ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - วัดสวนดอกทำพิธีปฐมฤกษ์บูรณะพระวิหารหลวง-พระบรมธาตุเจดีย์ เจ้าอาวาสเผย เร่งประสานกรมศิลป์หลังพบวัดทรุดโทรม คาด ใช้เวลาซ่อมอย่างต่ำ 1 ปี ด้าน ผอ.สำนักศิลปากรที่ 8 ระบุ พระวิหารหลวงเปลี่ยนหลังคาใหม่ ส่วนพระบรมธาตุดูฐานรากก่อนซ่อมแซม พร้อมเตรียมติดเครื่องตรวจความสั่นสะเทือนหลังข่าวสะพัดเครื่องบินขึ้น-ลงต้นเหตุเจดีย์ร้าว
วันนี้ (25 ม.ค.) ที่วัดสวนดอก พระอารามหลวง พระศรีสิทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดสวนดอก และนายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีปฐมฤกษ์การบูรณะพระวิหารหลวงและพระบรมธาตุเจดีย์ วัดสวนดอก พระอารามหลวง โดยมีนายวิเศษ เพชรประดับ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 ตัวแทนเจ้านายฝ่ายเหนือ พระสงฆ์และประชาชนจำนวนมากร่วมในพิธี
พิธีดังกล่าวเริ่มขึ้นด้วยการทำพิธีบอกกล่าวขอขมายัง 4 สถานที่สำคัญภายในวัด ประกอบด้วยพระอุโบสถพระเจ้าเก้าตื้อ พระบรมธาตุเจดีย์ กู่อัฐิครูบาศรีวิชัย และกู่เจ้านายฝ่ายเหนือ ต่อด้วยการทำพิธีโยงขันบนพระวิหารหลวง ซึ่งมีพระครูสุวัตถิ์ปัญญาโสภิต วัดแสนเมืองมาหลวงเป็นผู้ทำพิธี จากนั้นพระศรีสิทธิเมธี นายณรงค์ และ นายวิเศษ ได้ร่วมกันทำพิธีถอดกระเบื้องจากหลังคาพระวิหารหลวง จึงเสร็จสิ้นพิธีฝ่ายสงฆ์
การทำพิธีปฐมฤกษ์การบูรณะพระวิหารหลวงและพระบรมธาตุเจดีย์ วัดสวนดอกในครั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่หลังคาของพระวิหารหลวง รวมถึงบริเวณพระบรมธาตุเจดีย์ และเจดีย์บริวารที่อยู่ด้านหลังต่างชำรุดทรุดโทรมลงเป็นอย่างมาก วัดสวนดอกจึงดำเนินการขออนุญาตจากกรมศิลปากรเพื่อทำการบูรณปฏิสังขรณ์ โดยได้รับงบประมาณในการบูรณะจำนวนทั้งสิ้น 20,980,000 บาท และทางวัดได้กำหนดทำพิธีปฐมฤกษ์การบูรณะพระวิหารหลวงและพระบรมธาตุเจดีย์ขึ้นในวันนี้
พระศรีสิทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดสวนดอก พระอารมหลวง กล่าวถึงการบูรณะพระวิหารหลวงและพระบรมธาตุเจดีย์ว่า จำเป็นต้องเร่งดำเนินการเนื่องจากทั้งสองส่วนชำรุดทรุดโทรมลงไปมากตามกาลเวลา โดยหลังคาพระวิหารหลวงมีอายุมากกว่า 80 ปี ปัจจุบันมีการแตกร้าวและเสื่อมสภาพ
ขณะที่พระบรมธาตุเจดีย์และเจดีย์บริวาร ก็ปรากฏร่องรอยแตกร้าวหลายจุด ทางวัดจึงได้ประสานให้กรมศิลปากรเข้ามาดำเนินการบูรณะ และต่อมากรมศิลปากรก็ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลเพื่อนำมาดำเนินการซ่อมแซม โดยในวันนี้ทางวัดได้ทำพิธีดังกล่าวขึ้นเพื่อเป็นการขอขมาต่อสถานที่และพระบรมธาตุในพระพระบรมธาตุเจดีย์ ส่วนการบูรณะจะเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 1 ปี
ด้าน นายวิเศษ เพชรประดับ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าหลังคาพระวิหารหลวงนั้นมีรอยแตกร้าวมาก ส่วนพระบรมธาตุเจดีย์ปรากฏรอยแตกร้าว และบางส่วนเริ่มมีการทรุดตัว สำหรับสาเหตุคาดว่าเป็นผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในช่วงเดือน มี.ค.ปีที่ผ่านมา ประกอบกับพายุนกเต็นในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.ซึ่งมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดความชื้นซึ่งส่งผลให้รอยร้าวต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
นายวิเศษ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้กรมศิลปากรจัดหาผู้รับจ้างดำเนินการบูรณะได้แล้ว จึงสามารถเริ่มทำการซ่อมแซมได้ทันที โดยในส่วนของพระวิหารหลวงจะทำการเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาทั้งหมด ร่วมทั้งสำรวจว่าโครงสร้างอื่นๆ มีจุดได้ที่เสียหายอีกหรือไม่ โดยกระเบื้องที่จะนำมาทดแทนกระเบื้องซีเมนต์ปลายตัดของเดิมซึ่งในปัจจุบันไม่มีผู้ผลิตแล้วนั้นจะต้องคัดเลือกให้เหมาะสมกับโครงสร้างที่มีอยู่ โดยการซ่อมแซมยังรวมถึงช่อฟ้าใบระกา และหงส์ประดับที่อยู่บนหลังคาทั้งหมดด้วย
ส่วนการบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์นั้น พบว่า ส่วนที่เสียหายเป็นส่วนฐานซึ่งเป็นจุดรับน้ำหนัก ซึ่งที่ผ่านมายังเห็นความเสียหายไม่ชัดเจนนักเนื่องจากทางวัดได้ทาปูนปิดทับรอยแตกร้าวไว้ อย่างไรก็ตามจะมีการสำรวจว่าความเสียหายจากการแตกร้าวของฐานรากนั้นมีผลกระทบต่อพระบรมธาตุเจดีย์มากน้อยเพียงใด รวมทั้งอาจจะมีการเพิ่มคอนกรีตเสริมเหล็กในส่วนของฐานรากเพื่อให้เกิดความแข็งแรงมากขึ้น เนื่องจากหากมีความเสียหายมากและไม่ได้รับการซ่อมแซม ถ้ามีเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงเกิดขึ้นอีก อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่อพระบรมธาตุเจดีย์ได้
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 ยังระบุด้วยว่า ได้ประสานให้มีการนำเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนจากกรุงเทพมหานคร มาทำการติดตั้งและตรวจสอบที่พระบรมธาตุเจดีย์วัดสวนดอกในระหว่างวันที่ 26-27 ม.ค. ภายหลังจากมีข่าวปรากฏในสื่อว่า การแตกร้าวของพระบรมธาตุเจดีย์เป็นผลจากการสั่นสะเทือนของเครื่องบินที่บินขึ้น-ลง ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งหลังจากตรวจสอบแล้ว คาดว่า ภายใน 1 สัปดาห์จะทราบว่ากรณีดังกล่าวเป็นสาเหตุของการแตกร้าวจริงหรือไม่