อุตรดิตถ์ - ผวจ.อุตรดิตถ์ สั่งยึดไม้ตะเคียนยักษ์อายุกว่า 500 ปี จำนวน 11 ท่อนกลางป่าลับแล ขณะที่ ผบญ.ในพื้นที่นำเอกสารสิทธิที่ดินโชว์ จนท.อ้างตัดจากที่ดินมีโฉนด แต่มีพิรุธเพียบ แถมเจ้าของที่โผล่บอกเจ้าหน้าที่ซ้ำ มีนายทุนแพร่สั่ง-จ่ายค่าผ่านทางแล้วหน่วยละ 3 พัน ไม่รวมชุดตรวจสอบ
หลัง นายโยธินทรศ์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งว่า มีขบวนการลักลอบตัดไม้ตะเคียน อายุกว่า 500 ปี ที่บ้านห้วยทก หมู่ที่ 8 ตำบลฝายหลวง อำเภอลับแล จึงสั่งการให้นายพัฒนศักดิ์ ภูมิประภาส หัวหน้าสายตรวจปราบปราม ประจำสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 สายที่ 2 พิษณุโลก ร่วมกับ พ.ต.นิพนธ์ แก้วบัวระบัด หัวหน้าชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว กอ. และประสานไปที่ พ.ต.อ.อนุสรณ์ บุญญธรรม ผกก.สภ.ลับแล ร่วมเข้าไปตรวจสอบกองไม้ดังกล่าว
ในที่เกิดเหตุพบกองไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ อายุกว่า 500 ปีกองอยู่จำนวน 11 ท่อน แต่ละท่อนยาวตั้งแต่ 2.50-8.20 เมตร นอกจากนี้ยังพบร่องรอยการใช้ช้างลากมาจากในป่า เมื่อเจ้าหน้าที่เดินตามรอยชักลากพบว่า ตอไม้ตะเคียนที่ถูกตัดไปนั้นอยู่ริมห้วยทก ติดกับที่ดินของนางสาวสวิดา อินทชัยศรี
และยังพบหลักเขตที่ดิน กองอยู่โคนต้นตะเคียนอีก 6 หลัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ คนหนึ่งกล่าวว่า หลักเขตที่ดินที่เป็นหลักโฉนด ปรกติแล้วจะไม่อนุญาตนำมากองไว้ในที่ดินของชาวบ้าน จะต้องฝังตามที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ให้เท่านั้น
ขณะเดียวกัน ได้มี นายสมบูรณ์ ราชวงค์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ พร้อมยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ดูพบว่า เป็นเอกสารการบันทึกตรวจสอบไม้กองดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยหนึ่ง โดยระบุว่า ไม้จำนวนดังกล่าวอยู่ในโฉนดที่ดินเลขที่ 38565 เล่มที่ 386 หน้าที่ 65 เป็นของนางสาวสวิดา อินทชัยศรี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200 หมู่ที่ 11 ตำบลชัยจุมพล อำเภอลับแล เนื้อที่ดิน 6-2-40 ไร่
นายสมบูรณ์ ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ ว่า ไม้ตะเคียนดังกล่าวอยู่ในโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวจริง พิกัด GPS 47Q 0607124 E 1955399 N นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ และไม้ที่ถูกตัดก็ไม่ได้เป็นความผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติป่าไม้แต่อย่างใดเพราะอยู่ในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ
เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดตรวจสอบกล่าวกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า ไม้ต้นนี้มีอายุประมาณ 500 ปี น่าอนุรักษ์ไว้ เนื่องจากอำเภอลับแล เป็นพื้นที่เสี่ยงภัย ดิน โคลนถล่ม และเอกสารดังกล่าวที่นำมาแสดงนั้นก็ไม่สมบูรณ์ ไม่มีใบขออนุญาตการตัดไม้ จำนวนไม้ที่แจ้งในใบกำกับมีไม้ 10 ท่อน แต่ที่จริงแล้วมี 11 ท่อน และบันทึกที่ขออนุญาตตัดไม้ในเอกสารสิทธิ เจ้าของที่ดินก็ยังไม่ได้เซ็น ที่สำคัญเนื้อที่ของโฉนดที่ดินจะต้องอยู่ห่างจากลำห้วยประมาณ 5 เมตร
เบื้องต้นเชื่อว่า เอกสารดังกล่าวทำไว้เพื่อคลุมไม้จำนวนนี้เพื่อทำการเคลื่อนย้าย เจ้าหน้าที่จึงยึดอายัดไว้ตรวจสอบตามคำสั่งของ นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ และให้ประสานเจ้าหน้าที่ที่ดินตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง หากตรวจพบความผิดให้ดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องทุกราย
ต่อมา นางอำพร ใจศรี อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 79 หมู่ที่ 8 ตำบลชัยจุมพลฯ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่นำไม้มากองไว้ ได้เข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ปากคำในการหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ โดยบอกว่า นายบอย ไม่ทราบชื่อสกูลจริง เป็นคนจังหวัดแพร่มาขอซื้อไม้ในราคา 10,000 บาทและได้จ่ายค่าผ่านทางหลายหน่วย รายละ 3,000 บาท พร้อมทั้งเคลียร์ชุดที่เข้ามาตรวจสอบแล้ว
