นครศรีธรรมราช - เกิดเหตุการณ์เหลือเชื่อชาวบ้าน อ.นบพิตำ ผวาผีเด็กเฮี้ยนรถแบ็กโฮใหม่เอี่ยมซื้อได้แค่ 2 เดือนขุดปรับปรุงที่ป่าช้าเก่ารถเสียทำงานไม่ได้ ตกกลางคืนที่ปัดน้ำฝนทำงานเอง
เจ้าของรถยอมแพ้เลิกขุด ด้านเจ้าของที่ดินเผยคนแก่เล่าเป็นป่าช้าโบราณฝังศพเด็ก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านจำนวนมากเข้าไปดูเหตุการณ์ในที่ดินแปลงหนึ่งที่ตั้งอยู่ใน ม.6 ต.กระหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช หลังจากมีรถแบ็กโฮเข้าไปปรับแต่งที่ดิน จากเป็นป่าละเมาะรกร้างเพื่อขุดร่องยกเป็นที่สวนเตรียมปลูกยางพารา โดยรถแ็บ็กโฮที่เข้าไปทำงานนั้นทำงานได้เพียง 3 ชม. ต้องหยุดการทำงานลงเนื่องจากเครื่องยนต์ไม่ทำงาน ท่ามกลางเหตุการณ์ที่เหลือเชื่อ
นายนพวรรณ ทวีเมือง อายุ 43 ปี อยู่ 29/1 ม.6 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวเปิดเผยว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดิน นส.3 และเตรียมที่จะไปขอทำโฉนดให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมปรับพื้นที่ทำสวน โดยได้ว่าจ้างแบ็กโฮเข้ามาทำงานปรับพื้นที่ขุดยกร่องเพื่อปลูกยางพาราหรือปาล์มน้ำมัน
แบ็กโฮตัวนี้เจ้าของซื้อมาได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น แต่เมื่อยกเข้ามาทำงานในแปลงกลับมีเรื่องที่เหลือเชื่อคือทำงานไม่ได้ สตาร์ทไม่ติด หลังจากได้บนบานบอกกล่าวว่าจะนำไก่ เหล้า บุหรี่มาเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทางเพื่อขอทำประโยชน์ในที่ดิน ตั้งแต่วานนี้(21 ม.ค.) กลับปรากฏว่าแบ็กโฮสามารถสตาร์ทเครื่องติด และทำงานไปได้แค่ 3 ชม.ก็ไม่สามารถทำงานได้ทุกระบบหยุดทำงานทั้งหมด จนเจ้าของรถต้องจอดทิ้งไว้ โดยช่วงที่ทำงานนั้นได้ไปขุดพบตุ๊กตาตัวหนึ่งซึ่งเป็นของเก่าโดยที่ไม่มีใครกล้าจับต้อง
“เมื่อคืนที่ผ่านมามีเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เมื่อมีคนจำนวนมากเห็นว่ามีแสงไฟอยู่ภายในรถทั้งที่เจ้าของรถปิดล็อกรียบร้อย ทั้งยังมีเสียงโครมครามจากในห้องควบคุมแต่ไม่มีใครกล้าไปดู และมีใบปัดน้ำฝนทำงานเองตลอดทั้งคืนจนถึงช่วงเช้าจึงหยุดไป เจ้าของมาในช่วงเช้าลมแทบจับเมื่อพบว่าระบบสายไฟด้านในคล้ายกับถูกดึงกระชากอย่างรุนแรงจนขาดกระจุยกระจาย ซึ่งคนธรรมดานั้นไม่สามารถดึงสายไฟได้ขาดอย่างแน่นอน”
นายนพวรรณ กล่าวต่อว่าเดิมไม่ค่อยจะเชื่อมากนักคนเฒ่าคนแก่ได้เล่าขานต่อกันมาว่าที่ดินตรงนี้มีอาถรรพ์แรง เนื่องจากตั้งแต่โบราณนี้มาเป็นที่ดินป่าช้าเก่าจะฝังศพเด็กเท่านั้น และเป็นที่ที่ชาวบ้านบอกว่าแรงมาก ส่วนเจ้าของรถแบ็กโฮนั้นบอกว่าขอยอมแพ้ไม่ทำงานในที่ดินแปลงนี้แล้วเกรงจะเสียหายไปมากกว่านี้ ทั้งที่แบ็กโฮตัวนี้อยู่ในสภาพใหม่มาก ทำงานมาได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
ขณะเดียวกัน นายคม สุทธิรักษ์ อายุ 50 ปี ชาวบ้านใกล้กับที่ดินแปลงดังกล่าวเล่าเพิ่มเติมถึงเรื่องเหลือเชื่อว่า ตนเองเป็นคนไม่เชื่อในเรื่องเร้นลับและวิญญาณทั้งหลาย โดยได้ประกาศไปว่าผีหรือจะดีกว่าคน และได้เอาวัวไปเลี้ยงในที่ดินแปลงนี้ วัวกลับตายไปโดยไม่รู้สาเหตุปีละตัวจนชาวบ้านมาบอกว่าให้ไปขอขมาเสีย ตนไม่ขอขมายังยืนยันคำเดิมว่าผีหรือจะดีกว่าคนและยังไปล่ามวัวในที่ดินดังกล่าวต่อไปกลับปรากฏว่าวัวตายเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 2 ตัว
ส่วนพื้นที่ดังกล่าวนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านได้แวะเวียนมาดูเหตุการณ์จำนวนมากโดยเมื่อตกค่ำลงจะไม่มีใครกล้าสัญจรผ่านเส้นทางสายนี้เลย
เจ้าของรถยอมแพ้เลิกขุด ด้านเจ้าของที่ดินเผยคนแก่เล่าเป็นป่าช้าโบราณฝังศพเด็ก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านจำนวนมากเข้าไปดูเหตุการณ์ในที่ดินแปลงหนึ่งที่ตั้งอยู่ใน ม.6 ต.กระหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช หลังจากมีรถแบ็กโฮเข้าไปปรับแต่งที่ดิน จากเป็นป่าละเมาะรกร้างเพื่อขุดร่องยกเป็นที่สวนเตรียมปลูกยางพารา โดยรถแ็บ็กโฮที่เข้าไปทำงานนั้นทำงานได้เพียง 3 ชม. ต้องหยุดการทำงานลงเนื่องจากเครื่องยนต์ไม่ทำงาน ท่ามกลางเหตุการณ์ที่เหลือเชื่อ
นายนพวรรณ ทวีเมือง อายุ 43 ปี อยู่ 29/1 ม.6 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวเปิดเผยว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดิน นส.3 และเตรียมที่จะไปขอทำโฉนดให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมปรับพื้นที่ทำสวน โดยได้ว่าจ้างแบ็กโฮเข้ามาทำงานปรับพื้นที่ขุดยกร่องเพื่อปลูกยางพาราหรือปาล์มน้ำมัน
แบ็กโฮตัวนี้เจ้าของซื้อมาได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น แต่เมื่อยกเข้ามาทำงานในแปลงกลับมีเรื่องที่เหลือเชื่อคือทำงานไม่ได้ สตาร์ทไม่ติด หลังจากได้บนบานบอกกล่าวว่าจะนำไก่ เหล้า บุหรี่มาเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทางเพื่อขอทำประโยชน์ในที่ดิน ตั้งแต่วานนี้(21 ม.ค.) กลับปรากฏว่าแบ็กโฮสามารถสตาร์ทเครื่องติด และทำงานไปได้แค่ 3 ชม.ก็ไม่สามารถทำงานได้ทุกระบบหยุดทำงานทั้งหมด จนเจ้าของรถต้องจอดทิ้งไว้ โดยช่วงที่ทำงานนั้นได้ไปขุดพบตุ๊กตาตัวหนึ่งซึ่งเป็นของเก่าโดยที่ไม่มีใครกล้าจับต้อง
“เมื่อคืนที่ผ่านมามีเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เมื่อมีคนจำนวนมากเห็นว่ามีแสงไฟอยู่ภายในรถทั้งที่เจ้าของรถปิดล็อกรียบร้อย ทั้งยังมีเสียงโครมครามจากในห้องควบคุมแต่ไม่มีใครกล้าไปดู และมีใบปัดน้ำฝนทำงานเองตลอดทั้งคืนจนถึงช่วงเช้าจึงหยุดไป เจ้าของมาในช่วงเช้าลมแทบจับเมื่อพบว่าระบบสายไฟด้านในคล้ายกับถูกดึงกระชากอย่างรุนแรงจนขาดกระจุยกระจาย ซึ่งคนธรรมดานั้นไม่สามารถดึงสายไฟได้ขาดอย่างแน่นอน”
นายนพวรรณ กล่าวต่อว่าเดิมไม่ค่อยจะเชื่อมากนักคนเฒ่าคนแก่ได้เล่าขานต่อกันมาว่าที่ดินตรงนี้มีอาถรรพ์แรง เนื่องจากตั้งแต่โบราณนี้มาเป็นที่ดินป่าช้าเก่าจะฝังศพเด็กเท่านั้น และเป็นที่ที่ชาวบ้านบอกว่าแรงมาก ส่วนเจ้าของรถแบ็กโฮนั้นบอกว่าขอยอมแพ้ไม่ทำงานในที่ดินแปลงนี้แล้วเกรงจะเสียหายไปมากกว่านี้ ทั้งที่แบ็กโฮตัวนี้อยู่ในสภาพใหม่มาก ทำงานมาได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
ขณะเดียวกัน นายคม สุทธิรักษ์ อายุ 50 ปี ชาวบ้านใกล้กับที่ดินแปลงดังกล่าวเล่าเพิ่มเติมถึงเรื่องเหลือเชื่อว่า ตนเองเป็นคนไม่เชื่อในเรื่องเร้นลับและวิญญาณทั้งหลาย โดยได้ประกาศไปว่าผีหรือจะดีกว่าคน และได้เอาวัวไปเลี้ยงในที่ดินแปลงนี้ วัวกลับตายไปโดยไม่รู้สาเหตุปีละตัวจนชาวบ้านมาบอกว่าให้ไปขอขมาเสีย ตนไม่ขอขมายังยืนยันคำเดิมว่าผีหรือจะดีกว่าคนและยังไปล่ามวัวในที่ดินดังกล่าวต่อไปกลับปรากฏว่าวัวตายเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 2 ตัว
ส่วนพื้นที่ดังกล่าวนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านได้แวะเวียนมาดูเหตุการณ์จำนวนมากโดยเมื่อตกค่ำลงจะไม่มีใครกล้าสัญจรผ่านเส้นทางสายนี้เลย
