พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครศรีอยุธยานำ 3 ผู้ต้องหาที่สวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.อุ้มพ่อค้าขายของซำและปล่อยเงินกู้ไปเรียกค่าไถ่ มาแถลงข่าวโชว์ตัวต่อสื่อหลังจับกุมตัวได้ พร้อมบอกให้ผู้เสียหายที่เคยโดนในลักษณะเดียวกันไปชี้ตัวได้ เผยในแก๊งมีทหารร่วมขบวนการด้วย โดยทำงานสัสดี อยู่ที่เขตบางเขน สารภาพทำมาแล้ว 3 ครั้ง
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (3 ก.พ.55) ที่ห้องวิเคราะห์ ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเนิด รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธุ์ รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.ศารทูล ประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางปะอิน พ.ต.ท.อำนวยพันธ์ นิลน้อย สว.สส.สภ.บางปะอิน ร่วมกันนำตัวผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย คือ นายคะนึง หรือฉายาผู้กอง (อ๊อฟ) มีหอม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 212/133 หมู่ 6 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายนิเวศน์ หรือ (เต้) สุระวิทย์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 1 ซ.ศิลาทอง ต.ช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ และ จ.ส.ต.ไชยยา หรือ (เต้ย) มูลสุวรรณ อายุ 32 ปี เป็นทหารทำงานสัสดี เขตบางเขน อยู่บ้านเลขที่ 85/19 หมู่บ้านเอื้ออาทร ต.บางเซาะ อ.เมือง จ.ปทุมธานี
ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยมีหรือใช้อาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะหนีเพื่อกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุมพร้อมของกลางอาวุธปืนจำนวน 4 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง กุญแจมือ 1 ชุด มาแถลงข่าว โดยมีนายนพดล อ่อนบุตร นายพรเทพ บุปผาวรรณ ผู้เสียหายที่ถูกอุ้มมาชี้ตัวและยืนยันว่า เป็นคนร้ายวันที่เกิดเหตุ วันที่ 31 มกราคม 2555 ที่บ้านเลขที่ 633/27หมู่ 2 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยาฝากผ่านสื่อแจ้งมายังผู้เสียหายรายใดสงสัยว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ก่อเหตุไว้ให้มาดูตัวได้ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ในวันเวลาราชการ ส่วนพฤติกรรมของผู้ต้องหาจากการรับสารภาพ ทำให้ทราบว่าแก๊งกลุ่มนี้ได้มีการซัดทอดกันระหว่างการสอบสวน ได้โยนให้นายคนึง มีหอม หรือ ฉายาผู้กอง อ๊อป เป็นหัวหน้าแก๊ง
ส่วนผู้กองอ๊อฟ รับสารภาพว่า ทุกคนร่วมกันคิดร่วมกันทำ เคยก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ยังไม่ยอมบอกว่าเป็นพื้นที่ใด พฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มีความคุ้นเคยกับตำรวจบางคนเคยเป็นสายให้กับตำรวจมาก่อน จึงรู้และทราบลักษณะการทำงานของตำรวจ จึงได้เลียนแบบสร้างบุคลิกและแต่งตัวคล้ายกับตำรวจนอกเครื่องแบบ และยังแขวนบัตรเป็นซองของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้ผู้ตกเป็นเหยื่อและชาวบ้านคิดว่าเป็นตำรวจจริง ซึ่งรายนี้ก่อเหตุโดยอ้างว่าเป็นตำรวจ ปปส.ส่วนกลาง โดยเลือกเหยื่อที่ธุรกิจปล่อยเงินกู้
การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบมาจากพฤติกรรมของคนร้ายรายหนึ่งมีความคุ้นเคยกับเหยื่อมาก่อน จึงทราบความเคลื่อนไหวของเหยื่อเป็นอย่างดี จึงเข้าก่อเหตุ เป็นชนวนทำให้ตำรวจเริ่มแกะรอย และคนร้ายยังได้เข้าไปกดเงินตู้เอทีเอ็ม หลายครั้ง ดูภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้แน่ชัดว่าเป็นคนร้าย จึงขอศาลออกหมายจับ หลังไปกบดานอยุ่ที่คอนโดมีเนียม จ.นนทบุรี ได้พร้อมของกลาง ซึ่งผู้เสียหายทั้งสองคนได้ชี้ตัวว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุอุ้มไปรีดทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาหนัก ร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยมีหรือใช้อาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนีเพื่อกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม นำตัวไปดำเนินคดีต่อไป