องค์การสวนสัตว์ฯ เล็งยกระดับสวนสัตว์ไทยเป็นผู้นำอาเซียน

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - บอร์ดองค์การสวนสัตว์ฯ เยือนสวนสัตว์เชียงใหม่แถลงนโยบาย ชูยึดสัตว์เป็นหัวใจหลักในการพัฒนา พร้อมตั้งเป้ายกระดับสวนสัตว์ไทย-ศูนย์วิจัยสัตว์ป่าให้เป็นผู้นำของอาเซียน พร้อมร่วมเซ็นเอ็มโอยูกับไนท์ซาฟารี ด้าน ผอ.องค์การสวนสัตว์เผยเล็งเอาค่างห้าสีแลกกวางผา

วันนี้ (4 ก.พ. 2555) ที่ห้องประชุมอาคารสโมสรแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่ คณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดการแถลงนโยบายและทิศทางขององค์การสวนสัตว์ฯ ขึ้น โดยมีนางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์เป็นประธาน

การแถลงนโยบายและทิศทางขององค์การสวนสัตว์ฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่คณะกรรมการชุดดังกล่าวเข้ารับตำแหน่ง หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2554 ที่ผ่านมา

นางศรีรัตน์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ฯ ชุดปัจจุบันได้กำหนดวิสัยทัศน์ ที่ต้องการยกระดับให้สวนสัตว์ในประเทศไทยเป็นผู้นำในด้านมาตรฐานสวนสัตว์ของอาเซียนในอนาคต เช่นเดียวกับการเป็นผู้นำในการศึกษาและวิจัยพันธุ์สัตว์ป่า โดยมุ่งที่จะยกระดับมาตรฐานของสวนสัตว์และศูนย์วิจัยพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล รวมทั้งเสริมสร้างภาพลักษณ์และความเป็นเลิศขององค์การสวนสัตว์ รวมไปถึงสวนสัตว์ภายใต้การกำกับดูแลให้เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและในระดับนานาชาติ

สำหรับยุทธศาสตร์ที่คณะกรรมการจะนำมาใช้ ในการปฏิบัติเพื่อนำองค์การสวนสัตว์ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้นั้น ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ คือ 1. พัฒนาสวนสัตว์ด้วยองค์ความรู้และใช้วิธีการบริหารจัดการสมัยใหม่อย่างมืออาชีพเพื่อสร้างประสิทธิภาพ 2. ให้ความสำคัญกับการดูแลสวัสดิภาพสัตว์ เพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตของสัตว์ภายในให้มีความเป็นอยู่ใกล้เคียงธรรมชาติอย่างมีความสุข

3. พัฒนาสวนสัตว์ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้และสร้างสรรค์ของเยาวชน รวมทั้งเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ โดยมุ่งเน้นคุณภาพในการให้บริการแก่ประชาชน และให้ความสำคัญเป็นพิเศษแก่ผู้พิการละผู้ด้อยโอกาส 4. พัฒนาสร้างความเป็นเลิศในการดำเนินการและด้านนวัตกรรมของศูนย์วิจัย เพื่อการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า

5. สร้างพันธมิตรและความร่วมมือทั้งในประเทศและในระดับอาเซียน รวมไปถึงกับประเทศอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและยกระดับคุณภาพสวนสัตว์ไทยสู่ระดับสากล และ 6. สร้างความสมดุลในการให้บริการอย่างมีคุณภาพ และการขยายฐานรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

นางศรีรัตน์ระบุว่า คณะกรรมการชดนี้ตั้งเป้าที่จะพัฒนาให้องค์การสวนสัตว์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ โดยจะถือเอาสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ในสวนสัตว์เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาทุกๆ ด้าน การเดินทางมายังสวนสัตว์เชียงใหม่ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเดินทางมาเยี่ยมชมและแถลงนโยบายต่อสาธารณชนแล้ว ยังเตรียมที่จะรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสวนสัตว์ เพื่อรวบรวมนำไปใช้ในการพัฒนาสวนสัตว์ของไทยให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น

ในการแถลงข่าวดังกล่าว ยังมีการทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างองค์การสวนสัตว์ฯ และเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยมีนางศรีรัตน์และคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ฯ ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามระหว่างนายภิมุข สิมะโรจน์ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ฯ และ ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผู้จัดการพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

นายภิมุข สิมะโรจน์ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาองค์การสวนสัตว์ฯ และเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีความร่วมมือกันในด้านต่างๆ มาโดยตลอด การลงนามในครั้งนี้จึงเป็นการเพิ่มความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้น ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนสัตว์ระหว่างกัน รวมถึงความร่วมมือในด้านการฝึกอบรมและพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรของแต่ละฝ่าย

นายภิมุขกล่าวต่อไปว่า สำหรับความร่วมมือที่ได้มีการหารือกันไว้ในเบื้องต้น ได้แก่การแลกเปลี่ยนสัตว์ระหว่างกัน โดยองค์การสวนสัตว์ฯ มีความต้องการกวางผาซึ่งเป็นสัตว์ที่องค์การสวนสัตว์ยังไม่มีในสวนสัตว์ในสังกัด ขณะที่ไนท์ซาฟารีได้แสดงความสนใจในค่างห้าสีซึ่งองค์การสวนสัตว์สามารถขยายพันธุ์ได้เป็นจำนวนมากที่สวนสัตว์ดุสิตในปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกันถึงการแลกเปลี่ยนเสือขาวระหว่างกันเพื่อให้เกิดการผสมข้ามสายพันธุ์อีกด้วย ซึ่งการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวนี้แต่ละฝ่ายจะนำเรื่องไปพิจารณาและตรวจสอบกฎระเบียบข้อบังคับของแต่ละฝ่าย ก่อนที่จะดำเนินการอย่างเป็นทางการต่อไป