เพชรุบรี - เจ้าหน้าที่นำ 3 ผู้ต้องหาร่วมซื้องาช้างป่าแก่งกระจาน เพชรบุรี มาสอบปากคำ หลังจับกุมได้ที่ราชบุรี อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติร่วมสอบ แต่เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ
เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (22 ก.พ.) นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เกินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี เพื่อสอบสวน นายวิฑูรย์ เรืองวรเศษฐ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/1 ต.โนนสูง ถนนโนนสูง-มิตรภาพ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา นายปัญญา สำราญพิศ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/3 ต.โนนสูง ถ.โนนสูง-มิตรภาพ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา และ นายมนูญ เรืองวรเศรษฐ อายุ 75 ปี เจ้าของร้านยอยัม ซึ่งจำหน่ายอุปกรณ์ประมงในตลาดทรัพย์สิน จ.ราชบุรี อยู่บ้านเลขที่ 8 ซอยสมบูรณ์กุล 2 ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี 3 ผู้ต้องหาคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ และ 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (งาช้าง ปลายงวง อวัยวะเพศผู้และปลายหาง) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่ายช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำผิด
โดยคดีดังกล่าวเกี่ยวเนื่องกับการที่ช้างป่าแก่งกระจานถูกยิงตายเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา และตำรวจภูธรภาค 7 ได้ดำเนินการสืบสวนจนมีพยานหลักฐานทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เป็นนายทุน ผู้รับซื้อโดยนายมนูญเป็นคนรับซื้อติดต่อโดยตรงกับพรานผู้ยิงช้าง เมื่อตกลงกันได้แล้วได้ให้ นายวิฑูรย์ บุตรชาย และ นายปัญญา บุตรเขย ขับรถไปรับงาช้าง งวงช้าง อวัยวะเพศ และปลายหางช้างที่ยิงมาได้ จากป่าแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ร้าน ยอยัม ถ.สมบูรณ์กุล ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี เมื่อเวลา 12.00 น.วันเดียวกันนี้
เบื้องตันผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว นายดำรงค์ ได้ซักถามรายละเอียดทั้ง 3 ประมาณ 10 นาที แต่ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ
นายดำรงค์ กล่าวว่า การรับซื้อของป่า เป็นสิ่งที่ทำลายชีวิตของสัตว์ป่าเนื่องจากซากสัตว์ที่ได้มาต้องแลกด้วยชีวิตสัตว์ป่าขอความกรุณาอย่าซื้อซากสัตว์ เพราะเมื่อไม่มีผู้ซื้อผู้ขายจะไม่มีแหล่งจำหน่าย การล่าสัตว์ป่าก็จะลดน้อยลง กรณีที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธเป็นสิทธิของเขา แต่เชื่อมั่นว่า ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนพอสมควรจึงดำเนินการออกหมายจับและทำการจับกุม ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการพิจารณายุติธรรมของศาล
ส่วนกรณีของผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่รวม 5 คน เมื่อพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีก็ต้องคืนความชอบธรรมให้ทันที ส่วนกรณีของปัญหาที่เกิดเนื่องมาจากชาวกะเหรี่ยงที่เข้ามาพักอาศัยในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจากนี้ไป จะมีการตรวจสอบและคุมปริมาณคนที่อยู่อาศัยในเขตอุทยานทั่วประเทศอย่างเข้มข้น ตนได้สั่งการไปแล้วว่าจะให้มีการทำหลักฐานสำมะโนประชากรบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ของอุทยานฯทุกแห่งการเข้าการออก ต้องมีข้อมูลและหลักฐานที่ชัดเจน รู้ที่มาและที่ไปจะไม่ปล่อยปละละเลยแล้วให้คนเหล่านี้ก่อปัญหาเชื่อว่าต่อไปการควบคุมดูแลชุมชนในเขตอุทยานฯจะดีขึ้นและป้องกันไม่ให้มีการสร้างปัญหาในการล่าสัตว์ หรือบุกรุกทำลายป่าได้
สำหรับการสอบสวนยังคงเป็นอย่างต่อเนื่องและจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายฝากขังชั่วคราวที่ศาลจังหวัดเพชรบุรีต่อไป