เปอร์เซ็นต์ จากเงินที่ได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ แก๊งดังกล่าวจะส่งผู้ร่วมขบวนการเข้ามาในประเทศไทยรอบละประมาณ 28 วัน ซึ่งผู้ต้องหาชุดนี้ เพิ่งเข้ามาในประเทศไทยได้เพียง 1 วัน และกดเงินได้กว่า 50,000 บาท ซึ่งคนกลุ่มนี้ได้สร้างความเสียหายต่อธนาคารต่างประเทศเกือบทั่วโลก เช่น ยูเครน อาเซอร์ไบจาน อิตาลี กรีซ แคนาดา อเมริกา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส สเปน เกาหลีใต้ เป็นต้น