เพชรบุรี - คนร้ายฆ่าโหดหนุ่มนิรนาม คลุมไอ้โม่งลงมือทุบหัวจนเสียชีวิตแล้วเผานั่งยางทิ้งบริเวณพื้นที่โล่ง เขตชุมชนบ้านบ่อแขมด้านใต้ริมคลองชลประทาน ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ตำรวจมึน
เมื่อเวลา 19.00 น.ของคืนวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ไตรวิทย์ น้ำทองไทย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พ.ต.อ.วิทัศน์ บริรักษ์ ผกก.สภ.ชะอำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดเพชรบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสรรเพชญธรรมสถานเพชรบุรี และแพทย์เวรโรงพยาบาลชะอำ ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพถูกฆ่าเผานั่งยางบริเวณพื้นที่โล่งเขตชุมชนบ้านบ่อแขมด้านใต้ริมคลองชลประทาน ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ที่เกิดเหตุพบร่างของมนุษย์ถูกเผานั่งยางจนไหม้เกรียม สภาพศพนอนคว่ำหน้ามีกลิ่นเหม็นเน่า โดยชิ้นส่วนของเนื้อและหนังยังติดอยู่แทบทุกส่วนของร่างกาย
จากการชันสูตรพลิกศพพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นชายรูปร่างสูงประมาณ 170 ซม.สภาพร่างกายถูกไฟไหม้เกรียมจนไม่สามารถระบุใบหน้าได้ว่าเป็นใคร ไม่มีหลักฐานเอกสารใดๆ อยู่ในที่เกิดเหตุเช่นกัน มือด้านซ้ายถูกไฟไหม้จนไม่เหลือซาก ส่วนมือด้านขวายังเหลืออยู่และซึ่งสามารถพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อพิสูจน์ได้ บริเวณศีรษะมีเศษของหมวกไหมพรหมติดอยู่ส่วนหัว และบริเวณคอ โดยลักษณะผู้เสียชีวิตถูกหมวกไหมพรหมคลุมศีรษะจนมิดจนถึงลำคอ โดยไฟไหม้ไม่หมดจนหลงเหลือชิ้นส่วนที่ยังสามารถเก็บไว้เป็นหลักฐานได้
นอกจากนี้ยังพบว่า บริเวณแขนขวามีผ้าเช็ดตัวสีขาวที่ไฟไหม้ไม่หมด พบชิ้นส่วนขอบกางเกงชั้นในยี่ห้อโปลิส และเศษชิ้นส่วนเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้เล็กๆ คล้ายลายโบราณหลงเหลืออยู่ บริเวณขมับขวาพบรอยเลือดที่ถูกไฟไหม้ ศีรษะด้านขวาเหนือกกหูมีแผลฉกรรจ์จนกะโหลกยุบ อีกทั้งยังพบเศษชิ้นส่วนล้อยางรถยนต์และเส้นลวดจำนวนมากอยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดเพชรบุรีจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนายสุนทร แก้วเนตร อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 258 เขตเทศบาลตำบลชะอำ ชาวบ้านที่พบศพเล่าให้ฟังว่า ก่อนพบศพได้ขี่จักรยานมาตามเส้นทางดินดังกล่าวเนื่องจากชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางลัดในการเดินทางไปถนนบายพาสเพชรเกษม โดยจะไปเอาเมล็ดข้าวโพดมาให้ไก่กิน และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุครั้งแรกไม่ได้เห็นศพเนื่องจากมีถุงปุ๋ยและถุงกระดาษปกปิดอยู่แต่ได้กลิ่นเหม็นเน่า ซึ่งจากการมองไกลๆ เห็นเพียงวัตถุดำๆ ไม่ได้คิดว่าจะเป็นร่างของคน คิดว่าเป็นซากสัตว์ที่ใครเอามาเผาทิ้งไว้ จึงเดินไปหยิบถุงกระดาษออกดูและต้องตกใจเมื่อเห็นเท้าของคนและร่างของคนนอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพถูกเผานั่งยางจนดำเป็นตอตะโก จึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบดังกล่าว
จากการสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่า ผู้ตายน่าจะเป็นคนนอกพื้นที่เนื่องจากในพื้นที่ยังไม่มีใครมาแจ้งบุคคลสูญหาย โดยผู้ตายอาจถูกจับโดยการใช้หมวกไหมพรหมสวมครอบบริเวณศีรษะก่อนที่จะถูกตีด้วยของแข็งบริเวณศีรษะจนกะโหลกยุบเสียชีวิต ก่อนที่จะนำมาเผานั่งยางเพื่ออำพรางค์ โดยคนร้ายใช้ยางล้อรถยนต์ประมาณ 3 เส้นกองไว้บนพื้นดินแล้วนำร่างของผู้เสียชีวิตวางและใช้น้ำมันราดก่อนจุดไฟเผา
อีกทั้งคาดว่าผู้ลงมือได้ย้อนกลับมาดูอีกทั้ง ซึ่งพบว่าเผาไหม้ซากไม่หมดจึงใช้ถุงกระดาษมาสุมกองทับอีกชั้นเพื่ออำพรางดังกล่าว สำหรับศพถูกนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อทำการตรวจพิสูจน์อีกครั้ง