xs
xsm
sm
md
lg

“เครือข่ายป้องแผ่นดินไทย” บุกสถานทูตอินโดฯบ่ายนี้ - ลั่นไม่ยอมให้ประเทศใดรุกราน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยใน 5 จังหวัดอีสานใต้ เตรียมเข้ายื่นหนังสือสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ค้านส่งชาวอินโดนีเซียเข้าสังเกตการณ์พื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ตามคำสั่งศาลโลก วันนี้ ( 24 ก.พ.)
สุรินทร์ - เครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย 5 จังหวัดอีสานใต้ บุกสถานทูตอินโดนีเซียบ่ายนี้ ยื่นหนังสือค้านส่งตัวแทนอินโดฯเข้าสังเกตการณ์พื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ลั่นไม่ยอมให้ประเทศใดรุกรานยึดครองอธิปไตยเหนือดินแดนไทย พร้อมย้ำ ปชช.ไทยไม่ยอมรับอำนาจใดๆ ของศาลโลกในทุกกรณี เตรียมจัดงานใหญ่รวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย


วันนี้ (24 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันนี้เวลาประมาณ 14.00 น.กลุ่มประชาชนเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยใน 5 จังหวัดอีสานใต้ ประกอบด้วย จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และ จ.นครราชสีมา จะเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านชาวอินโดนีเซียเข้าสังเกตการณ์พื้นที่บริเวณรอบปราสาทพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ ตามคำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลกต่อเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ที่สถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย กรุงเทพฯ

โดยหนังสือคัดค้านดังกล่าวมีทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มีใจความระบุว่า ตามที่องค์คณะผู้พิพากษาศาลโลกได้ประกาศพื้นที่บริเวณรอบปราสาทเขาพระวิหารให้เป็นพื้นที่ปลอดทหาร กับทั้งต้องการให้มีผู้สังเกตการณ์ชาวอินโดนีเซียในฐานประธานอาเซียนในขณะนั้น เข้ามาดูแลในพื้นที่ดังกล่าวตามคำแนะนำของประเทศกัมพูชาที่เสนอต่อ องค์การสหประชาชาติ ประชาชนชาวไทยไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว และดำเนินการคัดค้านมาโดยตลอดเพื่อปกป้องรักษาอธิปไตยเหนือดินแดนของชาติไว้ให้กับลูกหลานไทยสืบไป

อีกทั้งประเทศไทยไม่ได้เป็นภาคีสมาชิกของศาลโลก มานานกว่า 50 ปีแล้ว ดังนั้นประเทศไทย และประชาชนชาวไทยไม่ยอมรับอำนาจใดๆ ของศาลโลกที่จะกระทำต่อประเทศไทยของเรา แม้ว่ารัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่จะยินยอมปฏิบัติตามศาลโลกก็ตาม แต่ประชาชนชาวไทยขอปฏิเสธทุกกรณี

ในฐานะที่ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศไทย มีความสัมพันธ์อันต่อกันมาช้านาน ประชาชนทั้งสองประเทศไปมาหาสู่กันดุจญาติฉันท์มิตร และประชาชนชาวไทยไม่ต้องการสร้างความร้าวฉานหรือเป็นศัตรูกับประชาชนอินโดนีเซียหรือชาติอื่นใด และต้องการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับทุกๆ ประเทศ

แต่เราก็ไม่ยินยอมที่จะให้ประเทศใดมารุกรานยึดครองแผ่นดินของเรา เครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย และประชาชนชาวไทยต้องขออนุญาตท่าน ที่จะต้องกล่าวว่าเราไม่ยินยอม ให้ผู้แทนอินโดนีเซียสายเลือดเดียวกับท่านเข้ามาในพื้นที่ รอบปราสาทเขาพระวิหารและพื้นที่อื่นๆ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในทุกกรณี

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และแจ้งให้คณะผู้แทนประเทศของท่าน ทราบต่อไปด้วย จักขอบพระคุณยิ่ง ลงชื่อ นายประทีป ตลับทอง ประธานเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย

นายประทีป ตลับทอง ประธานเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย กล่าวว่า เครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย มีความห่วงใยต่อชาติบ้านเมืองเป็นอย่างมาก ในการที่ต้องสูญเสียผืนแผ่นดินตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งหมดประมาณ 1 ล้าน 8 แสนไร่ และในพื้นที่ทะเลอ่าวไทยอีกประมาณ 27,000 ตารางกิโลเมตร หรือ 16 ล้าน 2 แสนไร่

ฉะนั้น เครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย 5 จังหวัดอีสานใต้ ประกอบด้วย จ.สุรินทร์,บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี และ จ.นครราชสีมา และพี่น้องชาวภาคตะวันออกอีก อาทิ จ.สระแก้ว, จันทบุรี และ จ.ตราด จึงคัดค้านไม่ให้ประทศอินโดนีเซีย หรือว่าตัวแทนของชาวอินโดนีเซีย เข้ามายังพื้นที่บริเวณรอบปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งศาลโลกได้มีคำสั่งให้ถอนทหารออกจากพื้นที่ และให้มีผู้สังเกตการณ์ ชาวอินโดนีเซียเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยของเรา ซึ่งเราไม่ยอมรับและไม่เห็นด้วยที่จะให้ส่งตัวแทนของอินโดนีเซียเข้ามา

“เรายื่นหนังสือคัดค้า ต่อสถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติไทยเราให้คงอยู่กับประเทศไทยสืบไป และประชาชนชาวไทยเราปฏิเสธไม่ยอมรับอำนาจศาลโลกที่จะตัดสินในอนาคตและครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งการเข้ามาในพื้นที่รอบบริเวณปราสาทเขาพระวิหารของตัวแทนจากอินโดนีเซีย” นายประทีป กล่าว

นายประทีป กล่าวอีกว่า การเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อสถานทูตอินโดนีเซียของ เครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย 5 จังหวัดอีสานใต้ ครั้งนี้เราได้ประสานงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางสถานทูตจะส่งตัวแทนออกมารับหนังสือจากเครือข่ายฯ ของเรา โดยเราได้แจ้งไปว่า เราเป็นประชาชนไทยที่มีความรักชาติ รักเมือง รักแผ่นดินเยี่ยงบรรพบุรุษของเรา ที่เสียสละเลือดเนื้อชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยไว้ให้กับลูกหลานไทยจนถึงปัจจุบัน ตนและเครือข่ายทุกคนยินดีที่จะปฏิบัติตามบรรพบุรุษที่เคยปฏิบัติมา ยินดีที่จะเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยจนถึงที่สุด

ขอฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนได้ลุกขึ้นมา เพื่อให้รู้ข่าวสารเรื่องนี้ให้มาก เราจะได้รักษาแผ่นดินไทยเราไว้ และหลังจากที่เครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย ได้เดินทางไปสังเกตการณ์ที่ปราสาทเขาพระวิหารเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ มีความสนใจมากที่จะรับรู้เรื่องราวข่าวสารตรงนี้ และมีการโทรศัพท์ติดต่อมาที่ตนเพื่อต้องการให้มีการจัดงานรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยที่ยิ่งใหญ่ขึ้น

“ประชาชนชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนไทยเขาพระวิหารให้ความสนใจเรื่องนี้มาก ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาจะไม่ยอมทิ้งถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่น จึงขอฝากถึงรัฐบาลแลผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ได้ทำหน้าที่ของท่านเยี่ยงบรรพบุรุษของเราด้วย” นายประทีป กล่าว

ทั้งหมดนี้เราทำหน้าที่ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 71 ความว่า บุคคลมีหน้าที่ปกป้องประเทศ รักษาผลประโยชน์ของชาติและก็ปฏิบัติตามกฎหมาย ถามว่า เราต้องการอะไรหรือมีผลประโยชน์แอบแฝงหรือไม่ ตนยืนยันว่าไม่มี เราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อชาติ เพื่อบ้านเพื่อเมือง เพื่อแผ่นดินของเรา เพราะแผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราซึ่งเป็นพสกนิกรลูกหลานของท่าน ก็จะต้องช่วยกันปกป้องแผ่นดินของพระองค์ด้วยเลือดเนื้อและชีวิตเช่นกัน






กำลังโหลดความคิดเห็น