xs
xsm
sm
md
lg

ไพร่แดงอีสานเปิดเวทีปราศรัย รับ ครม.สัญจรอุดร ลั่นภายใน 2 ปี เปิดหมู่บ้านเสื้อแดงให้ได้ 3 หมื่นหมู่บ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เวทีปราศรัยใหญ่ของสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงฯที่ทุ่งศรีเมืองก่อนครม.สัญจรจะมาถึงในวันที่ 22 ก.พ.นี้
อุดรธานี - สมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงเปิดเวทีปราศรัยที่ทุ่งศรีเมือง รับประชุม ครม.สัญจร ประกาศต้านปฏิวัติ-รัฐประหาร พร้อมล่ารายชื่อหาสมาชิกเพิ่ม มอบป้ายหมู่บ้านเสื้อแดงอีก 1,000 หมู่บ้าน ตั้งเป้าหมายใน 2 ปี เปิดหมู่บ้านเสื้อแดงทั่วไทยได้ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นหมู่บ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดอุดรธานี ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (19 ก.พ.) ที่สนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี อ.เมือง จ.อุดรธานี สมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย ได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่ โดยใช้ชื่อเวทีว่า หมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย ต้านปฏิวัติรัฐประหาร

โดยเชิญแกนนำ นปช.แกนนำเสื้อแดงจากส่วนกลาง อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ นายพงษ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง นายอรรถชัย อนันตเมฆ นายเจ๋ง ดอกจิก นายสุพร อัตถาวงศ์ นายวรชัย เหมะ นายรังสี เสรีชัย นางดารุณี กฤตบุญญาลัย มาขึ้นเวทีปราศรัย โดยมีคนเสื้อแดงจำนวนมากเข้าร่วมรับฟัง

โดยงานได้เริ่มกันตั้งแต่ช่วงบ่าย มีการตั้งเต็นท์เปิดรับสมัครสมาชิก การลงรายชื่อสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน การมอบป้ายหมู่บ้านเสื้อแดงจำนวน 1,000 หมู่บ้าน และเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ ซึ่งบรรยากาศบนเวทีเป็นไปอย่างคึกคัก มีบุคคลที่อ้างตัวเองว่ามีหัวใจประชาธิปไตย ต้องการประชาธิปไตย ขึ้นเวทีสลับผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา คนเสื้อเหลือง กลุ่มอำมาตย์ และการทำรัฐประหารโดยทหาร

ต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น.นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย ได้ขึ้นเวทีกล่าวถึงจุดประสงค์ของการจัดกิจกรรม พร้อมกับเปิดตัวคณะกรรมการสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย คือ ร.ต.ต.กมลศิลป์ สิงหะสุริยะ ประธานสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย นายดาชัย อุชุโกศลการ รองประธานสมาพันธ์ฯภาคเหนือ นางนิตยา นาโล รองประธานฯภาคอีสาน นายพีระพงศ์ สังทอง รองประธานฯภาคใต้ และ นายอานนท์ แสนน่าน เลขาสมาพันธ์ฯ โดยมี พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อุดรธานี เขต 2 เป็นประธานที่ปรึกษา

จากนั้น นายสุนัย จุลพงศธร ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในการมอบป้ายหมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย ให้กับตัวแทนจังหวัดทั้ง 20 จังหวัด และจากตัวแทนจากภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ หลังจากนั้น นายสุนัย ได้กล่าวปราศรัยกับสมาชิกสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดง สลับกับเสียงปรบมือของสมาชิกเสื้อแดงเป็นระยะๆ

การปราศรัยตอนหนึ่ง นายสุนัย ได้กล่าวถึง นายขวัญชัย ไพรพนา ว่า ตนเองต่อสู้ในเรื่องประชาธิปไตยมาตั้งแต่น้องขวัญชัย ยังไม่เกิด ตนเองต่อสู้กับเผด็จการทางทหารตั้งแต่ยังเด็ก ตั้งแต่เป็นผู้นำนักศึกษาอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงเข้าใจกลไกทุกอย่างหมดแล้ว ว่า การที่จะสร้างประชาธิปไตยนั้นต้องเริ่มที่หมู่บ้าน ดังนั้น การมีหมู่บ้านเสื้อแดงนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมายอย่างที่น้องขวัญชัยเข้าใจเลย

นายสุนัย ได้กล่าวต่ออีกว่า สำหรับหมู่บ้านเสื้อแดงนั้น ถือว่าเป็นรากฐานของระบบประชาธิปไตยที่มีความสำคัญยิ่ง ส่วนรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นเหมือนโครงสร้าง โดยมีฝ่ายต่างๆ เป็นเสา เป็นคาน และเป็นหลังคา หากว่าสามารถเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงให้ครบ 7 หมื่นหมู่บ้าน ก็จะสร้างความเข้มแข็งให้ประชาธิปไตยได้อย่างแท้จริง และสามารถที่จะนำเอา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับคืนประเทศไทยได้

หลังจากทำพิธีมอบป้ายเสร็จ ก็เป็นการขึ้นเวทีปราศรัยของแกนนำเสื้อแดง นปช.และจากส่วนกลาง อาทิเช่น นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ, นายพงษ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง, นายอรรถชัย อนันตเมฆ, นายเจ๋ง ดอกจิก, นายสุพร อัตถาวงศ์, นายวรชัย เหมะ, นายรังสี เสรีชัย และ นางดารณี กฤตบุญญาลัย และปิดท้ายการปราศรัยโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ จนกระทั่งเวลา 00.30 น.เวทีได้ยุติลง

ด้าน นายอานนท์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในขณะนี้ทางสมาพันธ์เสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตย ได้เปิดหมู่บ้านคนเสื้อแดงทั่วประเทศไปได้แล้วจำนวน 12,600 หมู่บ้าน จากเป้าหมายว่า จะเปิดให้ได้ 30,000 หมู่บ้าน ในเวลา 2 ปี และในการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงในวันนี้ที่สนามทุ่งศรีเมืองเป็นการเปิดหมู่บ้านเฉพาะในภาคอีสานจำนวน 1,000 หมู่บ้าน

แบ่งเป็นขอนแก่น 20 แห่ง, อุดรธานี 100 แห่ง, สุรินทร์ 5 แห่ง, ศรีสะเกษ 80 แห่ง, มุกดาหาร 200 แห่ง, ชัยภูมิ 10 แห่ง, ร้อยเอ็ด 20 แห่ง, หนองบัวลำภู 10 แห่ง, เลย 30 แห่ง, สกลนคร 100 แห่ง, บุรีรัมย์ 50 แห่ง, อำนาจเจริญ 5 แห่ง, นครราชสีมา 20 แห่ง, กาฬสินธุ์ 100 แห่ง, นครพนม 50 แห่ง, อุบลราชธานี 5 แห่ง, หนองคาย 20 แห่ง, ยโสธร 5 แห่ง, บึงกาฬ 20 แห่ง และ จ.มหาสารคาม 200 แห่ง





กำลังโหลดความคิดเห็น