ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมทางหลวง เตรียมก่อสร้างทางร่วมทางแยก ย่านแหลมฉบัง-หนองขาม เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรที่แออัด ส่งผลกระทบต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรผ่านไปมา คาดจะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือน พ.ค.นี้ โดยจะใช้งบประมาณหลายพันล้านบาท ซึ่งจะเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี
วันนี้ (22 ก.พ.) ที่ห้องประชุม ชั้น 2 เทศบาลนครแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กรมทางหลวง จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อการสรุปรูปแบบการปรับปรุงทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายชลบุรี-พัทยา, โครงการสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายทางแยกต่างระดับหนองขาม-ทางแยกต่างระดับแหลมฉบัง และการออกแบบปรับปรุงทางหลวงพิเศษ หมายเลข 7 สายชลบุรี-พัทยา โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ ,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, สถาบันการศึกษาและประชาชน เข้าร่วมประชุมครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
นายสุทธิชัย สนธิมุล รองผู้อำนวยการสำนักทางหลวงที่ 12 กล่าวถึงสาเหตุที่มีโครงการดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจากบริเวณพื้นที่ดังกล่าว มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงและรวดเร็ว ส่งผลทำให้เกิดปัญหาด้านการจราจรที่แออัด ซึ่งที่ผ่านมา มีแนวทางในการแก้ไข แต่ก็ได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น เพื่อให้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จ ทางกรมทางหลวงจึงมีแนวทางในการพัฒนาปรับปรุงทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายชลบุรี-พัทยา, โครงการสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายทางแยกต่างระดับหนองขาม-ทางแยกต่างระดับแหลมฉบัง และการออกแบบปรับปรุงทางหลวงพิเศษ หมายเลข 7 สายชลบุรี-พัทยา
บริเวณดังกล่าวเป็นโครงข่ายที่สำคัญที่รองรับการเดินทางท่องเที่ยว และการขนส่งสินค้าจากท่าเรือและนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เพื่อเป็นการรองรับการเดินทางและขนส่งสินค้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จึงออกแบบสำรวจ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทางและประชาชนที่อาศัยในพื้นที่
นายสุทธิชัย กล่าวต่อไปว่า หลังสอบถามความคิดประชาชนในครั้งนี้ เพื่อนำข้อมูลต่างๆ ไปปรับปรุงแก้ไขอีกเล็กน้อย จากนั้นก็จะเร่งดำเนินการออกแบบและดำเนินการก่อสร้างภายในเดือน พ.ค. นี้ เพื่อให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 3 ปี โครงการจะแล้วเสร็จ
สำหรับโครงการนี้จะต้องใช้งบประมาณพิเศษในการดำเนินการก่อสร้าง โดยจะต้องเสนอรัฐบาลต่อไป ซึ่งขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างไรต่อไป โดยงบประมาณในขณะนี้ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากจะต้องมีการแก้ไขรูปแบบการก่อสร้างอีกเล็กน้อย ซึ่งเบื้องต้นหลาย 1,000 ล้านบาท อย่างแน่นอน