สุรินทร์ - ทหาร และฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ รุกประชุมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและลดความหวาดระแวงกับทหารกัมพูชาที่ช่องกร่าง ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.พนมดงรัก สุรินทร์ ขณะทหารเขมรหวาดระแวงกล่าวหาเครื่องบิน “ยูเอวี” ไทยขึ้นบินรุกล้ำเขตแดนบ่อยครั้ง พร้อมจัดแข่งวอลเลย์บอลทหารไทยพลาดท่าพ่ายเขมรชื่นมื่น
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่บริเวณจุดผ่อนปรนช่องกร่าง บ้านรุน ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พ.อ.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ร่วมกับนายชาติชาย รัตนภานพ นายอำเภอพนมดงรัก หัวหน่วยทหารชุดเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี หัวหน้าหน่วยงานราชการที่เกี่ยว พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้ร่วมประชุมสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกัน ลดความหวาดระแวงกับทหาร ตำรวจ ประจำพื้นที่ชายแดน ของประเทศกัมพูชา นำโดย พล.ต.ม็อก สุวรรณ ผู้บังคับการทหารประจำจังหวัดอุดรมีชัย, นายติง เฮิน นายอำเภอสำโรง จังหวัดอุดรมีชัย และทหารที่ปฏิบัติงาน ตามแนวชายแดน ที่ติดกับประเทศไทย ด้าน จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์
ทั้งนี้ เป็นการประชุมสร้างความเข้าใจ ที่ดีต่อกัน และลดความหวาดระแวงต่อกัน โดยได้มีการเจรจาและทำความเข้าใจให้ถูกต้องตามความเป็นจริง และเป็นที่ยอมรับของเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศ
ในการประชุมร่วมกันในวันนี้ ทางฝ่ายทหารไทย ได้ขอให้จ้าหน้าที่ทหารกัมพูชา และผู้เกี่ยวข้อง ได้แจ้งแก่นาย ปวนแป๊ะ ราษฎรชาวกัมพูชา บ้านทมอโดน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ พื้นที่ชายแดนไทย ที่ได้เข้ามาบุกรุก ทำไร่ปลูกมันสำปะลัง และทำนา ในพื้นที่บริเวณพื้นที่ของไทย โดยเป็นการบุกรุกเอาพื้นที่ตรงแนวชายแดนของไทย ในพื้นที่บ้านไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ 10 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารไทย ได้แจ้งให้หยุดทำการเกษตร และถอนการทำกิน เข้าไปในเขตประเทศ กัมพูชาแล้ว ซึ่ง พล.ต.ม็อก สุวรรณ ยืนยันว่า ได้แจ้งให้ชาวกัมพูชา รายดังกล่าวหยุดการบุรุกเข้าในเขตแดนไทย หลังจากทำการเก็บเกี่ยวหัวมันสำปะลังเสร็จแล้ว
ส่วนประเด็นการเปิดช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เป็นด่านผ่านแดนถาวร ตามที่ฝ่ายกัมพูชา ร้องขอ ขณะนี้กรรมาธิการการค้าชายแดน สภาผู้แทนราษฎรไทย ได้เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ความพร้อม ในพื้นที่ ช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด และพื้นที่ตรงข้าม คือช่องชุปดกกี ในฝั่งประเทศกัมพูชา คาดว่าจะมีการเปิดเป็นด่านผ่านแดนถาวรได้ในปีนี้ ซึ่งอยู่ในขั้นการดำเนินงานของทางอำเภอบ้านกรวดและจังหวัดบุรีรัมย์
ด้านปัญหายาเสพติด และการลักลอบตัดไม้พะยูง บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ติดต่อกับจังหวัดสุรินทร์ และบุรีรัมย์ ได้ลดลงไปมาก โดย พล.ต.ม็อก สุวรรณ ผู้บังคับการทหารประจำจังหวัดอุดรมีชัย ได้สั่งการจับกุมอย่างเฉียบขาด โดยส่วนหนึ่งพบว่า มีเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชา เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ทางกัมพูชา ได้สั่งการให้จับกุมและย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ ทำให้ปัญหาลดลง
สำหรับฝ่ายกัมพูชา ต้องการขอความร่วมมือ กับทหารไทย เพื่อขออนุญาต นำคนเจ็บ ป่วย เข้ามารักษา ภายในโรงพยาบาลของประเทศไทย ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผ่านช่องกร่าง อ.พนมดงรัก โดยฝ่ายกัมพูชา ยินดี ที่จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งการเดินทาง และการรักษาพยาบาล ซึ่งนายอำเภอพนมดง จ.สุรินทร์ เป็นผู้ประสานด้านโรงพยาบาลให้ และให้ทหารไทย ประจำช่องกร่าง ดูแลด้านการผ่านแดนและส่งถึงโรงพยาบาลตามที่ได้กำหนดในการรักษา
ในส่วนเรื่องความหวาดระแวงของฝ่ายทหารกัมพูชา ที่กล่าวหาว่าในช่วงที่ผ่านมา ทหารไทยส่งเครื่องบิน UAV หรืออากาศยานไร้คนขับรุกล้ำ หรือขึ้นบินเหนือพื้นที่ชายแดนบ่อยครั้ง ทำให้ทหารกัมพูชา ไม่พอใจหรือหวาดระแวง นั้น พ.อ.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผบ.ฉก.ทพ.ุ26 ยืนยันว่า ไม่มีเด็ดขาด และได้สอบถามผู้บังคับบัญชา ในแผนการขึ้นก็ยืนยันว่า ไม่มีแน่นอน สงสัยเป็นของทหารกัมพูชา ส่งขึ้นบินเองหรือไม่ พล.ต.ม็อก สุวรรณ แจ้งว่า ทหารกัมพูชา ไม่มีเครื่องบินแบบUAV และสอบถามผู้บังคับชาแล้วไม่มีเช่นกัน ทางด้าน พ.อ.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผบ.ฉก.ทพ.26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 จึงได้แจ้งในที่ประชุมว่า หากเป็นเช่นนั้นทหารทั้งสองฝ่าย ก็ต้องช่วยกันยิงให้ตก ทำให้ทหารกัมพูชาพอใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การประชุมและหารือสร้างความเข้าใจ ลดความหวาดระแวงต่อกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของไทยครั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น เป็นกันเอง และสามารถเจรจาสร้างความเข้าใจ กันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ พ.อ.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผบ.ฉก.ทพ.26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เป็นชาวสุรินทร์โดยกำเนิด การพูด และเจรจาแทบไม่ต้องใช้ล่ามแปลภาษาไทยเป็นเขมร เพราะสามารถพูดภาษาเขมร ได้อย่างคล่องแคล่ว และทำความเข้าใจกันได้อย่างชัดเจน
หลังเลิกการประชุม พ.อ.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผบ.ฉก.ทพ.26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้มอบเงินสด จำนวน 5,000 บาท ให้แก่ พล.ต.ม็อก สุวรรณ ผู้บังคับการทหารประจำจังหวัดอุดรมีชัย เพื่อนำไปมอบให้กับชาวกัมพูชา ที่อยู่ใกล้ชายแดนกัมพูชา และอยู่ใกล้กับ ปราสาทตาเมือนธม ของไทย ที่ถูกไฟไหม้บ้านเสียหายหลายหลัง ซึ่งเกิดจากไฟป่า ที่ชาวบ้านกัมพูชาจุดเผาหาของป่า แต่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา ได้รายงานผู้บังคับบัญชาไปว่า ทหารไทยเป็นฝ่ายเผานั้น ไม่เป็นความจริง และผู้ที่รายงานเรื่องไม่จริงไปยังผู้บังคับบัญชา ก็เดินทางมาร่วมประชุมกับฝ่ายไทย ด้วยและยอมรับว่าเป็นผู้รายงานผิดพลาดไป
จากนั้นทหารพรานหน่วยเฉพาะกิจ ที่ 26 ไทย และทหารกัมพูชา ได้ทำการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลเชื่อมความสัมพันธ์กัน ปรากฏว่า ทหารพรานหน่วยเฉพาะกิจ ที่ 26 ไทย เป็นฝ่ายแพ้ให้กับทหารกัมพูชา 1 ต่อ 2 เซ็ต