ศรีสะเกษ - ตำรวจศรีสะเกษ-จนท.ป่าไม้ บุกตรวจยึดคลังไม้พะยูงเถื่อนกว่า 60 ท่อน ซุกในห้องแถวให้เช่ากลางเมืองศรีสะเกษ สภาพไม้สดใหม่ มูลค่ากว่า 10 ล้าน เจ้าของห้องแถวให้เช่าปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับไม้พะยูง ขณะ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติฯ ยัน มี จนท.น้ำดีมากกว่าพวกนอกแถว ส่งผลมีการจับกุมต่อเนื่อง
วันนี้ (8 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวข่าวรายงานว่า ที่ห้องแถวให้เช่าเลขที่ 294/1 ถ.ศรีสะเกษ-อุบลราชธานี ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายวัฒนา พุฒิชาติ นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ, ร.ต.อ.ไพรวัลย์ อายุวงษ์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ, นายธนิตย ทวีชื่น เจ้าพนักงานป่าไม้ ชำนาญงานและคณะ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.ศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก.5 และ เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานป่าไม้ จ.ศรีสะเกษ ได้ทำการตัดกุญแจและเปิดประตูเหล็กบุกเข้าทำการตรวจยึดไม้พะยูงในห้องแถวให้เช่าดังกล่าว
ภายในห้องเช่าพบไม้พะยูงขนาดต่างๆ ความยาวท่อนละ 2-3 เมตร และบางท่อนมีการแปรสภาพเป็นไม้แผ่นแล้วรวมจำนวนทั้งสิ้น 61 ท่อน ซึ่งไม้พะยูงส่วนมากมีสภาพใหม่สด และมีเครื่องชั่งน้ำหนักจำนวน 4 เครื่อง และช็อกสีขาวสำหรับเขียนกระดาน สำหรับการเขียนบันทึกจำนวนไม้ทั้งหมดด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดไม้พะยูงของกลางทั้งหมดส่งมอบให้ พ.ต.อ.ประจวบ จันทร์ประวิตร ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ดำเนินการคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่า เจ้าของห้องแถวให้เช่าห้องนี้ชื่อ นายกิตติพันธ์ โกยกุล ไม่ทราบอายุ ได้เช่าห้องแถวนี้เอาไว้ ซึ่งสืบทราบว่า มีการลักลอบนำเอาไม้พะยูงมาพักไว้ที่ห้องแถวให้เช่านี้ เพื่อทำเป็นคลังพักไม้พะยูงเตรียมส่งออกไปขายต่าง ประเทศ โดยหากนำเอาไม้พะยูงทั้งหมดในห้องนี้ส่งออกไปขายที่ต่างประเทศจะมีราคากว่า 10 ล้านบาท
ส่วนกรณีที่ขณะนี้แก๊งลักลอบตัดไม้พะยูงมีการลักลอบขนไม้พะยูงโดยตัดเป็นท่อนเล็กๆ เพื่อสะดวกในเคลื่อนย้ายขนส่งนั้น ตนได้ปรับกลยุทธ์ในการปราบปรามจับกุมโดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันตรวจสอบให้ละเอียดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเพื่อป้องกันไม่ให้มีการแอบลักลอบขนไม้พะยูงได้ผ่านเข้ามาในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ได้อย่างเด็ดขาด
พล.ต.ต.พงษ์วุฒิ กล่าวต่อว่า จากการดำเนินการปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูงที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือในการปฏิบัติงานปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูงจาก หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 และเจ้าหน้าที่ป่าไม้รวมทั้งฝ่ายปกครองเป็นอย่างดียิ่ง สำหรับไม้พะยูงที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้จะตรวจสอบขยายผลว่า เพราะเหตุใดจึงมีไม้พะยูงมาอยู่ในห้องแถวนี้จำนวนมาก และนำเอาไม้พะยูงมาจากที่ใดเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายและผู้เกี่ยวข้องต่อไป และหากว่าคดีนี้เกี่ยวพันกับผู้มีสีคนใด จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดและพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่
ต่อมาเวลา 13.30 น.วันเดียวกันนี้ (8 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้เชิญตัวเจ้าของห้องแถวให้เช่าดังกล่าว (ขอสงวนชื่อ) มาสอบปากคำ โดยเจ้าของห้องแถวให้เช่ารายนี้ ได้ปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องการนำไม้พะยูง จำนวน 60 ท่อน มาซุกซ่อนไว้ในห้องแถวแต่อย่างใด ทราบแต่เพียงว่า มีคนมาติดต่อขอเช่าห้องของตนชื่อ นายกิตติพันธ์ โกยกุล ส่วนจะเช่าไว้ทำอะไรนั้น ตนไม่ทราบ
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามหาตัว นายกิตติพันธ์ มาสอบสวนว่า มีส่วนพัวพันกับการนำไม้พะยูงมาเก็บไว้ที่ห้องเช่านี้หรือไม่ และจากการค้นหาชื่อของ นายกิตติพันธ์ ทางอินเทอร์เน็ต ทราบว่า มีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท อีเว้นท์บุรี จำกัด ส่วนจะเป็นคนเดียวกัน หรือมีส่วนรู้เห็นกับไม้พะยูงที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้หรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ส่งหมายเรียกนายกิตติพันธ์ มาทำการสอบสวนต่อไป
นายชาญชัย งามเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่ตนพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำกำลังมาตรวจยึดไม้พะยูงของกลาง รวม 60 ท่อน ในวันนี้เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องที่ได้ติดตามมาตลอด ทั้งที่เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ที่เป็นภูเขา รวมทั้งพื้นที่ป่าในที่ราบ เพื่อที่จะทำให้ขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงหมดสิ้นไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้บางกลุ่มไปมีส่วนพัวพันกับขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงด้วยนั้น นายชาญชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ติดตามอยู่ตลอดเวลา เพราะเชื่อว่าในกลุ่มเจ้าหน้าที่นี้ หากพบว่า ทำตัวนอกรีตนอกรอยก็จะจัดการขั้นเด็ดขาด แต่ดูจากผลงานที่ผ่าน ๆ มา แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ยังมีคุณภาพอยู่ ยังยึดมั่นในวิชาชีพของตนเองอยู่ แต่หากพบว่า เจ้าหน้าที่คนใดออกนอกรีตนอกรอย ก็จะดำเนินการขั้นเฉียบขาด
ผู้สื่อข่าวถามว่า การโยกย้าย หรือสับเปลี่ยนหัวหน้าส่วนในระดับปฏิบัติการ มีส่วนทำให้ขบวนการตัดไม้พะยูงลดลงหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแบ่งออกเป็น 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรก คือ หัวหน้าบางคน อาจจะไม่มีความชำนาญในการปราบปราม หรืออาจล้าจากการปราบปราม ก็จะให้ไปทำงานในส่วนที่เหมาะสม สำหรับเจ้าหน้าที่คนใหม่ที่ไฟแรงมาก ก็จะนำเข้ามา ซึ่งแน่นอนว่า มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำ มีมุมมองใหม่ ทำยุทธศาสตร์ใหม่ๆ มา ก็เป็นผลที่จะทำให้ปัญหาเรื่องการลักลอบตัดไม้พะยูงนี้คลี่คลายลงไปได้