xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ภาค 3 บุกทลายอู่แหล่งสวมซากรถยนต์รายใหญ่หลอกขาย ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.ภาค 3 บุกทลายอู่ซ่อมรถเมืองบุรีรัมย์ แหล่งสวมซากรถยนต์หลอกขาย ปชช.รายใหญ่ สารภาพรับซื้อซากรถที่เกิดอุบัติเหตุและซื้อรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมหรือรถหลุดจำนำมาในราคาถูก ก่อนตัดเปลี่ยนเลขตัวถัง เลขเครื่องตบตาเจ้าหน้าที่ ส่งขายให้เต็นท์รถมือ 2 ในอีสาน ด้าน ผบช.ภ.3 เผยทำได้เนียนมากสังเกตด้วยตาเปล่าไม่เห็น แนะก่อนซื้อรถมือ 2 ควรให้ขนส่งตรวจสภาพโดยละเอียดก่อนป้องกันตกเป็นเหยื่อ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (21 มี.ค.) ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วยรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการสวมซากรถยนต์หลอกขายให้กับประชาชนรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหารวม 2 คน ประกอบด้วย นายกิตติศักดิ์ บุญสะอาด อายุ 50 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถสมศักดิ์อะไหล่ยนต์ ตั้งอยู่ที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ และนายท็อปศิริ มิชาลี ช่างเชื่อมอู่ซ่อมรถสมศักดิ์ฯ พร้อมของกลางรถยนต์ที่ถูกสวมซากกว่า 10 คัน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการสืบสวนหาข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พบว่า มีแหล่งดัดแปลงสวมซากรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุ โดยสวมกับรถยนต์ที่ถูกลัก หรือหลบหนีไฟแนนซ์ เพื่อทำให้รถยนต์ที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีหมายเลขทะเบียน หมายเลขเครื่อง หมายเลขตัวรถตรงตามสมุดคู่มือจดทะเบียน เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ การสืบสวนทราบว่าอู่สมศักดิ์อะไหล่ยนต์ ตั้งอยู่ที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ โดยนายกิตติศักดิ์ บุญสะอาด อายุ 50 ปี เจ้าของ เป็นแหล่งสวมซากรถดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงขอหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์เข้าตรวจค้นอู่ดังกล่าวเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา

ผลการตรวจค้นพบรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีฟ้า ทะเบียน บธ 3916 ชัยภูมิ มีนายท็อปศิริ กำลังเชื่อมต่อเลขตัวรถ และพบชิ้นส่วนรถยนต์ยี่ห้อและชนิดต่างๆ จำนวนมาก สอบถาม นายกิตติศักดิ์ ให้การว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถซ่อมได้ จึงสั่งซื้อรถยนต์ที่มียี่ห้อและรุ่นตรงกันจากนายถวิล ไม่ทราบนามสกุล ในราคา 1.2 แสนบาท จากนั้นได้ให้ นายท็อปศิริ ทำการตัดตัวเลขตัวรถเดิมออกแล้วนำเลขตัวรถของคันหมายเลขทะเบียน บธ 3916 ชัยภูมิ มาเชื่อมต่อ พร้อมตกแต่งรถให้อยู่ในสภาพดีก่อนส่งออกไปขาย

โดยจากการตรวจสอบข้อมูลรถยนต์คันดังกล่าว พบเอกสารหลักฐานบัตรประกันสุขภาพ ระบุชื่อ นายพิทักษ์ สายบุตร ชาว อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี จึงติดต่อสอบถามทราบว่า รถคันดังกล่าวหมายเลขทะเบียนเดิมคือ บบ 9896 อุบลราชธานี ถูกโจรกรรมไปเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2555 และได้แจ้งหายไว้ที่ สน.บางขุนเทียน กรุงเทพฯ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผลและสามารถตรวจยึดรถยนต์ที่สวมซาก และส่งไปจำหน่ายตามร้านจำนวนรถยนต์มือสองในพื้นที่ต่างๆ ของภาคอีสาน เช่น จ.อุบลราชธานี, จ.บุรีรัมย์, อำนาจเจริญ และ จ.นครราชสีมา ได้จำนวนกว่า 10 คัน

พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการทลายแหล่งสวมซากรถรายใหญ่ และผู้กระทำผิดเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการตัดแต่ง ดัดแปลงรถยนต์เป็นอย่างดี ประชาชนที่ซื้อรถยนต์มือสองไป ไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าถึงความผิดปกติ เนื่องจากช่างมีฝีมือและทำได้เหมือนจริงมาก ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า อู่สมศักดิ์ ได้ทำการสวมซากรถยนต์มาแล้วกว่า 100 คัน และส่งไปขายตามเต็นท์รถมือ 2 ในภาคอีสาน และขายให้กับประชาชนทั่วไป

สำหรับพฤติกรรมของคนร้ายกลุ่มนี้ คือ รับซื้อรถยนต์จากขบวนการโจรกรรม, รถยนต์หลุดจำนำ หรือรถยนต์ที่ขาดส่งค่างวดมาในราคาถูก จากนั้นก็รับซื้อซากรถที่เกิดอุบัติเหตุตามสถานีตำรวจต่างๆ ซึ่งมีสมุดจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนมาตัดเปลี่ยนเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ ทำสีให้ตรงกับซากรถยนต์ที่รับซื้อมา ส่งตรวจผ่านสำนักงานขนส่งจังหวัด และจำหน่ายให้กับร้านจำหน่ายรถยนต์มือ 2 ในจังหวัดต่างๆ หรือขายให้กับคนซื้อโดยตรง ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการขยายผลไปยังขบวนการโจรกรรมรถยนต์ที่ส่งขายให้กับอู่สมศักดิ์แล้ว

อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนไปยังประชานว่า หากจะซื้อรถยนต์มือ 2 ควรให้เจ้าหน้าที่ขนส่งตรวจสภาพโดยละเอียดก่อน เพื่อป้องกันการตกเป็นเหลือของมิจฉาชีพกลุ่มนี้







กำลังโหลดความคิดเห็น