เพชรบุรี - พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 7 ลงพื้นที่เร่งรัดคดีฆ่าช้างแก่งกระจาน พร้อมเตรียมขุดซากช้างชันสูตรหาหลักฐาน และกำชับให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (9 ม.ค.) ที่ห้องประชุมธรรมอนันต์ สภ.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผบช.ภ. 7 เดินทางมาติดตามคดีช้างถูกฆ่าเผานั่งยาง และถูกฆ่าตัดงากับอวัยวะเพศในพื้นที่บ้านป่าแดงหมู่ 3 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
โดยได้มีการเร่งรัดให้ติดตามคดีแยกเป็น 2 คดี คือ ช้างถูกเผา และช้างถูกฆ่าตัดงา กับอวัยวะเพศ และให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัว นายสมบูรณ์ เมนะ ชาวบ้านตำบลป่าเด็ง คดีล่ายิงช้างป่าที่กุยบุรี เมื่อปี 2553 มาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากเป็นบุคคลที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน โดยมีการประสานกับทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทหาร องค์กรปกครองในพื้นที่ ในการช่วยติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ
ทั้งนี้ มีการนำตัวผู้ต้องสงสัย 1 ราย คือ นายประสาน งามสัน ชาวบ้านหมู่ 8 บ้านป่าเด็ง จากการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายบริเวณหมู่ 8 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่พบของกลางเป็นปืนลูกซองสั้น พร้อมเครื่องกระสุนและซากสัตว์ป่า คือ เม่นที่ถูกชำแหละเนื้อ 1 ตัว หัวค่างแว่น 1 หัว ขนเม่น และเต่าภูเขาอีก 1 ตัว ที่เบื้องต้น นายประสาน ให้การรับสารภาพว่าไปล่าสัตว์เพื่อมาทำอาหาร
หลังจากได้มีการประชุมรับฟังข้อมูลแล้ว พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่องพิสูจน์หลักฐาน พ.ต.ต.ฐิติพงศ์ เจนกิจเจริญชัย ผบ.กองร้อย ตชด.ที่ 144 พ.อ.อดิศร โครพ ผบ.พล.ร.9 ค่ายสุรสีห์ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเพชรบุรี พร้อมคณะที่เกี่ยวข้อง ร่วมเดินทางไปดูจุดที่พบช้างถูกฆ่าตายทั้ง 2 จุด
โดยจุดแรกบริเวณพื้นที่ป่า หมู่ 6 ต.ป่าเด็ง ที่พบซากช้างถูกยิงตัดงาและอวัยวะเพศ ส่วนจุดที่ 2 บริเวณริมอ่างเก็บน้ำกระหร่าง 3 หมู่ที่ 3 ต.ป่าเด็ง ห่างจากจุดที่พบช้างตัวแรกประมาณ 4 กม.ที่พบซากช้างถูกเผานั่งยาง
พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่องพิสูจน์หลักฐานที่ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.ให้เข้ามาช่วยดูแลในเรื่องของการพิสูจน์หลักฐานเป็นพิเศษ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุจุดแรกพบชิ้น ส่วนหนังช้างบางส่วนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุส่วนซากช้างที่ฝังจะให้เจ้าหน้าที่ทำการขุดขึ้นมาเพื่อชันสูตรหาหลักฐานเพิ่มเติมที่มีทั้งการตรวจหา DNA
นอกจากนี้ เท่าที่ทราบข้อมูลพบว่า กะโหลกของช้างยังมีชิ้นส่วนที่เหลืออยู่ ซึ่งจะต้องทำการตรวจหาร่องรอยหรือหัวกระสุนที่อาจเป็นหลักฐานสำคัญในการที่จะสืบไปถึงยังตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ
ส่วนจุดที่สอง ที่พบว่า ช้างถูกเผานั่งยางนั้น ในที่เกิดเหตุพบกองขี้เถ้าขนาดใหญ่ โดยมีซากเส้นลวดของยางรถยนต์ที่มีมากกว่า 20 เส้น ที่บางเส้นยังเห็นลายของล้อยางรถยนต์ ซึ่งจะต้องให้เจ้าหน้าที่วิทยาการเก็บหลักฐานทั้งหมด เพื่อทำการตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการซื้อยางรถยนต์มาจากในพื้นที่ ซึ่งบางส่วนยังคงหลงเหลือร่องรอยที่จะสามารถตรวจสอบหาที่มาของยางรถยนต์ที่พบในที่เกิดเหตุได้
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีเศษซากกระดูกของช้างที่เผาไหม้ไม่หมดอยู่ในกองขี่เถ้า ซึ่งจะต้องทำการเก็บไปพิสูจน์ DNA เช่นกัน ส่วนขี้เถ้านั้นจะต้องให้เจ้าหน้าที่ทำการร่อนเพื่อหาหลักฐานซึ่งอาจจะเจอหัวกระสุนหรือหลักฐานชิ้นสำคัญในที่เกิดเหตุก็เป็นได้
สำหรับการขุดซากช้างเพื่อนำมาชันสูตรหาหลักฐานเพิ่มเติมนั้น จะต้องดำเนินการอย่างเร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าน่าจะดำเนินการขุดในวันพรุ่งนี้ ส่วนชิ้นส่วนกระดูกและหลักฐานเพิ่มเติมที่ได้จะถูกส่งตรวจยังศูนย์พิสูจน์หลักฐานกลางกรุงเทพมหานครต่อไป
ด้าน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า จากที่มีสื่อหนังสือพิมพ์บางฉบับ ลงข่าวว่า ชาวบ้านให้การระบุว่า การฆ่าและเผาช้างในครั้งนี้มีบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ร่วมขบวนการด้วยนั้น เรื่องดังกล่าวทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว โดยส่วนของอุทยานเองก็ได้มีการตั้งชุดกรรมการสอบสวนเช่นกัน ซึ่งหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่อุทยานร่วมขบวนการด้วยก็ต้องว่ากันไปตามระเบียบกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการควบคุมตัวนายจุก ซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยงวัย 60 ปี ที่อาศัยอยู่ในป่าเด็งไปทำการสอบสวน โดย นายจุก รับสารภาพว่าเป็นคนตัดงาช้างจริง แต่ไม่ได้เป็นผู้ลงมือยิงช้าง โดยมีผู้ว่าจ้างให้มาเลาะตัดงาช้างอีกทอด