กาญจนบุรี - ตำรวจ ปทส.พร้อมกำลังกว่า 30 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินกว่า 300 ไร่ ในตำบลสิงห์ ไทรโยค กาญจนบุรี หลังได้รับแจ้งมีกลุ่มนายทุนลักลอบบุกรุกแผ้วถางก่อสร้าง เพื่อปลูกต้นยางพาราและต้นสัก พบแท็งก์น้ำประปาขนาดใหญ่ เขียนป้ายชื่อติดด้านบน นายทหารยศ “พล.ท.” หรา เบื้องต้น จนท.คุมตัว 4 คนงานพร้อมตั้งข้อหาตัดไม้หวงห้าม
เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (5 มี.ค.) พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก.สั่งการให้ พ.ต.ท.ณรงค์เดช กมลบุตร รองผกก.กก.5 บก.ปทส. พ.ต.ท.ศรีสวัสดิ์ วารีสมานคุณ รองผกก.กก.5 บก.ปทส. พ.ต.ท.สุทธินันท์ คงแช่มดี สว.กก.5 บก.ปทส. พ.ต.ท.พรเทพ อินทรบ้าน สว.กก.5 บก.ปทส. พ.ต.ท.วรรษกร วาเกียรธนะ สว.กก.5 บก.ปทส.พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.กก.5 บก.ปทส.กว่า 30 นาย เดินทางไปตรวจสอบที่ดินบริเวณพื้นที่ หมู่ 1 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งว่ามีกลุ่มนายทุนได้ลักลอบบุกรุกแผ้วถางก่อสร้างเพื่อปลูกต้นยางพารา และต้นสัก เนื้อที่รวมกันกว่า 300 ไร่
ตลอดเส้นทางเข้าพื้นที่เจ้าหน้าที่พบมีเสาไฟฟ้าแรงสูงสภาพใหม่ มีสายไฟขนาด 2 เฟส ตลอดแนวเส้นทางเป็นระยะทางยาวหลายร้อยเมตร เมื่อถึงภายในพื้นที่ ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของเสาไฟฟ้า มีบ้านพักคนงาน รวม 3 ห้องโดย 2 ใน 3 ห้องดัดแปลงเป็นห้องเก็บอุปกรณ์ประเภท เลื่อยโซ่ยนต์ และสารเคมี สำหรับฉีดต้นยางพารา และยาฆ่าแมลง ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นห้องเก็บอุปกรณ์ชนิดเดียวกัน และยังมีโรงเก็บรถไถขนาดเล็กอีกด้วย
ด้านข้างพบเป็นถังน้ำประปาสีฟ้าขนาดใหญ่ สูงจากพื้นดินประมาณ 30-40 เมตร ด้านบนเขียนข้อความขนาดใหญ่ว่า “พล.ท.วิรัติ-ปานใจ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.ได้ทำการสำรวจพื้นที่โดยรอบ พบว่า มีการปลูกต้นยางพารา และต้นสักไว้เป็นจำนวนมาก แต่ทั้งหมดยังไม่โตมากนัก ลักษณะคล้ายปลูกได้ไม่นาน และสภาพพื้นที่ทั้งหมดเพิ่งมีการแผ้วถางได้ไม่นานเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวคนงานชายและหญิงไว้ได้ทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย นางบัวจันทร์ ถุงเถื่อน อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 4 ต.เปือ อ.เชียงกาง จ.น่าน นายสุภี ถุงเถื่อน อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 9 ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน นายบุญมา ขานเพราะ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 5 ต.เชียงม่วน อ.เชียงม่วน จ.พะเยา และ นายเจริญ น้อยนิด อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/2 หมู่ 2 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสอบปากคำคนงานทั้งหมด
นายสุภี ถุงเถื่อน คนงานกล่าวต่อเจ้าหน้าที่ว่า พื้นที่ทั้งหมดมีประมาณ 300 ไร่ ซึ่งตนได้เดินทางมาทำงานพร้อมกับภรรยา คือ นางบัวจันทร์ โดยทำมาได้ประมาณ 8 เดือน ได้รับค่าจ้างเป็นครั้งคราว บางครั้ง 3-4 เดือน ก็จะได้ค่าจ้างครั้งหนึ่งประมาณ 1 หมื่นบาท ส่วนภรรยาไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด โดยเจ้าของที่แปลงดังกล่าวเป็นนายทหารนอกราชการชั้นผู้ใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือยศ พล.ท.
ด้าน พ.ต.ท.ณรงค์เดช กมลบุตร รอง ผกก.กก.5 บก.ปทส.เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมด พบว่า มีการบุกรุกแผ้วถางเพื่อปลูกกล้ายาง และไม้สักประมาณ 300 ไร่เศษ และยังพบว่าคนงานทั้ง 4 ราย ยังได้ทำการตัดไม้เนื้อแข็งซึ่งเป็นไม้หวงห้ามที่ขึ้นอยู่ตามบริเวณป่าแพะ หรือป่าลูกไม้ที่อยู่โดยรอบ ซึ่งไม้แต่ละท่อนมีเส้นรอบวงกลมประมาณ 40-50 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2 เมตร รวมกันประมาณ 50 ท่อน โดยคนงานรับสารภาพว่าจะนำไปกั้นเป็นรั้วลวดหนามล้อมรอบบริเวณพื้นที่ทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งข้อหาคนงานทั้ง 4 พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนคนงานอีก 1 ราย คือ นายเจริญ น้อยนิด เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาเพิ่มอีก 1 คดี คือ มีอาวุธปืนแก๊ปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
รองผกก.กก.5 บก.ปทส.เปิดเผยต่อว่า ในส่วนของที่ดินที่เข้าตรวจสอบครั้งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่เศษ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า เป็นที่ดินราชพัสดุ มอบให้กับ ส.ป.ก.จังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้ดูแล เพื่อจัดสรรให้กับประชาชนที่มีฐานะยากจนเข้าไปทำมาหากิน และเป็นที่อยู่อาศัย คนละ 50 ไร่ ขณะเดียวกันจากการสอบถามไปยัง ส.ป.ก.ทราบว่า พื้นที่ดังกล่าว อยู่ระหว่างการดำเนินการวางแผนเพื่อจัดสรรให้กับประชาชนเท่านั้น ซึ่งยังไม่ได้จัดสรรให้กับประชาชนแต่อย่างใด
ดังนั้น เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจหาค่าพิกัด จีพีเอส พื้นที่ดังกล่าวเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับพิกัดของปฏิรูปที่ดิน และจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง ส่วนป้ายชื่อนายทหารยศ พล.ท.ที่เขียนติดไว้บนแท้งน้ำประปาหากตรวจสอบแล้วพบว่าที่ดินแปลงดังกล่าวมีการบุกรุกจริง ก็จะประสานเพื่อดำเนินการต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่มีการตั้งข้อหากับผู้ใดแต่อย่างใด จากการตรวจสอบพื้นที่ในวันนี้จะทำบันทึกเพื่อรายงานให้ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก.ทราบต่อไป