ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “สุวัจน์” ระบุหน้าตา ครม.ใหม่รัฐบาล “ปู 2” ภาพรวมได้รับการยอมรับมากขึ้นและมีมืออาชีพเข้ามามากขึ้น ส่วนกรณี “นลินี” ขอให้ผลงานเป็นตัวตัดสินเอาชนะเสียงต้าน ชี้ให้เร่งทำแผนรับมือป้องกันน้ำท่วมซ้ำ แนะทุกฝ่ายใช้สติคิดแก้ ม.112
วันนี้ (30 ม.ค.) ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคชาติพัฒนา (ชพ.) กล่าว ถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ 2 ว่า โดยภาพรวมเมื่อรัฐบาลทำงานมาได้ช่วงระยะเวลาหนึ่งและมีความเหมาะสมที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการเป็นรัฐบาล ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่เหมาะที่ปรับ ครม. และภาพรวมของการปรับก็มีภาพรวมที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น มีมืออาชีพเข้ามามากขึ้น ฉะนั้นดูแล้วเป็นการปรับ ครม.ที่น่าจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากพี่น้องประชาชนรวมทั้งนักลงทุนต่างประเทศได้ดี ตนอยากได้ทีมอย่างนี้จะทำให้การทำงานกระฉับกระเฉงขึ้น
ต่อข้อถามถึงมีการมองรัฐมนตรีหลายคนว่าเป็นการปรับต่างตอบแทนมองอย่างไร นายสุวัจน์ ตอบว่า เรื่องอย่างนี้ทุกครั้งที่มีการปรับ ครม.ก็อย่างนี้ที่มีทั้งเห็นด้วยบ้างไม่เห็นด้วยบ้าง แต่ค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมตนเห็นว่าทำให้องค์ประกอบของคณะรัฐมนตรีดูดีขึ้น มีความเชื่อมั่นมากขึ้น
ส่วนกระแสต่อต้าน นางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลเสียหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า คิดว่าจากนี้ไปน่าที่จะให้โอกาสรัฐมนตรีใหม่ได้ทำงาน คิดว่าอะไรไม่เท่ากับผลงาน การที่จะวิพากษ์วิจารณ์กันอะไรคนถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องอดกลั้นที่จะต้องเร่งรัดในการทำงานเพื่อพิสูจน์ตัวเอง เพื่อเอาชนะเสียงวิพากษ์วิจารณ์ จากนี้ไปคงเป็นเรื่องของการวัดผลงานกันแล้ว และคิดว่าหลังจากที่เราพ้นเรื่องน้ำท่วมแล้ว เราต้องมีดรีมทีม และทีมงานโดยเฉพาะการทำงานต่างๆ ของรัฐบาลในเรื่องการสร้างความมั่นใจ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ และต้องรีบเตรียมตัวในเรื่องน้ำ หากจะท่วมอีกต้องมีแผนปฏิบัติการแต่เนิ่นๆ ฉะนั้นองค์ประกอบของคณะรัฐบาลชุดใหม่ก็คือ จะทำให้การทำงานในการต่อสู้กับปัญหาต่างๆ ได้ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนการจัดการน้ำที่ทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) เริ่มมีปัญหานั้น ตนคิดว่าโดยองค์ประกอบของคณะกรรมใหญ่อย่างนี้จะมีความคิดเห็นที่หลากหลาย แต่วันนี้ทุกคนต้องมีความร่วมมือกัน เพราะประเทศชาติประชาชนเดือดร้อนมากเวลาที่น้ำท่วมในปีที่ผ่านมา เราเห็นแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ฉะนั้น ใครที่มีความรู้ความสามารถต้องเข้ามาช่วยกันคิด ช่วยกันระดมสมอง ซึ่งอาจจะมีความเห็นที่แตกต่างกันไป แต่ว่ามันเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะต้องทำงานร่วมกันต่อไป เพื่อให้การแก้ไขปัญหาต่างๆลุล่วง อย่าให้น้ำท่วมอีก ไม่อย่างนั้นไม่ไหว ประชาชนเองจะเหนื่อยกว่าเดิม และถ้าน้ำท่วมอีกมันเป็นเรื่องความเชื่อและเรื่องเศรษฐกิจจะยุ่งมากขึ้น ฉะนั้นคณะกรรมการต้องเป็นทีมงาน ต้องมีกำลังใจให้กันและกัน ต่อสู้ อย่าท้อถอย เพื่อประเทศชาติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องผลักดันแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะเป็นการจุดชนวนความขัดแย้งบานปลายอย่างไร นายสุวัจน์ ตอบว่า ตอนนี้ทุกคนแสดงความกังวลออกกันมากพอสมควร ฉะนั้นอยากให้ทุกฝ่ายได้ใช้สติในการที่จะช่วยกันดูแลเรื่องนี้อย่าให้เป็นประเด็นที่นำไปสู่ความขัดแย้งมากขึ้น