xs
xsm
sm
md
lg

แม่บ้านพิจิตรยิ้มรับอานิสงส์เที่ยวเหนือคึกคัก สินค้าชุมชนขายดี-ทำเงินทั่วหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิจิตร - กลุ่มแม่บ้านพิจิตรเข้มแข็งรวมตัวสู้วิกฤติหลังน้ำลด ใช้เวลาว่างจากการทำนาแปรรูปกล้วย ผลิตผลพื้นบ้านขายนักท่องเที่ยว ปีนี้ยิ้มร่าเริงทั่วหน้า เหตุลมหนาวส่งผลนักท่องเที่ยวทัวร์เหนือคึกคักแวะอุดหนุนในเส้นทางผ่าน ยืนยันมีรายได้ 200-300 บาททุกวัน

นางมุกดา บุญเกิด อายุ 50 ปี ประธานกลุ่มอาชีพแม่บ้านไร่พัฒนา ซึ่งตั้งอยู่ที่ 60/1 หมู่ 6 ต.ไผ่รอบ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร เปิดเผยว่า มีสมาชิกในกลุ่ม 22 คน รวมตัวก่อตั้งกันมา 2 ปีแล้ว ด้วยการลงหุ้นคนละ 200 บาท ได้เงิน 44,000 บาท เพื่อแปรรูปกล้วย ซึ่งเป็นผลิตผลพื้นบ้าน

แม้เมื่อช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมาจะเกิดความเสียหายไปบ้างก็เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น จึงทำให้มีวัตถุดิบอีกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเดิมกลุ่มแม่บ้านเหล่านี้เมื่อเสร็จจากการทำนาก็จะว่างงาน จึงรวมตัวกันใช้เวลาว่างในช่วงรอข้าวเก็บเกี่ยวให้เกิดรายได้ด้วยการทำกล้วยกวนและทำท็อฟฟี่ใส้ถั่ว

ปรากฏว่าในช่วงนี้สินค้าขายดีมาก เพราะปีนี้อากาศหนาวเย็นส่งผลให้นักท่องเที่ยวแห่เดินทางขึ้นไปเที่ยวภาคเหนือและต้องผ่านจังหวัดพิจิตร จึงมีการซื้อกล้วยกวน ท๊อฟฟี่ใส้ถั่วที่มีรสชาดหวานมัน อร่อย เหนียวนุ่ม ติดไม้ติดมือไปเป็นของฝาก อีกทั้งเมื่อช่วงระหว่างวันที่ 11-15 มกราคม 2555 กระทรวงพาณิชย์ก็ได้มาจัดงานธงฟ้าสินค้าราคาประหยัด ซึ่งกลุ่มแม่บ้าน “บ้านไร่พัฒนา” ก็ได้นำสินค้าไปออกร้านจำหน่ายและประชาสัมพันธ์สินค้า จนเป็นที่รู้จักและมีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น ขณะนี้จึงต้องเร่งผลิตสินค้า ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับสมาชิกอย่างน้อยมีรายได้คนละ 200-300 บาทต่อวัน และที่สำคัญทำให้เกิดการสร้างงานในหมู่บ้านเกิดความอบอุ่นแก่ครอบครัวโดยไม่ต้องอพยพไปขายแรงงานในเมืองหลวง

ด้านนางอุทิศ แก่นแก้ว อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ 6 ต.ไผ่รอบ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกที่เป็นผู้ออกแรงกวนกล้วยกวน เล่าว่า ปกติมีอาชีพรับจ้างทำนาก็จะมีเวลาว่างมาช่วยงานในกลุ่ม ซึ่งก็จะได้ค่าแรงในการกวนกล้วยกวน กระทะๆละ 100 บาท ซึ่ง 1 กระทะใช้เวลากวนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ตนเองสู้ไหวแค่วันละ 2 กระทะ ก็พอมีรายได้เป็นค่ากับข้าวในครอบครัวได้อย่างสบาย แต่ก็มีสมาชิกคนอื่นๆมาสลับสับเปลี่ยนทำหน้าที่นี้ด้วย

เช่นเดียวกับนางมณี สุขชู คุณยายวัย 80 ปี ซึ่งก็เป็น 1 ในสมาชิกของกลุ่มแม่บ้าน “บ้านไร่พัฒนา” ที่เล่าว่า เป็นสมาชิกในกลุ่มทำหน้าที่หั่นกล้วยกวนและห่อกล้วยกวน รวมถึงท๊อฟฟี่ ซึ่งก็ได้ค่าแรง คือ ได้ค่าหั่น กก.ละ 6 บาท ค่าห่อ กก.ละ 10 บาท วันหนึ่งๆห่อได้ 30 กก. แบ่งกับคนอื่นๆ ก็ได้เงิน 100-150 บาท ทุกวัน ซึ่งทำให้มีเงินไปทำบุญโดยไม่ต้องเป็นภาระแก่ลูกหลาน แถมได้ร่วมกลุ่ม ได้พูด ได้คุย ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ก็ทำให้คลายเหงาแถมยังได้เงินอีกด้วย

ในส่วนของสมาชิกในกลุ่มที่เป็นผู้ชาย คือ นายบุญรอด บุญเกิด อายุ 52 ปี ซึ่งมีหน้าที่ปลอกมะพร้าวและทำงานที่ต้องใช้แรงงานหนักก็เปิดเผยว่า ตอนนี้ มะพร้าวแพงมากคือราคาลูกละ 25-30 บาท จึงทำให้ต้นทุนการผลิตมีราคาที่สูงขึ้น แต่ทางกลุ่มก็ยังอยู่ได้ ถึงมีกำไรน้อยหน่อย แต่ขายดี จึงทำให้คุ้มค่ากับที่ทุ่มเท

นอกจากนี้ “น้องอ้น” หรือ เด็กหญิงทัศนีย์ ลอเจริญ อายุ 6 ขวบเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนวัดสระปทุม ซึ่งตามคุณแม่มาทำงานในกลุ่มหลังเลิกเรียนและวันหยุด ก็ยังมีรายได้วันละ 30-40 บาท ด้วยการรับจ้างห่อกล้วยกวนและท๊อฟฟี่ ซึ่งเป็นงานเบาๆที่เด็กสามารถทำได้

สำหรับกลุ่มแม่บ้าน “บ้านไร่พัฒนา” ขณะนี้เจริญเติบโตมากขึ้น มีทุนหมุนเวียนเพิ่มจากการกู้เงินจาก SME อีก 1.5 แสนบาท สามารถพัฒนาเพิ่มศักยภาพการผลิต จนได้ถึงวันละ 60 กก.ขายส่ง กก.ละ 90 บาท ส่วนท๊อฟฟี่ผลิตวันละ 30 กก. กล้วยกรอบอบเนย ก็ผลิตวันละ 20 กก. แล้วก็มีร้านจำหน่ายสินค้า OTOP ที่เป็นแม่ค้าคนกลาง มาซื้อไปแล้วนำไปบรรจุถุงแบ่งขายถุงละ 25-30 บาท ซึ่งทำให้เกิดวงจรธุรกิจจนเป็นระบบอยู่ในทุกวันนี้

ดังนั้น ทุกครั้งที่นักท่องเที่ยวผ่านจังหวัดพิจิตรจึงขอเชิญชวนให้ช่วยซื้อผลิตภัณฑ์ OTOP กล้วยกวน กล้วยกรอบอบเนย ท๊อฟฟี่ใส้ถั่ว ไปเป็นของฝากของที่ระลึกได้ หรือผู้ที่สนใจแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ดูงาน หรือซื้อสินค้าสามารถติดตจ่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 088-1639765 , 083-6259252



กำลังโหลดความคิดเห็น