“หลวงพ่อคูณ”กลับวัดบ้านไร่แล้ว แพทย์สั่งงดเคาะหัว-รับกิจนิมนต์สิ้นเชิง

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “หลวงพ่อคูณ” ออกจากรพ.มหาราชนครราชสีมา กลับวัดบ้านไร่แล้ว หลังหายอาพาธ “สุวัจน์”นักการเมือง-ผู้ว่าฯญาติโยมรอส่งแน่น แพทย์ระบุ หลวงพ่อคูณสดชื่นกว่าทุกวัน อาการโดยรวมดีขึ้นมาก วอนปชช.เข้ากราบไหว้ห่าง 2 ม. ป้องกันการติดเชื้อ งดเคาะหัว-รับกิจนิมนต์สิ้นเชิง พร้อมขอทุกคนช่วยกันถนอมหลวงพ่อให้อยู่นานที่สุด ด้านลูกศิษย์วัดบ้านไร่สุดดีใจตั้งแถวรอรับคึกคักหลังวัดบ้านไร่เงียบเหงาไร้หลวงพ่อมานานร่วม 9 เดือน

เมื่อเวลา 11.19 น.วานนี้( 30 ม.ค.) คณะแพทย์และศิษยานุศิษย์ ผู้ใกล้ชิดได้นำ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา นั่งรถเข็ญลงมาจากห้องพักผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา มายังชั้น 1 เพื่อขึ้นรถตู้โฟล์คสวาเก้น หมายเลขทะเบียน นข 1 นครราชสีมา เพื่อเดินทางกลับวัดบ้านไร่ หลังเข้ารับการรักษาอาการอาพาธวัณโรคปอดนานร่วม 9 เดือน

ทั้งนี้ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อม นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม , ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี อดีต รมว.กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ไอซีที) พร้อม ส.ส. นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) และ นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงคณะแพทย์พยาบาลที่ให้การรักษาประชาชนญาติผู้ป่วย และ ผู้ป่วย รวมกว่า 500 คน มารอส่งหลวงพ่อคูณ กลับวัดบ้านไร่ด้วย

ตลอดเส้นทางที่รถเข็นหลวงพ่อคูณผ่าน มีประชาชน ญาติโยม รอกราบนมัสการตลอดเส้นทาง ซึ่งทุกคนต่างดีใจที่เห็นหลวงพ่อคูณ หายจากอาการอาพาธ และกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม บางรายนำโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพความประทับใจไว้ และร่วมบริจาคเงินทำบุญกับหลวงพ่อคูณด้วย ส่งผลให้บรรยากาศหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาคึกคักขึ้นมาถนัดตา และเนืองแน่นไปด้วยประชาชนญาติโยม ที่ต้องการชมบารมีและกราบมนัสการหลวงพ่อคูณ

นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า จากการตรวจอาการล่าสุดของหลวงพ่อคูณ โดยรวมดีขึ้นและหลวงพ่อแข็งแรงมากขึ้น ซึ่งหลังจากที่ท่านทราบว่าจะได้กลับวัดบ้านไร่ ทำให้สภาพจิตใจท่านดีขึ้นมาก ส่งผลให้ร่างกายดีตามไปด้วย มีการตอบโต้ได้ดี โดยเฉพาะวันนี้ซึ่งเป็นวันกลับวัดบ้านไร่ดูท่านสดชื่นกว่าทุกวันอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากฝากหลังท่านกลับไปพักที่วัดบ้านไร่แล้ว คือ ต้องขอความร่วมมือญาติโยมที่จะเข้ากราบนมัสการหลวงพ่อคูณ ขอให้อยู่ห่างจากท่านอย่างน้อย 2 เมตร และท่านจะงดเคาะศีรษะโดยสิ้นเชิงแต่เปลี่ยนมาเป็นการจับสายสิญจน์แทน แต่เนื่องจากหลวงพ่อคูณท่านมีความเมตตามาก ก็ยังคงจะออกมาพบปะกับญาติโยมที่เดินทางมากราบนมัสการท่านเหมือนเดิม โดย 1 วันจะกำหนดไว้ 2 ครั้ง แต่ละครั้งจะนานเท่าใดนั้นคงต้องดูที่หลวงพ่อคูณอีกครั้ง

ส่วนการรับกิจนิมนต์คงไม่ต้องพูดถึง เพราะการที่ท่านจะเดินทางไปไหนมาไหนค่อนข้างลำบากมาก ฉะนั้นการรับกิจนิมนต์ในพื้นที่ต่างๆ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะหลวงพ่อบอบบางและอายุมากแล้วสามารถติดเชื้อได้ตลอดเวลา สำหรับบุคคลวีไอพีหรือบุคคลสำคัญต่างๆ ต้องขอความร่วมมือในการปฏิบัติเช่นเดียวกัน ส่วนจะปฏิบัติตามหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละคน

นพ.พินิศจัย กล่าวอีกว่า การดูแลหลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ จะทำเหมือนที่อยู่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาทุกอย่าง ในห้องพักของหลวงพ่อคูณจะมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ครบทุกอย่าง โดยมีพยาบาลคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนคณะแพทย์จากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาจะลงไปตรวจอาการสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่หากมีปัญหาอะไรจะมีทีมแพทย์ฉุกเฉินอยู่แล้ว

“ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายทั้งคณะแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราชพยาบาล รวมถึงทุกส่วนที่เกี่ยวข้องที่ช่วยกันทำงานแบบ บูรณาการ ไม่คำนึงถึงสี ทุกคนสามัคคีกันทำงานเพื่อดูแลหลวงพ่อคูณให้ดีที่สุด จนมาถึงวันนี้ได้ จากนี้ไปเราทุกคนคงต้องช่วยกันถนอมท่านให้อยู่กับเราให้นานมากที่สุดเท่าที่จะทำได้” นพ.พินิศจัย กล่าว

ด้านหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ กล่าวฝากถึงศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศก่อนกลับวัดบ้านไร่ สั้นๆ ว่า “ เออ กูดีแล้ว กูกลับแล้ว ลูกหลานเอ้ย”

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นข่าวดีที่สุดสำหรับชาวโคราชและชาวไทยที่หลวงพ่อคูณได้กลับวัดบ้านไร่ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทุกคนช่วยกันภาวนาให้หลวงพ่อคูณหายจากอาการอาพาธโดยเร็ว ซึ่งตัวท่านเองก็บ่นที่อยากกลับวัดบ้านไร่นานแล้ว พวกเรา ศิษยานุศิษย์และประชาชนชาวไทยรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก จากนี้ไปทุกคนก็ต้องช่วยกันปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ให้เคร่งครัดที่สุดเพื่อไม่ให้ท่านติดเชื้อเพิ่มเติม และจากการพูดคุยกับหลวงพ่อคูณในวันนี้ ท่านดีขึ้นจากเดิมมาก ตอบโต้ได้ดีมาก

สำหรับการก่อสร้าง “วิหารเทพวิทยาคม” ที่วัดบ้านไร่ ว่า ในฐานะที่ตนเป็นประธานที่ปรึกษาโครงการก่อสร้าง รับช่วงต่อจาก ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ที่เสียชีวิตไปแล้ว ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 60% ใช้เงินก่อสร้างไปร่วม 200 ล้านบาท คณะกรรมการวัดบ้านไร่ ได้หารือร่วมกันว่า มีกำหนดเปิดวิหารเทพวิทยาคมอย่างเป็นทางการในวันครบรอบวันเกิด และย่างเข้าปีที่ 90 ของพระเทพวิทยาคม 4 ต.ค. 2555 โดยวิหารฯ หลังนี้ จะเป็นสถาปัตยกรรมเซรามิก ร่วมสมัยประกับงานศิลปะทุกแขนง ที่แสดงถึงเรื่องราวทางพระพุทธศาสนาแห่งแรกและแห่งเดียวในภาคอีสาน โดยจะมีการจารึกบุญบารมีของพระเทพวิทยาคม ไว้ภายในด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่วัดบ้านไร่ บรรดาศิษยานุศิษย์ชาว อ.ด่านขุนทด จำนวนกว่า 1,000 คน ต่างตั้งแถวรอรับการกลับวัดบ้านไร่ ของหลวงพ่อคูณ ส่งผลให้บรรยากาศภายในวัดบ้านไร่คึกคักขึ้นมาทันที หลังจากตลอดระยะเวลา 9 เดือน วัดบ้านไร่เงียบเหงา ซึ่งทุกคนต่างดีใจที่เห็นหลวงพ่อคูณหายจากอาการอาพาธกลับมาจำวัดที่วัดบ้านไร่ตามปกติอีกครั้ง