กรมคุ้มครองสิทธิฯจัดสัมมนาเผยแพร่กฎหมายคุ้มครองพยาน

เลย - กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จัดสัมมนาเผยแพร่ความรู้การคุ้มครองพยานในคดีออาญา ให้ผู้นำท้องถิ่นจังหวัดเลย หวังความรู้ความเข้าใจในสิทธิและเสรีภาพประชาชนตามกฎหมาย ทั้งได้ช่องทางการเข้าถึงสิทธิและการให้บริการของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพอย่างทั่วถึง

วันนี้ (15 มี.ค.) ที่ห้องชัยพฤกษ์ โรงแรมเลยพาเลซ จังหวัดเลย นายพิทยา จินาวัฒน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นประธานในพิธีเปิดสัมมนา “โครงการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการคุ้มครองพยานในคดีอาญา และการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนตามกฎหมาย” ครั้งที่ 1 ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้นำท้องถิ่น สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล ประมาณ 150 คน เข้าร่วมสัมมนา

สืบเนื่องจากสถานการณ์การก่ออาชญากรรมในประเทศไทย เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ประชาชนไม่ว่าอยู่ในฐานะใด ต่างก็ถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นพยานในคดีอาญาต่างยังคงไม่ได้รับความคุ้มครองเท่าที่ควร แม้ว่าปัจจุบันจะมีบทบัญญัติรองรับสิทธิของบุคคลที่เป็นพยานในคดีอาญาไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 40(4) (5) ประกอบพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ.2546

คือ สิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองความปลอดภัย สิทธิที่จะได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสม และสิทธิที่จะได้รับเงินค่าตอบแทนที่จำเป็นและสมควรจากรัฐ แต่ประชาชนจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าถึงสิทธิดังกล่าวอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเป็นธรรม

กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จึงมีนโยบายให้สำนักงานคุ้มครองพยานบูรณาการร่วมกับสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา และกองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัด ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการคุ้มครองช่วยเหลือและเยียวยาแก่ประชาชนตามกฎหมาย รวมทั้งดำเนินการปรับปรุงระบบการช่วยเหลือประชาชนโดยวิธีการนำมาตรการเชิงรุกในรูปแบบของการเข้าไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์บทบาทภารกิจดังกล่าว ให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าถึงสิทธิและเสรีภาพของตน

กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โดยสำนักงานคุ้มครองพยาน จึงกำหนดจัด “โครงการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการคุ้มครองพยานในคดีอาญา และการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนตามกฎหมาย” ครั้งที่ 1 ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้นำท้องถิ่น อาทิ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล

มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามกฎหมาย รวมทั้งได้รับทราบถึงช่องทางการเข้าถึงสิทธิและการให้บริการของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพอย่างทั่วถึง รวมทั้งเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่และถ่ายทอดให้แก่ประชาชนในชุมชนให้เข้าถึงสิทธิตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ ปัญหา และอุปสรรคที่เกิดขึ้น เพื่อร่วมเสนอแนวคิดที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนางานด้านการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในชุมชน