ทหารไทยจัดระเบียบกำลัง คุมเข้มชายแดนเขมรด้านสุรินทร์-ชาวบ้านผวาปะทะอีก

สุรินทร์- ทหารไทย กกล.สุรนารี ทภ.2 จัดระเบียบกำลังพลคุมเข้มพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ทั้ง 11 จุด เพื่อความมั่นคงในการป้องกันรักษาอธิปไตยไทยไม่ให้ใครรุกล้ำ หากยังเหิมเจอเบาไปหาหนัก “ผบ.ทหารพราน”ยันไม่มีความขัดแย้ง การดำเนินงานทุกอย่างได้ประสานงานทำความเข้าใจกับทหารเขมรทั้งในพื้นที่และระดับผู้บังคับบัญชาแล้ว ขณะชาวบ้านผวาหวั่นเกิดปะทะอีกรอบ

วันนี้ (2 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้เกิดกระแสข่าวการเคลื่อนไหวกำลังพลของทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งฝ่ายปกครอง อ.กาบเชิง และ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้กำชับผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ให้แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ประสานกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดนอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยตลอดช่วงเดือน พ.ย.เป็นต้นมา มีกระแสข่าวทหารไทยส่งกำลังเข้าพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้สร้างความหวั่นวิตกกับประชาชนว่าอาจเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาขึ้นอีกครั้ง

พ.อ.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) ซึ่งเป็นหน่วยทหารยุทธการควบคุมพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดแนวด้าน จ.สุรินทร์ เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าว ว่า ช่วงนี้ทางหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งควบพื้นที่ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ได้มีการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างเป็นระบบ โดยก่อนดำเนินการได้มีประสานงานทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาทั้งหน่วยระดับพื้นที่และระดับผู้บังคับบัญชา ที่ควบคุมกำลังตามแนวชายแดน แล้ว

“การจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างเป็นระบบครั้งนี้ เป็นการจัดระเบียบชายแดนทางด้านการทหารที่ไม่เคยมีการดำเนินการเช่นนี้มาก่อน ซึ่งหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารที่ 26 ได้ประสานงานกับ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และ รายงานถึง แม่ทัพภาคที่ 2 อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทราบถึงการดำเนินการดังกล่าวอย่างใกล้ชิด” พ.อ.ณัฎฐ์

พ.อ.ณัฎฐ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มีการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนด้านการทหาร ด้าน จ.สุรินทร์ ไปจนครบทั้ง 11 จุด แล้ว เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยจุดสุดท้าย คือ บริเวณช่องหนองคันนา ใกล้กับบ้านหนองคันนา ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนด้านการทหารดังกล่าว เราได้ดำเนินการนำกำลังทหารพราน เข้าประจำพื้นที่ชายแดนที่เราตรวจสอบแล้วว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เขตแดนของไทย แต่เราจะไม่รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ฝั่งประเทศกัมพูชา และจุดใดเป็นจุดเสี่ยงต่อการรุกล้ำพื้นที่ เราก็จะนำกำลังเข้าไปวางไว้ โดยไม่รุกเข้าไปในเขตของกัมพูชา ขณะที่จุดใดมีการวางกำลังอยู่แล้วก็จะดำเนินการวางกำลังให้มั่นคงขึ้น ไม่มีการถอนกำลังออกมา

ส่วนพื้นที่ใดที่พบว่าฝ่ายทหารกัมพูชา นำกำลังรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย เราจะเจรจากับผู้นำทหารของเขา เพื่อให้ถอนกำลังออกไปวางในพื้นที่ของเขา ซึ่งเราทำสำเร็จมาแล้ว และพื้นใด ที่เราเห็นว่า การวางกำลังของทหารกัมพูชาในพื้นที่อ้างสิทธิ์ที่ยังไม่มีความชัดเจน เราก็จะเจรจา ให้ทหารแต่ละฝ่าย ถอนกำลังออกไป และวางกำลังในพื้นที่ของตัวเอง เพื่อรอการตรวจสอบจากคณะกรรมการปักปันเขตแดนร่วม 2 ประเทศ เพื่อเข้าสำรวจและดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป

“ การดำเนินการในการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสุรินทร์ เราได้ทำครบทั้ง 11 จุดเรียบร้อย ซึ่งจะเป็นฐานของการป้องกันรักษาอธิปไตยไม่ให้มีการรุกล้ำอธิปไตยไทยจากกองกำลังต่างชาติ หากมีการุกล้ำเข้ามาก็จะมีการเจรจากันก่อน และดำเนินการจากเบาไปหาหนัก เพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ” พ.อ.ณัฎฐ์ กล่าว

พ.อ.ณัฎฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการเฝ้าระวังและปราบปรามขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในฝั่งไทยนั้น ยังพบว่ามีชาวกัมพูชาลักลอบข้ามแดนเข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ใกล้กับด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน ที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เข้าลาดตระเวนเกิดการปะทะกับ กองลังติดอาวุธ คุ้มกันกลุ่มลักลอบตัดไม้พะยูง ที่บริเวณชายแดนไทยใกล้กับด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา มีชาวกัมพูชาเสียชีวิต 1 คน และได้ประสานงานเจ้าหน้าที่กัมพูชามารับศพ ในช่วงค่ำวันเดียวกันกลับประเทศกัมพูชา ดังนั้นเจ้าหน้าที่เรายังมุ่งมั่นป้องกันรักษาทรัพยากรป่าไม้ของไทยและปราบปรามอย่างเด็ดขาดต่อไป