คนรถ อส.สำนึกผิด รับรู้สึกเสียใจยิงนายดับ เหตุเข้าใจผิดเรื่องเบี้ยเลี้ยง ทั้งยังยืดเวลาปฏิบัติงาน ประกอบกับมีคนยุว่าผู้ตายจะอุ้มไปทำร้าย เมื่อเข้ามาปลุกจึงเข้าใจผิด ทั้งที่ร่วมงานกันมา 2 ปีไม่เคยบาดหมางมาก่อน ตร.เตรียมส่งศาลฝากขังพรุ่งนี้
วันนี้ (18 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.โชติพัฒน์ สิทธิพิทักษ์ชัย พงส.(สบ 2) สน.คันนายาว พนักงานสอบสวนเปิดเผยความคืบหน้าคดีที่นายพิทยาคม หรือยาว มณีวงษ์ อาสาสมัครสังกัด อส.จังหวัดเลย ใช้ปืนขนาด 11 มม. ยิงนายธรรมนพ อัครพินท์ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดเลย และนายสุพัตร ภูธรศรี จ่ากองร้อย อส.อำเภอเชียงคาน จ.เลย เสียชีวิตภายในเต็นท์ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม วัดหนองใหญ่ ถ.วัชรพล แขวงและเขตสายไหม กทม.ว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหารายนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยสาเหตุน่าจะมาจากความเครียดในเรื่องครอบครัวของผู้ต้องหาและความเข้าใจผิดเรื่องเบี้ยเลี้ยงที่ควรจะได้รวมเป็นเวลา 8 วัน ซึ่งมีค่าที่พัก 500 บาทและเบี้ยรายวันอีก 120 บาท แต่เพิ่งได้รับเงินเพียง 4 วัน โดยที่เหลือคาดว่าอยู่ในขั้นตอนการเบิกจ่าย ทำให้เกิดความเข้าใจผิด รวมทั้งมีคนคอยยุว่าเจ้านายไม่พอใจและเตรียมอุ้มไปทำร้าย จึงทำให้เครียดจนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
พ.ต.ท.โชติพัฒน์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เท่าที่สังเกตไม่พบว่าผู้ต้องหามีอาการทางจิตแต่อย่างใด เนื่องจากรับรู้เหตุที่เกิดขึ้นทุกอย่างเป็นอย่างดี และจากการตรวจสอบประวัติก็ยังพบว่าผู้ต้องหารายนี้มีผลงานปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ยอมรับของเจ้านายและเพื่อนร่วมงานเป็นอย่างดี แต่เนื่องจากวันนี้ยังไม่ครบกำหนดฝากขังต่อศาล พรุ่งนี้ในช่วงเช้าจึงจะนำไปฝังขังตามปกติที่ศาลอาญารัชดาฯ ต่อไป
ทั้งนี้ นางกรองเพชร อัครพินทร์อายุ 37 ปี ภรรยานายพิทยาคม ผู้ต้องหา พร้อมบุตรชาย วัย 11 ปี และบุตรสาววัย 2 ขวบ ที่เดินทางมาจากจังหวัดเลยเข้าเยี่ยมนายพิทยาคมที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา สน.คันนายาว ทำให้นายพิทยาคมมีอาการผ่อนคลายลง แต่เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าดูนายพิทยาคมผ่านกล้องวงจรปิดอย่างใกล้ชิดตั้งแต่คืนวานนี้เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอาการเครียดจนคิดสั้น
ด้าน นายพิทยาคม ยังกล่าวผ่านห้องขังว่า ก่อนเกิดเรื่องได้เดินทางมาจากจังหวัดเลยพร้อม เพื่อน อส.รวม 170 นาย และผู้ตายทั้งสองมาคุมงานเพื่อช่วยเหลือน้ำท่วมในพื้นที่ละแวกดังกล่าวเป็นเวลา 8 วัน แต่เพิ่งจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้เพียง 4 วัน ทำให้ตนและพรรคพวกเกิดความไม่พอใจจนคิดจะไปร้องเรียนต้นสังกัด โดยคืนก่อนเกิดเหตุขณะที่นั่งดื่มเหล้าขาวก็มีพรรคพวกแอบบอกว่าผู้ตายไม่พอใจคิดจะอุ้มตนไปทำร้าย โดยนายสุพัตรยังตั้งรางวัลถึง 15,000 บาท สำหรับคนที่เอาปืนตนมาได้ จึงเกิดความเครียดเพราะเกรงถูกทำร้าย เมื่อนายธรรมมาปลุกให้ไปช่วยขนของในช่วงเช้า พร้อมกับเห็นรถยนต์วิ่งเข้ามาคิดว่าผู้ตายจะเข้ามาทำร้าย จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว
“รู้สึกเสียใจในเหตุที่เกิดขึ้น ทั้งที่ยังไม่รู้แน่ว่าเบี้ยเลี้ยงที่ยังไม่ได้นั้นอยู่ในขั้นตอนเบิกจ่ายหรือสูญหายจริงหรือไม่ ยอมรับว่าที่ก่อเหตุเกิดจากทั้งความเครียดเรื่องครอบครัว และเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ ที่ต้องยืดเวลาออกไป ประกอบกับเพื่อนมาบอกข่าวหลายๆ เรื่องทำให้เกิดความระแวงอย่างหนัก ร่วมงานกับผู้ตายมา 2 ปี โดนทำหน้าที่พลขับและชุดจับกุมยาเสพติด แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน ตอนนี้จึงรู้สึกเสียใจที่เกิดเรื่องนี้” นายพิทยาคมกล่าว
คนขับรถเครียดช่วยน้ำท่วม! ยิงนายดับ-ยัวะ อส.ซัลโวอีกศพ