พระนครศรีอยุธยา - ชาวจีนเมืองกรุงเก่าเศร้า คนร้ายไม่น้อยกว่า 5 คน ย่องเงียบขโมยโต๊ะประชุมไม้สักโบราณของสมาคมเตี้ยเอี้ย อายุเกือบ 100 ปี หายไร้ร่องรอย
วันนี้ (23 ก.พ.) นายวินัย อัศวราชันย์ นายกสมาคมเตี้ยเอี้ยอยุธยา พร้อมด้วย นายธีรพงศ์ อัศวสุนทรางกูร และ นายพิชัย ศิริพสุธา กรรมการสมาคมเตี้ยเอี้ยอยุธยา ได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณรอบๆ อาคารที่ทำการศูนย์สัมพันธ์ชาวเตี้ยเอี้ยอยุธยา เลขที่ ฐ 38/9 ม.7 ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากที่มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้าไปโจรกรรมโต๊ะไม้สักขนาดความยาว 5 เมตร กว้าง 1 เมตร สูง 1 เมตร และหนาประมาณ 5 นิ้ว ซึ่งเป็นโต๊ะโบราณเก่าแก่อายุประมาณกว่า 70 ปี สำหรับใช้ประชุม หายไป ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่น้อยกว่า 5 คน
นายวินัย เปิดเผยว่า อาคารหลังนี้เป็นอาคารเก่าแก่อายุเกือบ 100 ปี ชาวจีนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้สำหรับประชุมทำกิจกรรมร่วมกันทุกเดือน โดยเป็นอาคารทรงปั้นหยาสองชั้น มีสภาพชำรุดทรุดโทรม หลังจากที่ถูกน้ำท่วมเมื่อคราวที่ผ่านมา อาคารมีการชำรุดอย่างมาก ได้ทำเรื่องเสนอกรมศิลปากรเพื่อขอซ่อมแซม และทางกรมศิลปากรเพิ่งตอบอนุญาตให้มีการซ่อมแซม โดยห้ามรื้อหรือลบเลือนรูปแบบเดิม ทางสมาคมก็เตรียมที่จะวางโครงการในการหาทุนในการซ่อมแซม
ล่าสุด นายกสมาคมเตี้ยเอี้ยแห่งประเทศไทย เพิ่งเดินทางมาเยี่ยมดูสภาพความเสียหาย เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยนั่งประชุมภายในอาคาร จากนั้นก็ปิดอาคารไว้ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ตนและคณะกรรมการได้มาเปิดอาคารเพื่อเตรียมประชุมในปลายเดือนนี้ ปรากฏว่าโต๊ะประชุมขนาดใหญ่ที่อยู่คู่กับอาคารหลังนี้ ได้หายไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย สร้างความเสียใจให้กับชาวจีนที่ทราบข่าวพากันมาดูทั้งวัน ขณะนี้ได้แจ้งความเอาไว้ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา และมีรางวัลให้กับผู้ที่พบเห็นและนำไปสู่การจับกุมได้
พ.ต.ท.พิชา รุจินาม รองผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุแล้ว สันนิษฐานว่าคนร้ายมีจำนวนหลายคนอย่างแน่นอน เนื่องจากโต๊ะมีขนาดใหญ่มาก สามารถถอดแยกแผ่นไม้บนโต๊ะได้เป็น 3 ชิ้น โดยเป็นการใช้สลักไม่ใช่ตะปูหรือน๊อต คนร้ายน่าจะนำออกทางด้านรั้วด้านหน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน เชื่อว่าคนที่มาเอาไปต้องรู้ว่ามีโต๊ะไม้สักโบราณอยู่ที่นั่น และต้องมีใบสั่ง ซึ่งจะได้สืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (23 ก.พ.) นายวินัย อัศวราชันย์ นายกสมาคมเตี้ยเอี้ยอยุธยา พร้อมด้วย นายธีรพงศ์ อัศวสุนทรางกูร และ นายพิชัย ศิริพสุธา กรรมการสมาคมเตี้ยเอี้ยอยุธยา ได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณรอบๆ อาคารที่ทำการศูนย์สัมพันธ์ชาวเตี้ยเอี้ยอยุธยา เลขที่ ฐ 38/9 ม.7 ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากที่มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้าไปโจรกรรมโต๊ะไม้สักขนาดความยาว 5 เมตร กว้าง 1 เมตร สูง 1 เมตร และหนาประมาณ 5 นิ้ว ซึ่งเป็นโต๊ะโบราณเก่าแก่อายุประมาณกว่า 70 ปี สำหรับใช้ประชุม หายไป ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่น้อยกว่า 5 คน
นายวินัย เปิดเผยว่า อาคารหลังนี้เป็นอาคารเก่าแก่อายุเกือบ 100 ปี ชาวจีนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้สำหรับประชุมทำกิจกรรมร่วมกันทุกเดือน โดยเป็นอาคารทรงปั้นหยาสองชั้น มีสภาพชำรุดทรุดโทรม หลังจากที่ถูกน้ำท่วมเมื่อคราวที่ผ่านมา อาคารมีการชำรุดอย่างมาก ได้ทำเรื่องเสนอกรมศิลปากรเพื่อขอซ่อมแซม และทางกรมศิลปากรเพิ่งตอบอนุญาตให้มีการซ่อมแซม โดยห้ามรื้อหรือลบเลือนรูปแบบเดิม ทางสมาคมก็เตรียมที่จะวางโครงการในการหาทุนในการซ่อมแซม
ล่าสุด นายกสมาคมเตี้ยเอี้ยแห่งประเทศไทย เพิ่งเดินทางมาเยี่ยมดูสภาพความเสียหาย เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยนั่งประชุมภายในอาคาร จากนั้นก็ปิดอาคารไว้ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ตนและคณะกรรมการได้มาเปิดอาคารเพื่อเตรียมประชุมในปลายเดือนนี้ ปรากฏว่าโต๊ะประชุมขนาดใหญ่ที่อยู่คู่กับอาคารหลังนี้ ได้หายไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย สร้างความเสียใจให้กับชาวจีนที่ทราบข่าวพากันมาดูทั้งวัน ขณะนี้ได้แจ้งความเอาไว้ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา และมีรางวัลให้กับผู้ที่พบเห็นและนำไปสู่การจับกุมได้
พ.ต.ท.พิชา รุจินาม รองผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุแล้ว สันนิษฐานว่าคนร้ายมีจำนวนหลายคนอย่างแน่นอน เนื่องจากโต๊ะมีขนาดใหญ่มาก สามารถถอดแยกแผ่นไม้บนโต๊ะได้เป็น 3 ชิ้น โดยเป็นการใช้สลักไม่ใช่ตะปูหรือน๊อต คนร้ายน่าจะนำออกทางด้านรั้วด้านหน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน เชื่อว่าคนที่มาเอาไปต้องรู้ว่ามีโต๊ะไม้สักโบราณอยู่ที่นั่น และต้องมีใบสั่ง ซึ่งจะได้สืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป