xs
xsm
sm
md
lg

เมืองน่านแล้งเข็ญ ชาวบ้านเข้าป่า-แหย่ไข่มดแดง เก็บผักหวานขายริมทาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


น่าน - เมืองน่านแล้งหนัก เกษตรกรปลูกพืชผักไม่ได้ ต้องหันมาหาแหย่ไข่มดแดง เก็บผักหวานและหาปลาขาย สร้างรายได้วันละ 200-300 บาทเลี้ยงครอบครัวสู้แล้งเข็ญ

ช่วงนี้คนที่ขับรถผ่านไปมาบนเส้นทางสายแพร่-น่าน ตามหมู่บ้านต่าง ๆ รายทางจะเห็นภาพชาวบ้านตั้งซุ้มหรือโต๊ะเล็กๆ ข้างทาง ขายสินค้ายอดฮิตคือ ผักหวานป่า พร้อมกับไข่มดแดง หลายคนเคยแวะซื้อไปทำอาหารเมนูยอดฮิต “แกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง” หรือซื้อฝากคนอื่น แต่ขณะเดียวกันเมนูนี้ ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความแห้งแล้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้เช่นกัน

นางประกาย เสาร์จันทร์ ชาวบ้านแม่สาคร ตำบลแม่สาคร อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน กล่าวว่า ตระเวนหาไข่มดแดงมาเกือบทั้งวันได้ไข่มดแดงเกือบเต็มกระติ๊บ เพื่อมานั่งขายตลาดริมทาง ช่วงนี้ไม่สามารถที่จะประกอบอาชีพทางการเกษตรได้เนื่องจากเกิดความแห้งแล้ง ปลูกพืชไม่ได้ ต้องหันมาทำอาชีพหาไข่มดแดงขายจานละ 20 บาท ซึ่งก็ทำรายได้ดีวันละ 200-300บาท พอสำหรับเลี้ยงครอบครัวไปจนหมดแล้งนี้ ส่วนที่เห็นมีการเผาป่าอยู่ขณะนี้เป็นการเผาป่าของพวกปลูกข้าวโพดที่ขยายพื้นที่ปลูกข้าวโพดเพราะตอนนี้ข้าวโพดราคาดี

สำหรับการเก็บผักหวานที่ขณะนี้กำลังแตกยอดกันจำนวนมาก ซึ่งราคาก็แพงพอสมควร สนนราคา ถ้า ยอดอ่อน ราคากิโลกรัมละ 200 บาท ในแต่ละวันชาวบ้านที่ขึ้นไปหาผักหวานก็จะได้อยู่ประมาณ คนละ 200-300บาท หากไปยังพื้นที่ห่างไกลหลายสิบกิโลเมตร ก็จะได้ผักหวานตกวันละประมาณ 400 -500 บาท ที่บริเวณสองข้างทางถนนสายหลักต่าง ๆ ของจังหวัดน่านบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างนำผักหวานป่ามาวางขายกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งผักหวานป่าเป็นผักที่คุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้งโปรตีน เกลือแร่ และวิตามิน มีรสชาติอร่อย นำมาประกอบอาหารได้ทั้ง ผัดใส่ไข่มดแดง ผัดใส่เห็ดฟาง ใส่แกงเลียง ต้มปลา แกงอ่อม ฯลฯ

นางจง จิน ชาวบ้านบ้านชมพูตำบลอ่ายนาลัย อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน กล่าวว่า “ผักหวานป่า” มีผลผลิตปีละครั้ง ขณะนี้กำลังออกสู่ตลาด ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงต้นฤดู ทำให้ผักหวานป่ามีราคาขายปลีกสูงถึงกิโลกรัมละ 200 บาท เป็นห่อ 20 บาทในแต่ละวันจะขายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 2-3กิโลกรัม สามารถสร้างรายได้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านที่เข้าป่าหาเก็บได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังมีส่วนประกอบอื่นที่ขายควบคู่ไปกับผักหวาน ได้แก่ ไข่มดแดง และปลาที่ชาวบ้านหามาได้จากแหล่งน้ำที่ยังพอมีอยู่ เมื่อจับมาได้เหลือกินก็นำมาขายเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว

ทั้งนี้ หน้าแล้งทุกปี ชาวบ้านเมืองน่าน ไม่สามารถทำการเกษตรได้ เนื่องจากขาดน้ำ จึงต้องหันมาแหย่ไข่มดแดง และเข้าป่าหาผักหวานมาขาย สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวตลอดฤดู โดยพวกเขาต้องออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 เข้าป่าไปหาเก็บผักหวานและไข่มดแดง ก่อนจะออกจากป่าก็ช่วงบ่ายแต่ละวัน นำไข่มดแดง - ผักหวานป่า มาวางขายข้างทาง จนทำให้มีรายได้วันละ 200-300 บาท

โดยเฉพาะการหาไข่มดแดงที่ ถือว่าเป็นสุดยอดของอาหารพื้นบ้าน และอุดมไปด้วยสารอาหารนานาชนิด ต้องใช้ความอดทดสูง เพราะต้องตระเวนหาในป่าตั้งแต่เช้ามืดถึงบ่าย ท่ามกลางอากาศร้อนเปรี้ยง เมื่อเห็นผักหวานก็เก็บผักหวาน เมื่อเห็นรังมดแดง เหมือนเห็นขุมทรัพย์อยู่บนต้นไม้ ต้องใช้ไม้ไผ่ แหย่รังมดแดงให้ไข่ตกลงไปในถุงผ้าที่ติดกับปลายไม้

จากนั้นเทใส่ถาดที่เตรียมมาพร้อมทั้งนำแป้งมันเทลงไปในถาด เพื่อไล่ตัวมดแดงที่หวงไข่ไม่ยอมหนีไป ผู้ที่หาไข่มดแดงต้องใช้ความเชี่ยวชาญ ชำนาญการเป็นพิเศษ มิฉะนั้นจะถูกมดแดงกัดและฉี่ใส่ ซึ่งจะปวดแสบปวดร้อน และเมื่อไล่กองกำลังปกป้องไข่มดแดงออกไปแล้ว ก็จะนำไข่มดแดงใส่กล่องข้าวที่สานด้วยไม้ไผ่ หรือที่ชาวอิสานเรียกว่ากระติ๊บ จนเต็มแล้วจึงนำไปวางขายตามข้างทาง


กำลังโหลดความคิดเห็น