นายกกิตติมศักดิ์โรงสีข้าวไทยขานรับโปรแกรมเตะถ่วงขายข้าวตามกระทรวงพาณิชย์

ฉะเชิงเทรา - นายกสมาคมกิตติมศักดิ์โรงสีข้าวไทย ขานรับโปรแกรมเตะถ่วงค่าเวลาการเทขายข้าวไทย ภายหลังจากเพื่อนบ้านขายข้าวจนหมดเกลี้ยงพุงแล้ว ตามแนวคิด รมว.พาณิชย์คนใหม่ เผย พร้อมบอก แต่ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะทำได้เมื่อใด หลังจากข้อมูลปริมาณข้าวในตลาดของเพื่อนบ้านนั้นยังไม่ชัดเจน

นายวัฒนา รัตนวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโรงสีข้าวไทย และอดีตนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย 2 สมัย กล่าวถึงแนวคิดของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ คนใหม่ ที่มีแนวทางปรับการส่งออกข้าวไทยภายหลังจากเพื่อนบ้านขายข้าวจนหมดเกลี้ยงก่อนแล้ว พร้อมเตรียมโก่งราคาขายให้สูงขึ้นกว่าใครเพื่อน จาก 500 เหรียญต่อตัน เป็น 700 เหรียญต่อตัน ว่า มีความเป็นไปได้หากจะทำตามแนวคิดนี้ที่จะรองรับการระบายข้าวภายในประเทศที่กำลังจะล้นเข้ามาจากการเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังของชาวนาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าให้หมดไปแต่ยังไม่รู้ว่าแนวคิดนี้จะทำได้เมื่อใด

เนื่องจากเรายังไม่ทราบเลยว่าประเทศอินเดียนั้นจะระบายข้าวได้หมด นอกจากนี้ ยังมีปากีสถานที่ระบายข้าวออกมาสู่ตลาดอีก 2 ล้านตัน เวียดนามก็ขายอยู่ที่ปีละ 6 ล้านตัน เป็นข้าวจากภายในประเทศ 4 ล้านตัน รับเข้ามาจากกัมพูชาอีก 2 ล้านตัน ขณะช่วงที่ผ่านมาไทยถูกน้ำท่วมขังนาข้าวเสียหายในภาคกลางแต่เวียดนามไม่ได้ถูกน้ำท่วมขัง เพราะน้ำท่วมและไหลผ่านลงทะเลไปอย่างรวดเร็ว ความเสียหายของนาข้าวจึงน้อยกว่าเรามาก เมื่อขายข้าวในราคาแพงเวียดนามก็จะขายในราคาที่ตามเรามา แต่จะไม่ขายในราคาที่แพงเกินกว่าเราเพื่อแบ่งแย่งตลาด

หากแนวคิดนี้สามารถทำได้จริงและข้าวของอินเดียที่กำลังระบายออกมาหมดลงไปได้ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้านั้น ก็ถือว่าเราโชคดี และเป็นไปตามความคาดหวังไว้ของ รมว.พาณิชย์ เพราะเรานั้นถือว่าเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก ที่มีส่วนแบ่งในตลาดมากถึง 33 เปอร์เซ็นต์ หรือมีปริมาณข้าวส่งออกมากถึง 9-10 ล้านตันต่อปี แต่หากล่าช้าไปข้าวใหม่ของเพื่อนบ้านก็จะกลับเข้ามาในตลาดและถูกนำออกมาขายตัดหน้าเราอีก และเราก็จะเป็นฝ่ายเก็บข้าวเอาไว้อย่างเดียว ส่วนเพื่อนบ้านของเราก็จะขายอย่างเดียวเช่นกัน

“ที่ผ่านมานั้น เราก็เคยเก็บไว้อย่างเดียวจนข้าวเสื่อมคุณภาพและต้องนำออกมาเทขายทิ้งในราคาถูกๆ เพียงลูกละ 800 บาทมาแล้ว (ข้าวสารกระสอบ 100 กิโลกรัม) จากราคาที่รัฐบาลในช่วงปี 50-51 รับไว้จากชาวนาตามโครงการของรัฐบาลในชุดนั้นที่ต้นทุนสูงถึงกระสอบละเกือบ 2 พันบาทในข้าวความชื้น 5 เปอร์เซ็นต์ ผลก็คือ รัฐบาลขาดทุนย่อยยับ” นายวัฒนา ระบุ