แดงระดมคนเหนือ-อีสาน ดำหัว “พ่อแม้ว” เวียงจันทน์/กลาง-ตอ.-ใต้ เข้าเสียมเรียบ

เชียงราย - แกนนำสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดง ยกคณะเปิดหมู่บ้านแดงเชียงรายอีก ส่งสัญญาณมาร์กจุดรวมพลต้านปฏิวัติ พร้อมเกณฑ์คนร่วมพิธีดำหัว “พ่อแม้ว” สงกรานต์นี้ที่เวียงจันทน์ โดยตั้งโต๊ะเก็บค่าหัว 1,000-1,500 บาท อ้างมีทุนน้อย แดงระดมคนเหนือ-อีสาน ดำหัว “พ่อแม้ว” เวียงจันทน์/กลาง-ตอ.-ใต้ เข้าเสียมเรียบ

วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ลานข้างร้านเบิ้มการพิมพ์ บ้านป่าแงะ ม.4 ต.ป่าแงะ อ.ป่าแดด จ.เชียงราย สมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตย นำโดย ร.ต.ต.กมล สิงหะสุริยะ ประธานสมาพันธ์, นายอานนท์ แสนน่าน เลขาธิการสมาพันธ์, นายอรรถชัย อนันตเมฆ หรือ โด่ง ดารานักแสดง, นายนที สรวารี แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง

พร้อมพวกอีกหลายคน เช่น นายนพ เสรีชน-นายดาชัย อุชุโกศลการ รองประธานสมาพันธ์ ที่ดูแล 16 จังหวัดภาคเหนือ รวมทั้งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลำปาง-นางนิตยา นาโล รองประธานสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงฯ ดูแลภาคอีสาน พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่นหลายคน เช่น นายหงษ์ยนต์ สมบูรณ์ชัย นายกเทศมนตรี ต.ป่าแงะ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ได้จัดกิจกรรมเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงยกตำบลทั้ง 18 หมู่บ้านของ ต.ป่าแงะ โดยมีมวลชนเข้าร่วมประมาณ 500 คน ซึ่งมี นายสมชัย แสงทอง แกนนำกลุ่มเสียงประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.เชียงราย เป็นคนประสานงาน

กิจกรรมที่จัดขึ้นครั้งนี้ ยังคงรูปแบบให้แกนนำแต่ละคนขึ้นปราศรัยบนเวที ยกย่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โจมตีพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหาร

นายอานนท์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงทั่วประเทศแล้ว 12,850 หมู่บ้าน และ อ.ป่าแดด ก็เปิดได้ 177 หมู่บ้านแล้วเหลือเพียง 4 หมู่บ้าน ก็จะถือว่าเป็นอำเภอเสื้อแดงยกอำเภอ ซึ่งเราจำเป็นต้องตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง เพื่อต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหาร ยิ่งในปัจจุบันสภาผู้แทนราษฎรเริ่มปั่นป่วน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ที่เริ่มเดินหน้า แต่การปรองดองกลับมีข้อแม้ให้ยกเลิกหมู่บ้านเสื้อแดง ซึ่งพวกเราไม่ยอม

ขณะที่ นายดาชัย กล่าวว่า ในวันที่ 12 เม.ย.55 นี้ คนเสื้อแดงจากหมู่บ้านเสื้อแดงในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน จะพากันเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่นครเวียงจันทน์ เมืองหลวงของ สปป.ลาว ตรงกันข้าม จ.หนองคาย และหากสามารถพากลับมาประเทศไทยได้ก็จะช่วยกันพากลับมา

นางนิตยา กล่าวว่า พวกเราต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศ และคืนความเป็นธรรมให้โดยคนเสื้อแดงไม่ต้องการอะไรนอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณ

นายอรรถชัย กล่าวว่า การปฏิวัติสร้างผลกระทบต่อประเทศมามาก ดังนั้น ต้องแก้มาตรา 113 ในรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การปฏิวัติทุกครั้งไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ถือว่าเป็นกบฏ และขอเตือนธนาคารทุกแห่งที่กำลังคิดจะสนับสนุนการปฏิวัติให้เลิกเสีย ไม่เช่นนั้นคนเสื้อแดงจะหยุดใช้บริการและหยุดชำระหนี้

ด้าน นายนที กล่าวว่า ถ้ามีปฏิวัติคนเสื้อแดงภาคเหนือให้ไปรวมตัวปิดถนนกันที่ จ.นครสวรรค์ ภาคอีสานที่แยก จ.สระบุรี ภาคใต้ที่ จ.สมุทรสาคร และภาคกลางที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ให้เอารถไปจอดกลางถนนบริเวณหน้าสถานที่ราชการต่างๆ โดยเฉพาะค่ายทหาร โดยพวกเราจะใช้วิธีการหยุดผลิต ส่ง จำหน่าย อาหารไปให้กับทหารที่ปฏิวัติ ตัดเส้นทางลำเลียงอาหาร ซึ่งเป็นวิธีกดดันที่ดีที่สุด โดยไม่ยอมจำนนให้กับคนต่างสีที่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ

จากนั้น สมาพันธ์ได้จัดเวทีเพื่อแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย นายอานนท์ ระบุว่า ในวันที่ 12 เม.ย.55 กลุ่มคนเสื้อแดงจะเดินทางไปทำพิธีผูกฮักผูกแพง หรือผูกขวัญ ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่นครเวียงจันทน์ ซึ่งก็คล้ายกับประเทศทางภาคเหนือ คือ รดน้ำดำหัวตามประเพณีสงกรานต์ โดยครั้งนี้จะเดินทางไปเฉพาะภาคเหนือและอีสานเท่านั้น เพราะทาง พ.ต.ท.ทักษิณ จะเปิดโอกาสให้คนภาคเหนือและอีสานพบที่นครเวียงจันทน์ได้ระหว่างวันที่ 12-13 เม.ย.55 ส่วนคนภาคอื่นๆ ทั้งภาคกลาง ตะวันออก ใต้ จะเปิดให้ไปพบที่เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ในวันที่ 14-15 เม.ย.55 แทน

คนเสื้อแดง จะเริ่มออกเดินทางจาก จ.เชียงราย ไปรวมตัวกันที่ จ.หนองคาย หลังรับประทานอาหารเที่ยง ก็จะข้ามแม่น้ำโขงไปเวียงจันทน์ และช่วงบ่ายทางแกนนำสมาพันธ์ของแต่ละจังหวัดจะเข้าพบปะพูดคุยและปรึกษาหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนเดินทางกลับในวันเดียวกัน

ทั้งนี้ แกนนำเสื้อแดง ระบุว่า จะมีคนเสื้อแดงภาคเหนือจะเดินทางด้วยรถบัสจำนวน 20 คัน รวมทั้งหมดประมาณ 1,000 คน และภาคอีสาน 20 คัน รวมทั้งหมด 1,000 คน เช่นกัน

นางภริตพร หงษ์ธนิธร ที่ปรึกษาสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงฯ ระบุว่า การเดินทางครั้งนี้ เนื่องจากมีทุนน้อยจึงจะมีการเก็บค่าใช้จ่ายผู้จะร่วมเดินทางไปคนละ 1,000-1,500 บาท ซึ่งจะมากน้อยแล้วแต่ระยะทางใกล้ไกลของแต่ละจังหวัด เช่น พิษณุโลกใช้ค่าใช้จ่ายคนละ 1,000 บาท เพราะอยู่ใกล้แต่กรณีเชียงรายอาจจะถึง 1,500 บาท

นายอรรถชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนขอยืนยันว่า การเคลื่อนไหวของหมู่บ้านเสื้อแดงไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างใด แต่สาเหตุที่เดินทางไป สปป.ลาว ในครั้งนี้ก็เพราะเคารพในฐานะผู้มีคุณประโยชน์ต่อบ้านเมือง ที่ผ่านมา ไม่เคยขอเงินและได้เงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เลย

จากนั้นมีการเปิดโอกาสให้ซักถามกรณีมีแกนนำคนเสื้อแดงลงสมัครรับเลือกตั้งระดับท้องถิ่นหลายจังหวัด ซึ่งแกนนำหลายคนระบุว่า เมื่อมีการเลือกตั้งท้องถิ่นมักจะพ่วงด้วยปัญหาเสมอ แต่จะใช้แนวทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้คนส่วนใหญ่เลือกหากว่าคนเสื้อแดงเลือกให้แกนนำคนใดลงสมัครก็จะมีการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ซึ่งในปัจจุบันระดับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มีการส่งตัวแทน คือ นายดาชัย ลงสมัครที่ จ.ลำปาง และอีกแห่งคือ ที่ จ.อุดรธานี โดยแนวทางคือให้คนเสื้อแดงส่วนใหญ่เลือกคนลงสมัคร ไม่ใช่ปล่อยให้พรรคการเมืองส่งคนที่ไม่รู้จักลงสมัครรับเลือกตั้ง