เพชรบุรี - “หมอล๊อต” พยานเผาทำลายซากช้างป่าแก่งกระจาน เมืองเพชรบุรี เข้ารายงานตัวต่อตำรวจ สภ.แก่งกระจาน แล้วตามหมายเรียกคดีอาญา
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (6 ก.พ.) นายสัตวแพทย์ ภัทรพล (หมอล๊อต) มณีอ่อน นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการของกรมอุทยานแห่งชาติฯ เดินทางมาที่ สภ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เข้ารายงานตัวต่อ พ.ต.อ.วรเดช สวนคล้าย ผกก.สภ.แก่งกระจาน ตามหมายเรียกคดีอาญาเพื่อเป็นพยานในการสอบสวนคดีเผาทำลายซากช้างป่า ซึ่งถูกยิงตายบริเวณริมอ่างเก็บน้ำกระหร่างสาม หมู่ 3 บ้านป่าแดง ต.ป่าเด้ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ภายในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทำให้ซากช้างซึ่งเป็นหลักฐานในคดีลักลอบยิงช้างสูญหาย
โดยคดีดังกล่าวผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้เผาทำลายซากช้างป่า คือ นายสุริยนต์ โพธิบัณฑิต ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ลูกจ้างและเจ้าหน้าที่เผ้าระวังช้างป่าอีก 4 คนซึ่งทั้งหมดได้เข้ามอบตัวและถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้แล้ว
คดีดังกล่าวเกี่ยวเนื่องกับ น.สพ.ภัทรพล เหตุเพราะ นายสุริยนต์ ได้อ้างว่า หลังพบซากช้างป่าตายที่บริเวณดังกล่าวได้ติดต่อไปยัง น.สพ.ภัทรพล เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.54 ให้เดินทางมาตรวจซาก และในวันเดียวกัน น.สพ.ภัทรพล ได้มีหนังสือแจ้งกลับมาว่าติดภารกิจไม่สามารถมาตรวจสอบได้ แต่ให้ นายสุริยนต์ พิจารณาทำลายซากโดยเสนอแนะ 3 กรณี คือ ฝังกลบ การใช้สารเคมี หรือ เผา นายสุริยนต์ พิจารณาว่า ซากช้างป่ามีขนาดใหญ่ ไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่ในการขุดหลุม การใช้สารเคมีไม่สามารถทำได้ เนื่องจากใกล้แหล่งน้ำ
ประกอบกับซากกำลังมีสภาพเน่าเหม็น อาจส่งกลิ่นรบกวนชุมชนในพื้นที่ใกล้ และถูกสัตว์เลี้ยงชาวบ้านกัดกินซาก เป็นพาหะกระจายโรค ประเด็นสำคัญของเสียที่เกิดจากการเน่าจะไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งที่ชาวบ้านใช้บริโภคอุปโภค และอาจส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้ จึงได้เร่งทำการเผาซากช้างในวันที่ 1 ม.ค.และ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา และต่อมามีการนำเอกสารบันทึกความเห็นในการพิจารณาทำลายซากสัตว์ป่า ซึ่งให้ความเห็นโดย น.สพ.ภัทรพล มาแสดงด้วย
น.สพ.ภัทรพล กล่าวยืนยันว่า ในวันและเวลาดังกล่าว ได้รับการติดต่อจากนายสุริยนต์ เพื่อให้มาตรวจสอบซากช้างป่าที่เสียชีวิตในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จริง แต่ตนติดภารกิจไม่สามารถมาได้ ประกอบกับทราบว่า ซากช้างกำลังเน่าส่งกลิ่นเหม็น จึงให้คำปรึกษาตามข้อมูลทางวิชาการในการทำลายซากให้นายสุริยนต์ พิจารณาดำเนินการ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ ปฏิบัติหน้าที่ในขอบเขตอำนาจและหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่หนักใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะทั่วประเทศในแต่ละวันมีสัตว์ป่าตาย และจำเป็นต้องทำลายซากจำนวนมาก ส่วนกรณีที่สื่อบางฉบับบางแขนงลงข่าวไปต่างๆ นานานั้น ผมไม่ถือสา เพราะเข้าใจถึงหน้าที่ในการที่ต้องมีข่าวนำเสนอดี ผมมีพ่อเป็นตำรวจ มีพี่เป็นเจ้าพนักงานป่าไม้ จึงเข้าใจปัญหาดี แต่ขอยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติ และไม่ใช่เรื่องที่สลับซับซ้อนแต่อย่างใด ผมทำตามหลักวิชาการและอำนาจหน้าที่ที่มีอย่างชัดเจน” น.สพ.ภัทรพล กล่าว