xs
xsm
sm
md
lg

วัดป่าบ้านตาดคึกคัก ศิษยานุศิษย์ “หลวงตาบัว” ขนข้าวรวมบุญประทาย ไทยเบฟฯ บริจาคน้ำ 259,200 ขวด ทำน้ำมนต์แจก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อุดรธานี - ชาวบ้าน และศิษยานุศิษย์ “หลวงตามหาบัว” ขนข้าวเปลือกรวมบุญประทายข้าว ที่วัดป่าบ้านตาด อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เช้า เชื่อเป็นงานบุญที่ได้กุศลยิ่งใหญ่เป็นสิริมงคลกับชีวิต ด้านบริษัท ไทยเบฟฯ บริจาคน้ำ 259,200 ขวด เพื่อทำน้ำมนต์แจกญาติโยม ขณะที่เช้าพรุ่งนี้ มีพิธีทำบุญตักบาตรครบ 1 ปีแห่งการละสังขารของหลวงตามหาบัว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดอุดรธานี ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (29 ม.ค.) ที่วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี มีพระสงฆ์ คณะศิษยานุศิษย์ ประชาชนจากทั่วประเทศได้เดินทางมาที่วัด เพื่อร่วมงานบุญประทายข้าวเปลือกประจำปี 2555 และงานครบรอบ 1ปี วันละสังขาร พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

โดยบรรยากาศวันนี้ที่วัด ซึ่งเป็นวันรวบรวมข้าวเปลือก ที่ลานรวมข้าวเปลือกข้างศาลาการเปรียญหลังใหญ่หน้าวัด ได้มีชาวบ้านทยอยนำเอาข้าวเปลือกบรรจุใส่กระสอบป่าน กระสอบปุ๋ย บรรทุกใส่รถกระบะ รถบรรทุก รถจักรยานยนต์ มารวมกองกันเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารอากาศจากกองพันอากาศโยธิน กองบินที่ 23 และทหารบกจากกรมทหารราบที่ 13 พัน 3 มาคอยอำนวยความสะดวกนำข้าวเปลือกไปกองรวมกันเอาไว้ เพื่อรอการทำพิธีในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.)

นายประสงค์ สร้อยพาน ชาวบ้านบ้านตาด อายุ 68 ปี เปิดเผยว่า งานบุญประทายข้าวเปลือก ที่วัดป่าบ้านตาด โดย หลวงตามหาบัว นั้น มีการทำบุญมาหลายสิบปีแล้ว ตนก็จำไม่ได้ว่าเริ่มตั้งแต่ปีใด เดิมทีแรกๆ ชาวบ้านใกล้วัดนำมาถวาย โดยถือว่าเป็นบุญรวมข้าวของชาวอีสานหลังเก็บเกี่ยว ซึ่งทางวัดก็จะนำข้าวเปลือกที่ได้ไปสีเป็นข้าวสารมาเก็บไว้ และนำออกแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ยากจน

ต่อมามีญาติโยมจากในเมืองอุดรธานี และจากต่างๆ จังหวัดทราบข่าว ก็นำมาถวายจนมีปริมาณมาก ซึ่งวันนี้ตนได้นำข้าวเปลือกเหนียวมารวมทำบุญกับวัดป่าบ้านตาดจำนวน 700 กิโลกรัม ซึ่งการทำบุญประทายข้าวเปลือกนี้ ตนเองมีความเชื่อว่า หากทำบุญประทายข้าวแล้ว จะยิ่งทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น ทำมาหากินไม่ขัดสน

นอกจากนี้แล้ว ทางบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติก จำกัด ได้บริจาคน้ำจำนวน 259,200 ขวด เพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์แจกจ่ายให้กับพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมในงานบุญประทายข้าวเปลือก และที่บนศาลาการเปรียญภายในวัดมีคณะศิษยานุศิษย์จำนวนมาก ได้ขึ้นไปเข้ากราบหุ่นขี้ผึงหลวงตามหาบัว อย่างไม่ขาดสาย พร้อมเดินชมอัฐิธาตุของหลวงตามหาบัว บางคนก็นั่งสมาธิทำจิตใจให้สงบ

ขณะที่ด้านนอกได้มีการตั้งโรงครัวโรงทาน บริการอาหารและน้ำดื่มมากกว่า 200 โรงโดยมีการทำอาหารพื้นเมือง ข้าวเหนียวนึ่ง ส้มตำ และผัดหมี่ แจกจ่ายประชาชน

สำหรับวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันครบ 1 ปี หลวงตาพระมหาบัว ละสังขาร จะมีพิธีทำบุญตักบาตรเช้า จากนั้นจะมีพระเถระผู้ใหญ่แสดงธรรม ต่อด้วยทำพิธีทอดผ้าป่า มูลนิธิเสียงธรรม และพิธีบุญประทายข้าวเปลือกตามประเพณี โดยจะมีพระสายวัดป่าและศิษยานุศิษย์จากทั่วประเทศมาร่วมทำบุญ

สำหรับประวัติ พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน กำเนิดในครอบครัวชาวนาผู้มีอันจะกิน ณ บ้านตาด จ.อุดรธานี เกิดเมื่อ 12 สิงหาคม พ.ศ.2456 ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 9 ปีฉลู ณ บ้านตาด อำเภอหมากแข้ง จังหวัดอุดรธานี บิดานายทองดี โลหิตดี มารดานางแพงศรี โลหิตดี พี่น้องทั้งหมด 16 คน

สมัยเด็ก หลวงตา มีศรัทธาเคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา โดยได้ร่วมทำบุญตักบาตรกับผู้ใหญ่อยู่เสมอ วัยหนุ่ม เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ขยันขันแข็ง ทำงานอะไรทำจริงๆ จังๆ เป็นที่ไว้วางใจของพ่อแม่ในการงานทั้งปวง เดิมไม่เคยคิดจะบวช เพราะอยากมีครอบครัว แต่มักมีอุปสรรคให้แคล้วคลาดทุกทีไป

เหตุที่บวช เมื่ออายุครบ 20 ปี พ่อแม่ขอร้องให้บวชตามประเพณีอยู่หลายครั้ง ท่านก็ทำเฉย ๆ ตลอดมา ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใด ในครั้งสุดท้ายนี้ ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า หวังพึ่งใบบุญจากการบวชของลูกให้ได้ ถึงกับทำให้พ่อแม่น้ำตาร่วง ครั้งนี้ท่านรู้สึกสะเทือนใจและเห็นใจพ่อแม่มาก จึงตัดสินใจ และยอมบวชตามประเพณี เพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่ โดยตั้งใจไว้ในตอนต้นนี้ว่า จะบวชเพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น วันบวช 12 พฤษภาคม พ.ศ.2477 ณ วัดโยธานิมิตร จ.อุดรธานี

พระอุปัชฌาย์ ชื่อ ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) วัดโพธิสมภรณ ได้ฉายานามว่า "ญาณสมฺปนฺโน" แปลว่า "ถึงพร้อมแล้วด้วยการหยั่งรู้" ในพรรษาแรกท่านได้ตั้งสัจอธิษฐานว่า ในการทำวัตรเช้า-เย็นรวมและการบิณฑบาต จะไม่ให้มีวันใดขาดเลย และท่านก็ทำได้ตามที่ตั้งคำสัตย์ไว้ เรียนปริยัติ เมื่อได้เรียนหนังสือทางธรรม ตั้งแต่นวโกวาท พุทธประวัติ ประวัติพระสาวกอรหันต์ ที่ท่านมาจากสกุลต่างๆตั้งแต่พระราชา เศรษฐี พ่อค้า จนถึงประชาชน

หลังจากฟังพระพุทธโอวาทแล้วต่างก็เข้าบำเพ็ญเพียร ในป่าเขาอย่างจริงจัง ท่านตั้งสัจจะไว้ว่า จะขอเรียนบาลีให้จบแค่เปรียญ 3 ประโยคเท่านั้น ส่วนนักธรรมแม้จะไม่จบชั้นก็ไม่เป็นไร จากนั้นจะออกปฏิบัติกรรมฐานโดยถ่ายเดียว จะไม่ยอมศึกษาและสอบประโยคต่อไปเป็นอันขาด เรียนจบ ท่านสอบได้ทั้งนักธรรมเอก และเปรียญ 3 ประโยคในปีที่ท่านบวชได้ 7 พรรษา ณ วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ และสถานที่แห่งนี้เอง เป็นที่แรกที่ท่านได้มีโอกาสพบเห็นท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

หลวงตามหาบัว นอกจากกิจด้านการศาสนาที่เต็มไปด้วยปฏิปทาและคุณูปการอันยิ่งใหญ่แล้ว ด้านสังคมสงเคราะห์ที่หลวงตามหาบัว ก็ยังได้เมตตาช่วยชาติในยามวิกฤตเศรษฐกิจ ด้วยโครงการที่หลายคนคุ้นหูคือโครงการ "ผ้าป่าช่วยชาติ" ตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 อันเป็นปีที่ประเทศไทยเริ่มประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ประเทศไทยพ้นจากภาวะวิกฤตดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ในการนี้มีหน่วยงานต่างๆ จำนวนมากทั่วประเทศได้นิมนต์หลวงตามหาบัว ไปรับผ้าป่าช่วยชาติโดยหลวงตามหาบัว ตั้งเป้าจะนำ "ทองคำ" เข้าคลังหลวงให้ได้ 10 ตัน หรือ 10,000 กิโลกรัม ซึ่งที่ผ่านมา สินทรัพย์ที่ "โครงการช่วยชาติ โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" บริจาคตั้งแต่ 12 เมษายน 2541 ถึง 9 มกราคม 2553 ได้นำเข้าคลังหลวงแล้วทั้งสิ้น 15 ครั้ง รวมทองคำและดอลลาร์ที่มอบเข้าคลังหลวงไปแล้วทั้งสิ้น เป็นทองคำ 967 แท่ง น้ำหนักรวม 12,087.50 กิโลกรัม และเงินดอลลาร์ (รวมดอกเบี้ย) จำนวน 10,803,600 เหรียญสหรัฐ
ตู้กระจกเก็บอัฐิธาตุหลวงตามหาบัว
กราบไหว้หุ่นขี้ผึ้งหลวงตามหาบัวบนศาลาภายในวัด

ชาวบ้านญาติธรรมหลวงตามหาบัวขนข้าวเปลือกร่วมทำบุญประทายอย่างต่อเนื่องแต่เช้า
กำลังเจ้าหน้าที่ทหารอากาศจากกองพันอากาศโยธิน กองบินที่ 23 และทหารบกจากกรมทหารราบที่ 13 พัน 3 มาคอยอำนวยความสะดวกนำข้าวเปลือกไปกองรวมกันเอาไว้ เพื่อรอการทำพิธีในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.)


โรงงานนับร้อยโรงบริการอาหารและเครื่องดื่ม


เชื่อการทำบุญประทายข้าวเปลือกเป็นศิริมงคลกับชีวิต




บริษัทไทยเบฟฯ บริจาคน้ำ 259,200 ขวด เพื่อทำน้ำมนต์แจกญาติโยม



กำลังโหลดความคิดเห็น