รายงาน
หลังจากที่ในปี 2549 การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 พ.ย.49 - 31 ม.ค.50 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ในนามรัฐบาลไทย โดยกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชย์ครบ 60 ปี และทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม2549 ประสบความสำเร็จไปด้วยดี จากจำนวนผู้เข้าชม 3.8 ล้านคน และก่อให้เกิดรายได้สะพัดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่จากการท่องเที่ยวกว่า 2 หมื่นล้านบาท
ในปี 2554 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ขึ้นอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 14 ธ.ค.54 -14 มี.ค.55 เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องใน 3 มหาวโรกาส ประกอบด้วย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธ.ค. 54 เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในมหามงคลสมัยที่จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 ส.ค. 55 และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา 28 ก.ค. 55
การจัดงานครั้งนี้ที่ได้รับการรับรองจากสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ ยังคงใช้พื้นที่เดิมที่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” เพียงแต่ลดขนาดการจัดงานลงจากครั้งก่อนที่เป็นระดับ A1 เป็นระดับ A2/B1
อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นปัจจัยที่ลดความน่าสนใจของการจัดงานลงแต่อย่างใด จากการที่ประเทศ และองค์กรต่างๆ ยังคงพร้อมใจกันร่วมจัดแสดงสวนภายในงานนี้ 30 กว่าประเทศ และ30 กว่าองค์กร รวมทั้งมีไฮไลต์ใหม่ของการจัดงาน เช่น “กระเช้าราชพฤกษ์ลอยฟ้า” ชมวิวมุมสูง หรือ “สวนแสงแห่งจินตนาการ” ที่ประดับด้วยดวงไฟนับล้านจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น นอกเหนือไปจาก “หอคำหลวง” ที่เป็นจุดขายเดิม
แม้ในเบื้องต้นการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้จะต้องเลื่อนการจัดงานออกไป ด้วยเหตุผลจากการประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ของประเทศไทยในหลายภูมิภาค ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทางและบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็มีข้อมูลเกี่ยวกับความไม่พร้อมของการจัดงาน ทั้งความล่าช้าในการติดต่อประสานงานให้ประเทศต่างๆ เข้าร่วมงาน รวมไปถึงระยะเวลาในการจัดสวน ไม่ว่าจะเป็นสวนนานาชาติหรือสวนองค์กรที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม เมื่องานพร้อมและเริ่มเปิดให้เข้าชมอย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. - 13 ธ.ค.54 ความสวยงามของตัวงานและจุดเด่นที่น่าสนใจหลายๆ อย่างก็ได้รับการกล่าวขวัญถึง และถูกคาดหมายว่าจะช่วยทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงไฮซีซันของปี 2554 กลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักบริหารจัดการงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ระบุว่า ในช่วง 10 วันแรกของการเปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนที่สนใจเข้าชมงานอย่างเป็นทางการหรือระหว่างวันที่ 14 -23 ธ.ค.54 มีผู้เข้าชมงานที่นับเฉพาะผู้ที่ซื้อบัตรผ่านประตูรวมแล้วทั้งสิ้น 265,604 คน หรือเฉลี่ยวันละกว่า 2.6 คน ซึ่งจำนวนดังกล่าวนี้ไม่นับรวมผู้ที่เข้าชมในช่วงระหว่างวันที่ 9 พ.ย.- 13 ธ.ค.54 ที่เปิดให้เข้าชมอย่างไม่เป็นทางการ เพราะมีการเลื่อนการจัดงานออกไปด้วยเหตุผลหลายอย่าง
ขณะที่เงินรายได้ที่สามารถจัดเก็บได้จากค่าบัตรผ่านประตูในช่วง 10 วันแรกของการเปิดให้เข้าชมงานอย่างเป็นทางการนั้น มีจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 57 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขดังกล่าวทั้งในส่วนของจำนวนผู้เข้าชมและรายได้จากค่าผ่านประตู ถือว่าตัวเลขเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมากในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับขนาดการจัดงานที่เล็กลง รวมทั้งปัญหาน้ำท่วมใหญ่โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางที่หลายฝ่ายต่างเป็นห่วงกันว่า จะกระทบกับจำนวนผู้เข้าชมงาน ซึ่งหากแนวโน้มยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาที่จำนวนผู้เข้าชมจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2 ล้านคนตลอดช่วงการจัดงาน 99 วัน
ด้านนายณรงค์ คองประเสริฐ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ในครั้งนี้ น่าจะมีส่วนอย่างมากต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายด้านในช่วงที่ผ่านมา โดยผลดีที่เห็นได้ในเวลานี้คืออัตราการจองห้องพักที่เพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับประมาณ 80% รวมทั้งเที่ยวบินที่เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ก็ต่างถูกจองเต็มเกือบหมด ซึ่งคาดว่าตลอดช่วงการจัดงานในครั้งนี้น่าจะทำให้เกิดเงินสะพัดจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในระหว่างที่พำนักอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ตลอดช่วงการจัดงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะไม่มากถึงกว่า 2 หมื่นล้านบาทเหมือนการจัดงานครั้งก่อน แต่ก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาทแน่นอน
ส่วนนายภูณัช ธนาเหล่าพานิช นายกสมาคมโรงแรมไทย(ภาคเหนือตอนบน) ระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงวันที่ 14 ธ.ค.54 ที่เริ่มมีการเปิดให้เข้าชมงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ 2554 อย่างเป็นทางการ บรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่คึกคักขึ้นมาก อัตราการจองห้องพักโรงแรมอยู่ที่ 80-90% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้จากการสำรวจยังพบด้วยว่า นักท่องเที่ยวจำนวนมากตั้งใจที่จะเดินทางมาชมการจัดงานในครั้งนี้ นอกเหนือไปจากการท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเพื่อสัมผัสอากาศหนาวเย็น ทำให้เชื่อว่าการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่จะคึกคักไปตลอดช่วงการจัดงานครั้งนี้และต่อเนื่องไปจนถึงช่วงสงกรานต์ปี 2555
นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจรถเช่า ที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวก็ได้รับผลดีจากการจัดงานในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน โดยนายชัยณรงค์ ยกทองมา ประธานชมรมธุรกิจรถเช่าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การเช่ารถของนักท่องเที่ยวทั้งแบบนักท่องเที่ยวขับเองและแบบมีคนขับรถเพิ่มขึ้นประมาณ 50% นับตั้งแต่ที่การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 เริ่มเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.54 ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีผลเกี่ยวเนื่องกัน
อย่างไรก็ตาม สำหรับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ติดกับพื้นที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 เบื้องต้นปรากฏว่ายังไม่ได้รับอานิสงส์จากการจัดงานในครั้งนี้อย่างที่คาดหวังไว้ โดย ดร.ชุมพล มุสิกานนท์ รองผู้จัดการพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้มีการเตรียมการต่างๆ ทั้งสิ่งดึงดูดใจและสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้พร้อมที่จะรองรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเข้าชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% ในช่วงการจัดงานครั้งนี้ แต่จนถึงเวลานี้ยังไม่เป็นไปตามที่คาด ซึ่งยังไม่แน่ใจเช่นกันว่าเป็นเพราะเหตุใด
