ท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมกับประชาชน หาทางออกรูปแบบโครงสร้างของท่าเรือ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ท่าเรือแหลมฉบังร่วมกับประชาชนในพื้นที่จัดเสวนาหาทางออกในการพิจารณารูปแบบโครงสร้างของท่าเรือและเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

วันนี้(29 มีนาคม 2555) ห้องประชุมอาคารบริหารท่าเรือแหลมฉบังได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการกำกับติดตามการพัฒนาเพื่อขยายขีดความสามารถท่าเรือแหลมฉบัง ประกอบด้วยส่วนราชการและภาคประชาชนในพื้นที่รอบท่าเรือฯโดยมีนายภัครธรณ์ เทียนไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีเป็นประธาน โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้ให้นโยบาย ว่าการดำเนินการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังจะต้องรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนที่อาศัยโดยรอบท่าเรือฯ

พร้อมทั้งต้องเยียวยาต่อประชาขนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างท่าเรือเฟส1และ2รวมทั้งต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกับการพัฒนาในท่าเรือเฟส3 ด้วย ทั้งนี้หากประชาชนโดยรอบไม่เห็นด้วยและไม่ยินยอมการก่อสร้างก็อาจจะเกิดไม่ได้อย่างไรก็ตามขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีเหตุมีผลในการพูดคุยร่วมกันโดยให้คิดถึงการพัฒนาประเทศเพื่อส่วนรวมและคำนึงถึงคุณภาพชีวิตประชาชนโดยรอบด้วยทั้งสองสิ่งนี้จะต้องไปด้วยกัน ทั้งนี้จังหวัดชลบุรีจะยึดประชาชนเป็นหลักและเป็นศูนย์กลาง

นายสนธิ คชวัฒน์ เลขาธิการสมาคมอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย และประธานอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมฉบังกล่าวว่า การดำเนินงานของท่าเรือแหลมฉบังในปัจจุบันได้เปลี่ยนรูปแบบจากในอดีตค่อนข้างมากกล่าวคือการพัฒนาใดๆก็ตามที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมคิดร่วมพัฒนา ร่วมรับผิดชอบและร่วมได้รับประโยชน์จากการพัฒนาด้วยและท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีและ รองผู้ว่าฯได้มีแนวคิดให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ต้องมาก่อนซึ่งเป็นแนวคิดที่ดีมากทำให้เห็นถึงทางออกในการอยู่ร่วมกันและพูดคุยกันกันอย่างพี่น้องระหว่างท่าเรือแหลมฉบังและพี่น้องประชาชนโดยรอบ ซึ่งทุกท่านที่เกี่ยวข้องให้ความชื่นชมเป็นอย่างมาก ในการประชุมวันนี้มีมติที่น่าสนใจดังนี้

1.เห็นชอบกับแผนงานและงบประมาณการพัฒนาชุมชนและสังคมโดยรอบท่าเรือแหลมฉบัง โดยให้นำเสนอคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทยอนุมัติงบประมาณต่อไป ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่อ งเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ พื่น้องประชาชนทุกท่านรออยู่

2.นโยบายเร่งด่วนที่จะเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างท่าเรือฟส 1 และ2มีข้อตกลงร่วมกันคือการท่าเรือฯจะจัดสรรพื้นที่ 55 ไร่ บริเวณหมู่9 บางละมุง เพื่อจัดสร้างศูนย์การเรียนรู้ของชุมชน มีการสร้างศาลาอเนกประสงค์ สวนหย่อม สระน้ำ สถานที่ออกกำลังกายที่พักผ่อนของประชาชนโดยให้การท่าเรือฯและภาคประชาชนไปกำหนดและออกแบบร่วมกัน

3. เห็นชอบในหลักการให้ภาคประชาชนทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในการพัฒนาศักยภาพท่าเรือแหลมฉบังฉบับประชาชนเพื่อแสดงถึงข้อห่วงกังวลของประชาชนอย่างรอบด้านและทำการศึกษาอย่างเป็นระบบตามแนวคิดของประชาชนในพื้นที่และนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาร่วมกันกับรายงานการศึกษาฯที่บริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาให้กับท่าเรือแหลมฉบังเพื่อพิจารณาหาทางออกต่อไป

4. เห็นชอบให้มีการจัดเสวนาหาทางออกร่วมกันระหว่างท่าเรือแหลมฉบังและภาคประชาชนในพื้นที่ในเรื่องรูปแบบและโครงสร้างของท่าเทียบเรือที่จะเกิดขึ้นในเฟสต่อไป ในช่วงเดือนเมษายน 2555 เพื่อให้เกิดการพูดคุย และให้ได้ข้อสรุปสำหรับเป็นแนวทางที่ชัดเจนในการพัฒนาต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมาที่ภาคประชาชนคัดค้านเรื่องรูปแบบและโครงสร้างท่าเรือเฟส3เพราะเป็นการถมทะเลที่มีโครงสร้างบางส่วนไปปิดหน้าอ่าวบางละมุง ทำให้พื้นที่ทำกินในทะเลโดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งลดลงอย่างมาก

นายสนธิ คชวัฒน์ กล่าวว่าในฐานะที่เป็นฝ่ายเลขาของคณะอนุกรรมาธิการสิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ วุฒิสภา จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อท่านประธานคือคุณภารดี จงสุขธนามณี สว.เชียงราย พิจารณาให้การสนับสุนนต่อไป