ประจวบครีขันธ์ - เครื่องบินเกษตร 3 ลำ ตั้งฐานปฏิบัติภารกิจทำฝนหลวงที่กองบิน 5 ประจวบคีรีขันธ์ หลังประสบภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบกับน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร และอุตสาหกรรม
วันนี้ (25 มี.ค.) นายแทนไทร์ พลหาญ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ได้รับการร้องขอจาก นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้เข้ามาตั้งฐานปฏิบัติการทำฝนเทียมที่กองบิน 5 โดยใช้เครื่องบินคาราแวน หมายเลข 1914, 1915 และ 1922 จำนวน 3 ลำปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา เพื่อทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่ลุ่มน้ำ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวประสบภัยแล้งต่อเนื่องยาวนาน ทำให้น้ำดิบในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ อาทิ เขื่อนปราณบุรี เขื่อนยางชุม อ่างเก็บน้ำคลองบึง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางมีปริมาณน้อยมากในรอบหลายสิบปี ส่งผลกระทบกับน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร และอุตสาหกรรม
นายแทนไทร์ กล่าวอีกว่า การทำฝนหลวงในพื้นที่ลุ่มน้ำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประสบปัญหาเนื่องจากสภาพพื้นที่ทุกอำเภอ ทิศตะวันตกติดประเทศพม่า และตะวันออกติดอ่าวไทย ทำให้พื้นที่ฝนตกมีความกว้างไม่มาก และการปฏิบัติการโปรยสารเคมีต้องรอให้มีการรวมตัวของกลุ่มเมฆชั้นล่าง และมีปริมาณความชื้นสัมพัทธ์เพียงพอตามหลักวิชาการ ขณะที่การขึ้นบินแต่ละวันใช้งบประมาณ 50,000-100,000 บาท
แต่หลายวันที่ผ่านมาความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศมีไม่เกินร้อยละ 40 รวมทั้งปัญหาหย่อมความกดดันอากาศสูงได้แผ่ลงมาปกคลุม ทำให้การปฏิบัติการไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากกระแสลมตะวันออกค่อนข้างแรง เจ้าหน้าที่ต้องหยุดปฏิบัติภารกิจในบางวัน โดยต้องคอยตรวจสอบสภาพอากาศในแต่ละวัน ว่า จะเอื้ออำนวยต่อการขึ้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ทั้งนี้ จากที่ขึ้นบิน 10 วันจะมีฝนตกลงมาประมาณ 9 วันโดยเน้นในพื้นที่ให้กลุ่มฝนตกลงในอ่างเก็บน้ำคลองบึง อ.เมือง เขื่อนยางชุม อ.กุยบุรี และเขื่อนปราณบุรี ซึ่งคาดว่าจะต้องตั้งฐานที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีกำหนด
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต้องยอมรับว่า เป็นภัยแล้งที่ต่อเนื่องมาหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อปี 2553 ในขณะที่จังหวัดอื่นๆ เกิดฝนตก น้ำท่วม แต่ที่ประจวบฯประสบภัยแล้ง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำคลองบึง อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ น้ำแทบจะแห้งทั้งหมด ต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีการเดินท่อส่งน้ำจากคลองกุยบุรี มาผลิตน้ำปะปาให้พื้นที่ในเขต
เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้ใช้อาจพูดได้ว่าทั้งจังหวัดก็ว่าได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ขอให้ทางหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง มาตั้งฐานที่ กองบิน 53 เพื่อต้องการให้เกิดฝนตกลงในพื้นที่แห้งแล้งที่เป็นเป้าหมายสำคัญ ตามลุ่มน้ำทั้งอ่างเก็บน้ำคลองบึง เขื่อนยางชุม และเขื่อนปราณบุรี ซึ่งต้องส่งน้ำไปใช้ในพื้นที่เศราฐกิจอย่างอำเภอหัวหิน ขณะนี้จากขึ้นทำฝนของเจ้าหน้าที่ส่งผลให้สภาพผืนป่า เริ่มดีขึ้นและเริ่มมีน้ำไหลเข้าอ่างเป้าหมาย ก็ส่งผลให้ภัยแล้งดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาเพราะการทำฝนที่ค่อนข้างจะได้ผล