กาญจนบุรี - แม่ค้าขนมหวาน เมืองกาญจนบุรี วิ่งโร่ขึ้นโรงพัก หลังถูกเดนคุกขับ จยย.ประกบกระชากสร้อยทอง ตำรวจกาญจนบุรี ไล่ติดตามรวบได้ 1 รอด 1 พบประวัติเพิ่งพ้นโทษได้เพียง 1 ปี
เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (19 ม.ค.) พ.ต.ท.สุรชัย จงวัชรสถิตย์ พงส.สบ.2 สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจาก นางกุลธนันท์ การกุล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/1235 หมู่ 13 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อาชีพแม่ค้าขายขนมหวาน ว่า ถูกชายจำนวน 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ประกบ พร้อมกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท หลบหนี
หลังรับแจ้งจึงได้รีบประสานไปยังศูนย์วิทยุ สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจกระจายกำลังออกติดตาม โดยมี พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.กิตติพงษ์ บุญรอด รองผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี ร่วมออกติดตามคนร้ายในครั้งนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า คนร้ายทั้ง 2 ราย ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีฟ้าขาว หมายเลขทะเบียน คงก 635 ราชบุรี ขับมุ่งหน้าไปทางหมู่บ้านไพศาลวิล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกระจายกำลังกันออกติดตาม จนพบกลุ่มต้องสงสัยขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากหมู่บ้านดังกล่าว และมุ่งหน้าไปทางตำบลหนองขาว เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปอย่างกระชั้นชิด เมื่อกลุ่มคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตาม จึงขับรถจักรยานยนต์เลี้ยวเข้าไปในป่าท้ายหมู่บ้านเมืองใหม่ และทิ้งรถจักรยานยนต์เพื่อวิ่งหลบหนี
เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาในการติดตามจับกุมนานกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ 1 ราย ส่วนอีก 1 รายสามารถวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าได้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุมาสอบสวนที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ทราบชื่อคือนายศุภชัย หรือชัยบ้านโป่ง แดงนา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/1 หมู่ 2 ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีไปได้ชื่อ นายธนา หรือ ปุ้ย บุตรทยัคฆ์ อายุ 30 ปี ชาวตำบล สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งได้นำของกลางเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาทหลบหนีไปด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยัง สภ.บ้านโป่ง เพื่อติดตามจับกุบตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี
นางกุลธนันท์ การกุล ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนมีอาชีพขายขนมหวานที่ตลาดสดชุกโดน โดยขณะที่ตนกำลังขับรถจักรยานยนต์เพื่อไปซื้อถุงพลาสติกบริเวณท้ายซอยไปรษณีย์ จู่ๆ ก็มีชายสองคนขับรถจักรยานยนต์มาประกบตนด้านขวา ทั้งสองสวมหมวกกันน็อก ตนไม่ได้เอะใจเข้าใจว่าจะขับแซงขึ้นไป แต่แล้วชายคนซ้อนท้ายได้ใช้มือมากระชากสร้อยที่คอของตนจนขาดและเร่งเครื่องหลบหนีไป โชคดีที่ตนตั้งสติได้และสามารถจำการแต่งตัวของคนร้าย พร้อมยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์ได้จึงรีบไปแจ้งความที่โรงพักทันที
ด้าน พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้ต้องหาทั้งสองได้เดินทางไปเยี่ยมญาติที่ตำบลลาดหญ้าขากลับขณะขับรถจักรยานยนต์มา และพบกับผู้เสียหายเป็นหญิงกำลังขับรถจักรยานยนต์มาเพียงลำพังและสวมสร้อยคอทองคำด้วย ผู้ต้องหาทั้งสองจึงหันรถกลับและขับมาประกอบจากนั้นจึงกระชากเอาสร้อยคอทองคำไป
ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้นั้นคือนายศุภชัย หรือ ชัยบ้านโป่ง แดงนา รับสารภาพว่า เป็นคนกระชากสร้อย และส่งให้เพื่อนที่เป็นคนขับเก็บไว้ จากการสอบประวัติของผู้ต้องหาทั้งสองรายทราบว่าเคยติดคุกที่เรือนจำจังหวัดราชบุรีคนละ 3 ปี ในข้อหาลักทรัพย์หรือขโมยรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่อำเภอบ้านโป่งก่อนถูกจับกุม และเพิ่งพ้นโทษมาได้ประมาณ 1 ปี
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาที่หลบหนีไปได้เจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร ซึ่งจะไปขอหมายจับจากศาลจังหวัดกาญจนบุรี และประสานไปยัง สภ.บ้านโป่ง เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป และฝากไปยังประชาชนที่เคยถูกก่อเหตุทั้งในพื้นที่ จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี หรือจังหวัดใกล้เคียง หากสงสัยว่าผู้ต้องหาที่เราจับกุมได้เป็นกลุ่มเดียวกัน สามารถเดินทางมาดูตัวได้ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้ตลอดเวลา