สุรินทร์- ชาวบ้านเมืองช้างผวา เสือ ! ไม่ทราบสายพันธุ์ในป่าสาธารณประโยชน์ ออกอาละวาดขย้ำกินวัว ควายชาวบ้านตายไป 4 ตัว ไก่อีกนับสิบ ขณะจนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯเข้าตรวจสอบ พบรอยเท้าสัตว์ยันเป็นรอยเสือแน่นอน พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดักจับตัว แจ้งกำนันผู้ใหญ่บ้านเตือนปชช.ระวังตัวเองพร้อมสัตว์เลี้ยง คาดเสือหนักราว 60-70 กก. อายุ 8-9 ปี สูงราว 70 ซม. ยาวกว่า 1 เมตร
วันนี้ (17 มี.ค.) นายประสิทธิ์ ฉายกล้า กำนันตำบลเทนมีย์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา วัวของชาวบ้านอำปึล คุ้มโคกเพชร ต.เทนมีย์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ที่นำไปเลี้ยงไว้บริเวณทุ่งนา ใกล้ป่าสาธารณะประโยชน์ป่าตาหีบ ตายไป 1 ตัว
ที่บริเวณโหนกด้านหลังถูกสัตว์คล้ายเสือหรือสุนัขกัดกินเนื้อ และมีรอยเล็บตะปบบริเวณหลังวัวเป็นจำนวนมาก ตนจึงได้เดินทางไปตรวจสอบและบันทึกภาพไว้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นเสือออกมาอาละวาดกัดกินวัวของชาวบ้าน จึงได้แจ้งให้นายอำเภอทราบเรื่อง และแจ้งไปยังปศุสัตว์อำเภอเมืองสุรินทร์
จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ประสานงานมายังตน และได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร สภ.เทนมีย์ อ.เมืองสุรินทร์ และ สภ.ทะมอ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เดินทางเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณทุ่งนา พบมีรอยเท้าเสือ เดินไปยังจุดที่กัดกินวัวจนกระทั่งวัวตาย และมีร่องรอยเท้าเสือเดินรอบบริเวณหนองน้ำ รวมทั้งตามทางเดินที่เป็นดินทรายอีกหลายแห่ง ในป่าสาธารณะประโยชน์ป่าตาหีบ ใกล้ที่เกิดเหตุอย่างชัดเจน
นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ทำการตรวจสอบรอยเท้าสัตว์ดังกล่าวแล้วระบุว่าเป็นรอยเท้าเสืออย่างแน่นอน แต่ไม่ทราบว่าเป็นรอยเท้าเสือสายพันธุ์ใด คาดว่าเสือตัวนี้น่าจะมีอายุ 8-9 ปี ความสูงประมาณ 70 เซนติเมตร ตัวยาวประมาณ 1.2 เมตร น้ำหนักตัวประมาณ 60-70 กิโลกรัม
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ได้ประสานงานไปยังสำนักบริหารพื้นที่อุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์ในการดักจับเสือตัวนี้ และสั่งให้แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง เกรงว่าเสือจะทำร้ายอาจถึงแก่ชีวิตได้ และในช่วงเวลากลางคืนให้นำสัตว์เลี้ยงวัว ควาย กลับเข้าไปในหมู่บ้าน เพราะเสือจะออกหากินในช่วงกลางคืน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ได้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้แจ้งประชาชนในพื้นที่ ว่า ห้ามออกล่าเสือและฆ่าเสือ ดังกล่าว เพราะจะมีความผิดตามกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการ ตาหาเสือตัวนี้ และทำการจับเป็น เพื่อนำไปปล่อยในพื้นที่ที่เหมาะสมต่อไป
ด้าน นางสุพจน์ ขจีฟ้า อายุ 34 ปี ชาวบ้านทัพไทย ต.ทะมอ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งมีนาข้าวและกระท่อมอยู่ใกล้ป่าสาธารณะประโยชน์ป่าตาหีบ ได้นำ ไก่ วัว ควาย มาเลี้ยง และกลางคืนจะนำสัตว์เลี้ยงมาขังไว้บริเวณกระท่อม บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมาควายตนที่เลี้ยงไว้ได้ตกลูกมา 1 ตัว และได้นำไปล่ามไว้ใต้ต้นไม้ใกล้ป่าตาหีบ
ช่วงเช้าตนได้เข้าไปในหมู่บ้านพอช่วงสายกลับออกมาดู ควายแม่ลูกอ่อน อีกครั้ง พบว่า ลูกควายถูกสัตว์กัดตายและกินเนื้อเกือบหมดทั้งตัว โดยขณะที่ตนมาพบ นั้น มีสุนัขมากัดกินเนื้อลูกควายอยู่ก็คิดว่าเป็นสุนัขมากัดกินลูกควาย และไม่กี่วันต่อมาไก่ที่เลี้ยงไว้จำนวน 10 กว่าตัวก็ถูกสัตว์ไม่ทราบว่าเป็นอะไร เอาไปกัดกินหมด และมาเมื่อทราบข่าวว่ามีเสืออาละวาดก็ยิ่งทำให้ตกใจกลัว ต้องนำควาย และไก่ เข้าไปไว้ในหมู่บ้านเพื่อความปลอดภัย
นายประสิทธิ์ ฉายกล้า กำนันตำบลเทนมีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ป่าสาธารณะประโยชน์ป่าตาหีบ มีพื้นที่ กว่า 3,000 ไร่ ครอบคลุม 2 ตำบล คือ ตำบลเทนมีย์ อ.เมืองสุรินทร์ กับ ตำบลทะมอ อ.ปราสาท และมีคนเล่าว่ามีบ้านหลังหนึ่ง อยู่ใกล้กับป่าตาหีบ เคยเลี้ยงลูกเสือไว้ 1 ตัว โดยได้นำมาจากอำเภอกาบเชิง จ.สุรินทร์ ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อประมาณ 8-9 ปีที่ผ่านมา และพอเลี้ยงไปได้สักพัก เสือ ได้หลุดจากกรง วิ่งเข้าไปในป่าตาหีบ จนถึงปัจจุบันเสือตัวดังกล่าวคาดว่าจะมีอายุได้ประมาณ 8-9 ปี
ฉะนั้น ตนมั่นใจว่า เสือในป่าตาหีบดังกล่าว ต้องเป็นเสือตัวนี้แน่นอน และเสือตัวนี้กัดกิน วัว ควาย ของชาวบ้านไปแล้ว 4 ตัว มีคนเห็นเสือตัวนี้ขณะเดินข้ามถนน ไปเล่าให้ชาวบ้านฟังแต่ไม่ใครเชื่อ คิดว่าเป็นเรื่องโกหก จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นชาวบ้านจึงเริ่มเชื่อว่ามีเสือจริง
“ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้ง และมีฝนตกลงมา ชาวบ้านมักจะพากันเข้าไปในป่า เพื่อหาเก็บเห็ด เก็บผัก ดอกกระเจียว และไข่มดแดง ต่างๆ เกรงว่าจะถูกเสือทำร้ายได้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งทำการดักจับเสือตัวนี้ให้ได้โดยเร็ว หากจับไม่ได้ชาวบ้านก็จะออกล่ากันเองเพื่อความปลอดภัยของทุกคน” นายประสิทธิ์ กล่าว