พะเยา - ฮือฮา ขุดดินพบพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ต่างสมัยพร้อมกัน 3 องค์ ทั้ง “สิงห์หนึ่ง สิงห์สอง และสิงห์สาม” กลางทุ่งนาลึก 1.50 เมตร ก่อนนำมาไว้ที่วัดสว่างอารมณ์ ประชาชนทราบข่าวแห่กราบไหว้ พร้อมตีเลขเด็ด พ.ศ 2555 พระครูเจ้าคณะตำบล เผยคนพบเจออาถรรพ์เร้นลับมีกองทหาร-เจ้าเมือง มาเข้าฝันตลอดคืน พร้อมเสียงหมาหอนตลอดคืน หลังนำกลับไปไว้ที่บ้าน จนต้องนำมาไว้ที่วัด
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายจีรเดช ศรีวิราช นายกเทศมนตรีเมืองดอกคำใต้ และพระครูสุนทรวุฒิคุณ เจ้าคณะตำบลบ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ว่า มีการขุดพบพระพุทธรูปร่วมสมัยเนื้อสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้ว เป็นพระสิงห์หนึ่ง สิงห์สอง และสิงห์สาม ในที่เดียวกันทั้ง 3 องค์ ระหว่างที่รถแบกโฮ ทำการขุดดินกลางทุ่งนาห่างจากวัดสว่างอารมณ์ 1 กม. เพื่อทำสระน้ำ และได้นำมาประดิษฐานไว้ที่หน้าโบสถ์วัดสว่างอารมณ์ หมู่ 8 ต.ส่วางอารมณ์ อ.ดอกคำใต้
จึงได้เดินทางไปดูที่วัด พบชาวบ้านต่างพากันมาชื่นชมพระพุทธรูปดังกล่าวกันอย่างเนืองแน่นจนล้นลานหน้าโบสถ์ พร้อมกับมีการนำดอกไม้ธูปเทียนไปกราบไหว้เพื่อขอเลขเด็ด โดยทางวัดได้จัดเรียงพระทั้งสามองค์ไว้ลดหลั่นกัน 3 ชั้น ๆ ล่างสุดเป็นพระพุทธรูปสิงห์หนึ่ง ที่มีรอยแตกที่ฐานพระเพราะถูกคมบุ้งกี๋แบกโฮ ตักถูก ส่วนชั้นที่ 2 เป็นพระพุทธรูปสิงห์สอง และชั้นที่ 3 เป็นพระพุทธรูปสิงห์สาม ซึ่งทั้ง 2 องค์หลังนี้มีสภาพสมบูรณ์
โดยพระพุทธรูปสิงห์สามนั้นยังมีคราบดินเกาะติดอยู่ และบริเวณใต้องค์พระทั้ง 3 องค์ มีเศษอิฐเก่าที่เก็บมาจากกลางทุ่งนาเรียงไว้เป็นส่วนประกอบที่ขุดได้
จากนั้นนายจีรเดช ศรีวิราช นายกเทศมนตรีเมืองดอกคำใต้ ,พระครูสุนทรวุฒิคุณ ได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าไปยังบริเวณทุ่งนาที่ขุดพบพระ ซึ่งห่างจากชุมชนไปประมาณ 1 กม.เศษ พบเป็นทุ่งนาราบลุ่มกว้างใหญ่ มีรถบรรทุกดินจอดอยู่ 4 คัน รถแบคโฮ 1 คัน รวมทั้งมีประชาชนที่มาดูและทำการแซะดินที่ขอบบ่อดิน ซึ่งเป็นอิฐโบราณลักษณะเป็นพระธาตุเก่าด้วย
นายถนอม ธรรมติ อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 94 หมู่ 8 ต.ส่วางอารณ์ คนขับรถดินหมายเลขทะเบียน 80-7552 พะเยา ผู้ที่พบพระพุทธรูปสิงห์หนึ่ง เป็นคนที่ 2 กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังขับรถดินออกจากบ่อจะไปส่งยังที่หมายระหว่างทางมีนายแอ๊ด ไม่ทราบนามสกุล ขับขี่รถ จยย.ตามหลัง และเรียกให้ตนหยุด ทีแรกคิดว่าคงจะมาสั่งดิน จึงจอดรถลงมา โดยนายแอ๊ด บอกว่ามีพระอยู่ที่ท้ายรถ ตนจึงเดินมาดูพบว่ามีพระพุทธรูปติดเศษดินนั่งอยู่บนขอบฝาท้ายรถ จึงได้แกะออกแล้วอุ้มไปวางไว้หน้ารถ เมื่อส่งดินเสร็จ กลับมายังบ่อดิน จึงบอกกับพรรคพวกและนายอรรถพันธุ์ โพธิ์ทอง คนขับรถแบ็กโฮ ว่า พบพระในบ่อดิน
จากนั้นได้นำพระมาล้างทำความสะอาด พบว่า มีรอยแตกที่ใต้ฐาน เมื่อรู้ว่าบริเวณดังกล่าวมีพระพุทธรูปจึงค่อยๆ ใช้บุ้งกี๋ตักดินอย่างระมัดระวัง และพบพระอีก 2 องค์ รวมเป็น 3 องค์ จึงแจ้งนายประพัฒน์ วงศ์มา เจ้าของรถแบคโฮทราบ เมื่อนายประพัฒน์ มาถึงและเห็นพระพุทธรูป ต่อมาก็ได้นำไปไว้ที่วัดมอบให้พระปลัดจรัส กัลญาโณ เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์เก็บรักษาไว้
ด้านนายจีรเดช ศรีวิราช นายกเทศมนตรีเมืองดอกคำใต้ กล่าวว่า การพบพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ในครั้งนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของชาว อ.ดอกคำใต้ เพราะถือว่าเป็นที่อัศจรรย์ที่พระทั้ง 3 องค์ ต่างเป็นพระคนละสมัย แต่มาอยู่ที่เดียวกัน และพบพร้อมกันโดยบังเอิญ ซึ่งถือเป็นยุคทองของ อ.ดอกคำใต้ เนื่องจากปีที่แล้วในเดือน ก.พ.54 ก็ได้พระเจ้าทันใจ พระพุทธรูปสิงห์หนึ่ง ขนาดหน้าตักกว้าง 25 นิ้ว ที่สูญหายไปจากวัดศรีชุม กว่า 70 ปี กลับคืนมาอย่างเหลือเชื่อ มาปีนี้เดือนเดียวกันก็ได้พระศิลปะร่วมสมัยอีก ถือได้ว่าเป็นพุทธศีล ที่อนุชนรุ่นหลังควรที่จะได้ศึกษาประวัติศาสตร์เมืองดอกคำใต้ได้เป็นอย่างดี โดยทางเทศบาลจะให้การสนับสนุนในเรื่องของการอนุรักษ์ด้านศิลปะวัฒนธรรมตามที่ชาวบ้านต้องการต่อไป
ซึ่งในระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นก็พบเขี้ยวเสือ 1 เขี้ยว บริเวณฐานพระธาตุ จึงมอบให้พระครูสุนทรวุฒิคุณเก็บรักษาไว้
พระครูสุนทรวุฒิคุณ เจ้าคณะตำบลบ้านถ้ำ เจริญพรว่า ก่อนพบพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ได้มีการนำรถแบคโฮ ไปขุดดินที่กลางทุ่งนาห่างจากหลังวัดสว่างอารมณ์ไป 1 กม.เศษ เพื่อทำสระน้ำ ระหว่างที่ขุดนั้นก็พบพระพุทธรูปดังกล่าว เมื่อวันที่ 22 ก.พ.55 ซึ่งเป็นวันพระ ตอนแรกมีการนำไปเก็บไว้ที่บ้าน พอตกดึกคนที่นำไปก็ฝันเห็นกองทหารจำนวนมาก และผู้ที่แต่งกายคล้ายเจ้าเมืองมาหาถึงเตียงนอน พร้อมกับบอกว่า ให้นำพระและสิ่งของที่พบในที่เกิดเหตุเอาไปไว้ที่วัดให้หมดทุกชิ้น จากนั้นได้ตกใจตื่นพร้อมกับได้ยินเสียงหมาหอนตามซอยตลอดทั้งคืน รุ่งขึ้นถึงได้มีการนำพระมาให้ที่วัด
ในฐานะที่เป็นประธานสภาวัฒนธรรม อ.ดอกคำใต้ จะร่วมกับพระปลัดจรัส กัลญาโณ เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ ปกป้องรักษาสมบัติแผ่นดินอันมีค่านี้ไว้ที่วัด เพื่อให้ประชาชนได้มากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล เพราะเจ้าของจริงเค้าต้องการให้อยู่กับวัด เนื่องจากบริเวณที่พบพระนั้นเป็นที่ธรณีสงฆ์ รกร้าง เดิมมีเนินดินคล้ายพระธาตุเก่าที่หักพังไปนับร้อยปี ซึ่งสันนิษฐานว่า อายุพระที่พบน่าจะอยู่ร่วมสมัยเดียวกับพระเจ้าตนหลวงวัดศรีโคมคำ อ.เมืองพะเยา ที่มีอายุกว่า 500 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีข่าวการพบพระพุทธรูป ร่วมสมัยพร้อมกันทั้ง 3 องค์แพร่กระจายออกไปก็มีประชาชนจากหมู่บ้านใกล้เคียงและต่างอำเภอ พากันมากราบไหว้พระเพื่อขอเลขเด็ดไม่ขาดสาย ซึ่งมีการนำเลขรถบรรทุกดินที่มีพระนั่งไปด้วย คือ เลข 552 ,752 และเลข 555
