xs
xsm
sm
md
lg

“มาฆบูชา” ศรีสะเกษ หวิดตายหมู่ - เชิงชายหลังคาศาลาวัดพังครืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เชิงชายศาลาวัดบ้านปุดเนียม ต.สำโรงพลัน  อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กพังครืนลงมาทั้งแถบ ขณะพระ เณร และชาวบ้านเตรียมจัดงานมาฆบูชา โชคดีไม่มีบาดเจ็บเสียชีวิต วันนี้ ( 7 มี.ค.)
ศรีสะเกษ - มาฆบูชาศรีสะเกษ หวิดตายหมู่ พระ เณร และชาวบ้าน กำลังเตรียมการจัดงานวันมาฆบูชา ปรากฏว่า เชิงชายศาลาวัดบ้านปุดเนียม อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กรอบศาลาพังครืนลงมาทั้งแถบ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต แต่ผวาพังถล่มทั้งหลัง

วันนี้ (6 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พุทธสถานวัดบ้านปุดเนียม หมู่ 10 ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า ขณะที่พระครูสังครักษ์ บัณฑิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบ้านปุดเนียม พร้อมด้วย พระ เณร และชาวบ้านปุดเนียม กำลังช่วยกันจัดเตรียมบริเวณศาลาวัด เพื่อเตรียมจัดงานวันมาฆบูชา ในวันพรุ่งนี้ (7 มี.ค.) โดยขณะที่กำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่อยู่นั้น ปรากฏว่า เชิงชายซึ่งทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กรอบบริเวณศาลาวัด มีความกว้าง 18 เมตร ยาว 30 เมตร ได้เกิดพังลงมาเสียงดังสนั่นหวั่นไหวฝุ่นกระจายคลุ้งไปทั่วบริเวณ พระ เณร และชาวบ้านพากันวิ่งออกจากบริเวณศาลาวัด เพื่อเอาชีวิตรอดกันอย่างโกลาหล โชคดีที่ไม่มีพระ เณร และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต แต่พระ เณร และชาวบ้าน ไม่กล้าเข้าไปในศาลาวัดเนื่องจากเกรงว่าศาลาวัดจะพังถล่มลงมาทั้งหลัง

พระครูสังครักษ์ บัณฑิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบ้านปุดเนียม กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ยังไม่หายจากการตื่นเต้น ว่า ขณะเกิดเหต อาตมภาพ พร้อมด้วยพระ เณร และชาวบ้าน กำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่สำหรับจัดกิจกรรมวันมาฆบูชา โดยการช่วยกันเคลื่อนย้ายตู้หนังสือพระไตรปิฎก และเครื่องลำโพงขยายเสียง ให้สะดวกต่อการปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนที่จะพากันมาปฏิบัติธรรมในวันมาฆบูชา ทันใดนั้น เชิงชายรอบศาลาวัดได้เกิดพังลงมา ท่ามกลางความตระหนกตกใจของพระ เณร และชาวบ้าน

ส่วนสาเหตุที่เชิงชายของศาลาวัดพังลงมานี้ คาดว่า เกิดจากการใช้งานมานาน โดยศาลาวัดนี้สร้างเสร็จเมื่อปี 2535 ได้ใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน ค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1,000,000 บาท ซึ่งเพื่อเป็นการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาวัดแห่งนี้ ให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิม จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาใจบุญร่วมกันบริจาคเงินเพื่อซ่อมแซมศาลาวัด ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เงินในการซ่อมแซม ประมาณ 1,000,000 บาท จะได้ใช้เป็นสถานที่ในการประกอบพิธีทางศาสนา และปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนเช่นเดิมต่อไป

ทางด้าน นายแปลก นันทสิงห์ กำนันตำบลสะเดาใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่ตนและชาวบ้านได้ช่วยกันตรวจสอบหาสาเหตุที่เชิงชายของศาลาวัดแห่งนี้พังลงมา เบื้องต้นพบว่า เกิดจากการที่ช่างก่อสร้างผสมปูนใช้ในการก่อสร้างไม่ถูกต้อง อีกทั้งข้อต่อของเหล็กไม่ได้มีการคล้องงอเกาะกันเอาไว้ แต่เป็นการเชื่อมเหล็กต่อกัน และเทปูนทับโอบเอาไว้ ทำให้เชิงชายไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ซึ่งเรื่องนี้ตนและวัดบ้านปุดเนียม จะได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อจัดหางบประมาณมาซ่อมแซมศาลาวัดบ้านปุดเนียมให้ใช้การได้เช่นเดิมต่อไป







กำลังโหลดความคิดเห็น