แดงเชียงราย เปิดหน้าฟัดแดงเพื่อไทย ชิงเก้าอี้ “นายกเล็ก”- สู้ “จงสุทธนามณี”

เชียงราย - หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดงเชียงราย เดินหน้าลงสมัครชิงเก้าอี้ “นายกเล็กนครเชียงราย” ชนเครือข่าย “แดงเพื่อไทย” ขณะที่ “วันชัย จงสุทธนามณี” สามีนายก อบจ.ที่เคยครองเก้าอี้มาหลายสมัย เปิดหน้าร่วมชิงชัยอีกครั้ง

วันนี้ (28 มี.ค.) ที่สำนักงานเทศบาลนครเชียงราย ถนนอุตรกิจ อ.เมือง จ.เชียงราย คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เทศบาลนครเชียงราย ได้จัดให้มีการรับสมัครผู้จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงราย ภายหลังจาก นายสมพงษ์ กูลวงศ์ นายกเทศมนตรีในสมัยที่ผ่านมา ได้หมดวาระลงตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.55 ที่ผ่านมา และทาง กกต.จัดให้มีการเลือกตั้งวันที่ 5 พ.ค.55 นี้

โดยบรรยากาศการรับสมัครปีนี้คึกคักมากกว่าทุกปี มีผู้ให้การสนับสนุน หรือกองเชียร์จากหลายฝ่ายพากันถือป้ายยกขบวนไปให้กำลังใจผู้สมัคร ที่ไม่มีพลิกโผ คือ มีเพียง 3 คน คือ นายสมพงษ์ ซึ่งลงสมัครอีกครั้งในนามกลุ่มอาสาประชา ที่มี นายสามารถ แก้วมีชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย เขต 1 พรรคเพื่อไทย ให้การสนับสนุน และมีบรรดาอดีตเทศมนตรีและกองเชียร์เดินทางไปให้กำลังใจครบครัน

คนที่สอง เป็นคู่แข่งสำคัญ คือ นายวันชัย จงสุทธนามณี อดีตนายกเทศมนตรีหลายสมัย และล่าสุด เป็นผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย แต่แพ้ให้กับ นายสามารถ แก้วมีชัย โดยครั้งนี้ นายวันชัย ลงสมัครในนามกลุ่มวันชัยพัฒนา มีกองเชียร์ถือป้ายและดอกกุหลาบแดงไปให้กำลังใจมากกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ จนทำให้ลานหน้าสำนักงานแน่นขนัดและอื้ออึงไปด้วยเสียงกองเชียร์ รวมทั้ง นางรัตนา จงสุทธนามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ภรรยาของ นายวันชัย ก็เดินทางมาให้กำลังใจด้วย

นอกจากนี้ ยังมีผู้สมัครอีกคน คือ นายวิทยา ตันติภูวนารถ แกนนำกลุ่มคนเจียงฮายรักประชาธิปไตย ซึ่งเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวมานาน เดินทางไปสมัครพร้อมกองเชียร์คนเสื้อแดงครบครัน

เมื่อถึงเวลารับหมายเลขเลือกตั้ง ปรากฏว่า ทุกคนเดินทางไปก่อนเวลาพร้อมกัน ทำให้ทาง กกต.โดย นางสุรนิตย์ อ่องฬะ ผอ.กกต.เทศบาลนครเชียงราย จัดให้มีการจับสลาก ปรากฏว่า นายวันชัย จับได้หมายเลข 1 นายวิทยา หมายเลข 2 และ นายสมพงษ์ ได้หมายเลข 3 จากนั้นจึงจัดให้ผู้สมัครแต่ละคนลงสมัครอย่างเป็นทางการและแยกย้ายกันออกไปหาเสียงต่อไป

นายสมพงษ์ กล่าวว่า ตนเน้นนโยบายการเรื่องการบริหารงานอย่างโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ และแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่าประชาชนสามารถมีส่วนร่วมกับการตรวจสอบได้ทุกเรื่อง นอกจากนี้ ยังมุ่งพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน สร้างถนนไป 100 กว่าสาย พัฒนาระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ ดำเนินนโยบายถนนคนเดินบนถนนธนาลัย สนับสนุนโครงการถนนคนม่วนชุมชนสันโค้งหลวง และถนนคนเดินของชุมชนป่างิ้ว ฯลฯ รวมทั้งได้รับรางวัลมากมาย และหากได้รับเลือกตั้งอีกก็จะมุ่งสานต่องานเดิมและพัฒนาเพิ่มเติมหลายโครงการ เช่น นำสายไฟฟ้าลงสู่พื้นดินบนถนนสายหลักๆ เช่น ธนาลัย บรรพปราการ ฯลฯ

ด้าน นายวันชัย กล่าวว่า ตนมีนโยบายจะพัฒนาเทศบาลนครเชียงรายให้เป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน ให้ประชาชนได้มีความสุขและคุณภาพชีวิตที่มั่นคง รวมทั้งพัฒนาสิ่งต่างๆ ให้เจริญก้าวหน้า พัฒนาการศึกษา ฯลฯ เพื่อรองรับการเป็นประตูสู่อาเซียนและประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในปี 2558 เป็นต้นไป รวมทั้งรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านอื่นๆ ในอนาคต สำหรับกรณีที่ตนเคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภูมิใจไทย นั้น ตนถือว่า ผ่านพ้นไปแล้วและในการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่นนั้น ตนลงสมัครในนามอิสระไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใด เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตว่าต้องดีกว่าและดีที่สุด

ขณะที่ นายวิทยา กล่าวว่า ตนมีนโยบายคืนภาษีให้กับประชาชน โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะในอดีตการบริหารท้องถิ่นงบประมาณหายไปกว่า 30-40% กว่าจะถึงประชาชน ทำให้การขับเคลื่อนนโยบายแต่ละโครงการไม่เป็นรูปธรรม ดังนั้น ตนจะเดินตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี หากได้รับเลือกตั้งสิ่งแรกที่จะดำเนินการ คือ การให้งบประมาณให้แต่ละชุมชนไปพัฒนาพื้นที่แต่ละชุมชนเองเป็นการกระจายงบประมาณสู่มือประชาชนโดยตรง

ส่วนกรณีที่ต้องแข่งขันกับกลุ่มที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย หนุนหลังนั้น ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะจากการที่ลงไปสัมผัสประชาชนตามชุมชนต่างๆ พบว่า เขาต้องการทางเลือกใหม่ และเชื่อว่า ผู้คนจะไม่ลืมความเป็นเสื้อแดง โดยเฉพาะผู้ที่เสียชีวิตในการชุมชุม 91 ศพ บาดเจ็บอีกร่วม 2,000 คน

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับเทศบาลนครเชียงราย มีงบประมาณ ทั้งงบประมาณสนับสนุน การจัดเก็บ การบริหาร ฯลฯ รวมปีละประมาณ 400 ล้านบาท