xs
xsm
sm
md
lg

ศรีสะเกษร่วมเซ็น “MOU” ปราบแก๊งตัดไม้พะยูง - เผยจับ 30 คดีกว่า 100 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ จับมือตำรวจ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้  และทหารปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง วันนี้ (23 ก.พ.)
ศรีสะเกษ - ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ จับมือตำรวจ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และทหารปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เผยต้นปีเป็นต้นมาจับกุมคดีไม้พะยูงไปแล้วกว่า 30 คดี หากส่งออกไปต่างประเทศได้มีมูลค่าสูงถึง 100 ล้าน

วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมศรีวรรณ เกียรติสุรนนท์ มหา วิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการแก้ไขปัญหาการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะป่าไม้ในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรจ.ศรีสะเกษ ระหว่าง ผู้ว่าฯศรีสะเกษ กับ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ รองผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ หัวหน้าสถานีตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ ข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ป่าไม้พนมดงรัก และทหารพรานจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เข้าร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้

เพื่อแสดงพันธะต่อกันในการทำหน้าที่แก้ไขปัญหาการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงกรณีปัญหาการลักลอบตัดไม้ในหมู่บ้าน ชุมชนทุกแห่งของ จ.ศรีสะเกษ โดยยึดมั่นที่จะอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ และเพื่อให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดได้ตระหนัก มุ่งมั่น ร่วมกันแก้ไข สร้างจิตสำนึกที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ หรือกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย

นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากสถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับไม้พะยูงในช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลังจากที่ทางรัฐบาลได้มีนโยบายในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับไม้พะยูง ตามแนวชายแดนอย่างจริงจังนั้น ทำให้มีผลการจับกุมเพิ่มมากขึ้นกว่าเท่าตัว ซึ่งบางครั้งได้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องด้วย โดยในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบตัดและขนไม้พะยูงมาแล้วกว่า 30 คดี ซึ่งหากมีการส่งการไม้พะยูงออกไปขายยังประเทศที่ 3 ได้จะมีมูลค่าสูงถึง 100 ล้านบาท

ทางด้าน พล.ต.ต.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความพร้อมทั้งในเรื่องกำลังพล และอาวุธในการเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และตนพร้อมให้การสนับสนุนกำลังพล และอาวุธ หากมีการร้องขอเข้ามา ซึ่งตนได้ประกาศเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐหากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในครั้งนี้อย่างจริงจัง และในส่วนของการออกลาดตระเวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ป่าพนมดงรักนั้น ตำรวจมีความพร้อมที่จะทำงานร่วมกันกับทุกฝ่าย และในครั้งนี้ก็ได้มีมาตรการเพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจจุดสกัดไม่ให้มีการลักลอบขนไม้พะยูงในเขตพื้นที่อำเภอชายแดนเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว รวมทั้งเพื่อปิดกั้นสกัดการขนไม้พะยูงออกจากพื้นที่อีกด้วย

พล.ต.ต.พงษ์วุฒิ กล่าวต่อว่า บันทึกข้อตกลงในครั้งนี้มีสาระสำคัญ คือ ให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรและหัวหน้าสถานีตำรวจภูธร ในสังกัดตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ ร่วมกันทำหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ ตรวจสอบ กำกับ ดูแล ป้องกัน และปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ ในหมู่บ้าน/ชุมชนทุกแห่ง อีกทั้งจะดำเนินการแก้ไขปัญหาการตัดไม้ในพื้นที่ โดยร่วมกับหมู่บ้าน ชุมชน โดยมี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่ายอาสาสมัครหมู่บ้าน/ชุมชน เป็นภาคีรับผิดชอบร่วมกัน โดยจะต้องไปดำเนินการสืบทอดเจตนารมณ์ทำการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในพื้นที่รับผิดชอบของตนเอง เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ของการบูรณาการร่วมกันต่อไป

พร้อมทั้งจะทำหน้าที่ในการกำ กับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับ ไม่ให้เกี่ยวข้อง หรือแสวงหาผลประโยชน์จากการลักลอบตัดไม้ หรือขนย้ายไม่ให้มีการแปรสภาพแล้ว โดยเคร่งครัด หากพบว่าผู้ใต้บังคับบัญชาฝ่าฝืน หรือมีส่วนเกี่ยวข้อง นอกจากจะถูกดำเนินการตามกฎหมายแล้ว จะต้องถูกดำเนินคดีทางวินัยอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ การไม่กำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา เมื่อปรากฏว่า มีข้าราชการตำรวจในปกครองของตนนายใดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นด้วยเช่นกัน และข้าราชการตำรวจผู้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงทุกนายจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงกรณีปัญหาการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นทางตรง หรือทางอ้อม






กำลังโหลดความคิดเห็น