ปทส.นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านที่ชำแหละซากเสือโคร่งย่านบางชัน พบเพียงซากนกที่ถูกสตัฟ และเนื้อเสือโคร่งจำนวน 3 ถุงเพิ่มเติม ขณะที่เฒ่าวัย 73 รับเป็นเจ้าของบ้าน อ้างทำอาชีพสตัฟสัตว์ตั้งแต่อายุ 15 ปี บอกซากสัตว์ของกลางที่ จนท.ยึดเป็นของทางฟาร์มกับทางสวนสัตว์และมีใบแสดงสิทธิ์ทุกชิ้น โดยเฉพาะเสือขาวเป็นของบึงฉวาก ส่วนการเข้าตรวจค้นบ้าน “อ๊อด บางกรวย” ตัวการใหญ่นั้น ไม่พบใครหรือเจอซากสัตว์แต่อย่างใด
วันนี้ (6 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.เทวัญ มังคละชาติกุล ผกก.กก.1บก.ปทส. พ.ต.ท.รัฐธนนท์เอกฐิติกุลพัทธ์ สว.กก.1บก.ปทส.พร้อมเจ้าหน้าที่ บก.ปทส. และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำหมายค้นศาลอาญาเลขที่ 32/2555 ลงวันที่ 6 ก.พ.เข้าค้นบ้านเลขที่ 64/5 ซอยพระยาสุเรนทร์ 12 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านที่ค้นพบซากเสือโคร่งและซากสัตว์ที่ถูกสตั๊ฟไว้
จากการตรวจค้นบ้านดังกล่าวพบซากนกชนิดต่างๆ ที่ถูกสตัฟไว้ และยังพบเนื้อของเสือโคร่งที่ถูกชำแหละในวันเกิดเหตุอยู่ในถุงพลาสติก 3 ถุง ชั่งน้ำหนักรวมกันหนักกว่า 18 กิโลกรัม โดยมีนายประสิทธิ์ เรืองศรี อายุ 73 ปี รับเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่ตรวจยึดของซากสัตว์ทั้งหมดส่งให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตรวจสอบตรวจสอบใบอนุญาต
นายประสิทธิ์กล่าวว่า ประกอบอาชีพสตัฟสัตว์มาตั้งแต่อายุ 15 ปี จนถึงปัจจุบันโดยของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไปเป็นซากสัตว์ที่ทางฟาร์ม และสวนสัตว์ต่างๆ นำมาทำสตัฟ โดยมีใบแสดงสิทธิ์ทุกชิ้น โดยเฉพาะเสือขาวที่เจ้าหน้าที่ยึดไปเมื่อวานนี้ก็เป็นของบึงฉวาก โดยเสือตัวดังกล่าวได้ตายลงเจ้าหน้าที่ที่ดูแลจึงส่งมาให้สตัฟเก็บไว้ ซึ่งขณะนี้ตนกำลังประสานไปทางผู้จัดการของนายบรรหาร ศิลปอาชา เพื่อให้นำใบแสดงสิทธิ์มาให้เพื่อใช้ยืนยันต่อเจ้าหน้าที่ในการขอของกลางคืน ส่วนซากสัตว์อื่นๆ ที่ถูกตรวจยึดไปก็จะประสานให้สวนสัตว์และฟาร์มสัตว์ที่เอาซากสัตว์มาให้สตัฟนำใบแสดงสิทธิ์มาให้ เพื่อที่จะได้ไปขอของกลางคืนในวันพรุ่งนี้
ด้าน พ.ต.อ.เทวัญกล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะต้องอายัดซากสัตว์ที่ตรวจพบทั้งหมดในบ้านนายประสิทธิ์ เพื่อนำไปตรวจสอบก่อนว่ามีสัตว์ชนิดใดที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง หากชิ้นใดไม่ใช่สัตว์ป่าคุ้มครองก็จะคืนไป ทั้งนี้ ชิ้นซากสัตว์ที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ทางเจ้าของบ้านต้องนำใบแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของมายืนยัน หากมีใบดังกล่าวก็สามารถคืนของกลางดังกล่าวได้ หากไม่มีก็จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.สัตว์ป่า ส่วนซากเสือโคร่งที่พบทางนายประสิทธิ์อ้างว่ามีคนจ้างวานให้ทำ ซึ่งก็จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง ทั้งนี้ชุดจับกุมยังได้เข้าไปตรวจสอบบ้านนายอ๊อดที่อยู่ย่านบางกรวย แต่ไม่พบใคร หรือซากสัตว์อื่นๆ มีเพียงนกที่ถูกเลี้ยงไว้ในกรงเท่านั้น
วันเดียวกัน พ.ต.ท.อภิชาติ จินาเพ็ญ สว.กก.1.บก.ปทส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เกือบ 10 นายนำหมายค้นศาลอาญาคำสั่งที่ ค.24/2555 เข้าค้นบ้านทาวเฮาส์ 2 ห้อง 3 ชั้นติดกันเลขที่ 41/6 ม.5 ต.วัดชะลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายธนานุวัฒน์ บุญเพิ่ม อายุ 61 ปี หรือเสี่ยอ๊อด สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางชันได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาลักลอบค้าซากสัตว์ป่าคุ้มครองพร้อมยึดซากเสือโครง ซากม้าลายและซากสัตว์อื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การซัดทอดว่าซากสัตว์ทั้งหมดเป็นของนายธนานุวัฒน์ หรือเสี่ยอ๊อด
จากการตรวจค้นภายในบ้านพบเพียงกรงเลี้ยงนกจำนวน 6 กรงมีนกที่เลี้ยงอยู่เพียง 4 ตัว และกรงเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ 2 กรงแต่ไม่มีสัตว์ถูกเลี้ยงไว้ โดยไม่พบตัวนายธนานุวัฒน์แต่อย่างใดมีเพียงญาติของนายธนานุวัฒน์ที่นำเอกสารการแจ้งครอบครองนกที่ทางอำเภอบางกรวยออกให้จำนวนกว่า 50 ตัวมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการยึดนกดังกล่าวไปตรวจสอบด้วย เนื่องจากเอกสารการแจ้งครอบครองนกดังกล่าวมีมากกว่า 50 ตัวแต่มีนกที่เลี้ยงเพียง 4 ตัวเท่านั้น
เวลาต่อมานายธนานุวัฒน์ หรืออ๊อดได้โทรศัพท์เข้ามาพูดคุยกับพ.ต.ท.อภิชาติ พร้อมกล่าวว่าตนเองไม่มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการค้าสัตว์แต่อย่างใด แต่ถูกใส่ร้ายและอยากให้สื่อมวลชนให้ความเป็นธรรมกับตนเองด้วย โดยในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปมอบตัวพร้อมด้วยทนายความที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ในเวลา 10.30 น.