นครปฐม - อุทกภัยที่จังหวัดนครปฐมล่าสุด น้ำไหลเข้าท่วมสวนส้มโอหลายพันไร่ ชาวสวนหวั่นวิตกหากสวนล่ม ส้มโอยืนต้นตายจะสร้างความสูญเสียทั้งเศรษฐกิจ และแหล่งผลิตส้มโอพันธุ์ดี รวมถึงการเกษตร ปศุสัตว์ และการประมง ส่วนเจ้าของสวนกล้วยไม้ครวญน้ำมารอบเดียวสูญ 10 ล้านบาท ภายใน 2 ชั่วโมง
วันนี้ (4 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่แผ่ขยายวงกว้างในพื้นที่จังหวัดนครปฐม จะส่งผลให้ส้มโอนครชัยศรี ซึ่งเป็นผลไม้ที่นิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และมีชื่อเสียงมาช้านาน โดยปลูกกันมากในพื้นที่อำเภอนครชัยรี สามพราน และอำเภอพุทธมณฑล กว่า 4 พันไร่ จนเมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ในฐานะเป็นผู้ผลิตผู้ประกอบการส้มโอ จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เป็นประกันถึงรสชาติและถิ่นกำเนิด
โดยจากการตรวจสอบ พบว่า เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา มวลน้ำระลอกใหม่ได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่หลายตำบล โดยเฉพาะตำบลไร่ชิง บางเตย ทรงคะนอง และตำบลหอมเกร็ด ซึ่งเป็นแหล่งส้มโอแหล่งใหญ่ของอำเภอสามพราน สร้างความหวาดวิตกให้กับชาวสวนจำนวนมาก โดยน้ำจากแม่น้ำท่าจีน ได้ไหลบ่าท่วมขังตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ระดับน้ำในสวนสูง 2 เมตร เพราะหากน้ำยังท่วมขังเกิน 2 สัปดาห์ จะทำให้ต้นส้มโอรากเน่า ใบร่วงยืนตายในที่สุด ซึ่งจะส่งผลเสียหายนับทวีคูณ เพราะนอกจากจะขาดรายได้เข้าจังหวัดเฉลี่ยกว่า 200 ล้านบาทต่อปีแล้ว ยังอาจสูญเสียแหล่งผลิตส้มโอนครชัยศรี ที่มีชื่อเสียงมาช้านานอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากส้มโอมีอายุในการเก็บเกี่ยวผลผลิตยาวนานถึง 25 ปี หากมีการปลูกใหม่ต้องใช้เวลา 4 ปี ถึงจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ และสิ่งที่สำคัญเกษตรกรไม่สามารถหาสายพันธุ์ที่ดีมีคุณภาพได้ดังเดิม เนื่องจากส้มโอนครชัยศรี เป็นผลไม้ที่นิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังได้พบกับ นายบุญชัย ช่วยกระจ่าง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 ม.1 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ที่ได้อาศัยรถบรรทุกของตำรวจเพื่อออกมาหาอาหาร และข้าวของเครื่องใช้ในย่านอำเภอสามพราน บอกว่า ตนเองทำสวนกล้วยไว้กว่า 50 ไร่ และปลูกเพื่อรอการออกดอกมากว่า 2 ปี และกำลังจะตัดดอกออกจำหน่ายในอีกไม่นาน ซึ่งที่ผ่านมาก็ทราบมาตลอดว่าน้ำจะเข้ามาในพื้นที่ โดยสำนักเขตก็ได้แจ้งเป็นระยะ จึงได้เร่งทำคันกั้นน้ำไว้สูง 1 เมตร เพราะคิดว่าพื้นที่ที่ปลูกนั้นอยู่สูง และทางหน่วยงานก็ไม่ได้แจ้งว่าจะมีระดับน้ำมาเท่าไหร่ที่ชัดเจน
กระทั่งเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา น้ำได้ไหลจากคลองทวีวัฒนา และคลองมหาสวัสดิ์ มาที่สวนกล้วยไม้ของตนเอง ซึ่งไม่เกิน 2 ชั่วโมง น้ำได้เข้าท่วมเกินระดับคันกั้นน้ำที่ทำไว้อย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องสูญเงินลงทุนไปกว่า 10 ล้านบาท ถึงวันนี้ยังทำอะไรไม่ถูก ยังไม่รู้จะทำยังต่อไปเพียงแค่รอน้ำลดแล้วค่อยว่ากันต่อไป
ขณะที่สวนเกษตร และการทำประมงหลายพื้นที่ในจังหวัดนครปฐมที่ประสบปัญหาน้ำท่วมนั้นยังคงเป็นเรื่องน่าห่วง ซึ่งจังหวัดนครปฐม เป็นแหล่งการเกษตรหลายประเภท ทั้งข้าว ผลไม้พืชผัก การปศุสัตว์และการประมง โดยต้องสำรวจครั้งอย่างและเอียดว่าจะเป็นไปในทิศทางใดเพราะเกษตรกร ในเขตอำเภอบางเลน นั้นเสียทุ่งนาไปหลายหมื่นไร่ ขณะที่สำนักงานเกษตรจังหวัดได้แจ้งต่อจังหวัดนครปฐมว่ามีการเก็บเกี่ยวไปหมดแล้ว ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้มีการเก็บเกี่ยวข้าวอีกจำนวนมหาศาล
วันนี้ (4 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่แผ่ขยายวงกว้างในพื้นที่จังหวัดนครปฐม จะส่งผลให้ส้มโอนครชัยศรี ซึ่งเป็นผลไม้ที่นิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และมีชื่อเสียงมาช้านาน โดยปลูกกันมากในพื้นที่อำเภอนครชัยรี สามพราน และอำเภอพุทธมณฑล กว่า 4 พันไร่ จนเมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ในฐานะเป็นผู้ผลิตผู้ประกอบการส้มโอ จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เป็นประกันถึงรสชาติและถิ่นกำเนิด
โดยจากการตรวจสอบ พบว่า เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา มวลน้ำระลอกใหม่ได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่หลายตำบล โดยเฉพาะตำบลไร่ชิง บางเตย ทรงคะนอง และตำบลหอมเกร็ด ซึ่งเป็นแหล่งส้มโอแหล่งใหญ่ของอำเภอสามพราน สร้างความหวาดวิตกให้กับชาวสวนจำนวนมาก โดยน้ำจากแม่น้ำท่าจีน ได้ไหลบ่าท่วมขังตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ระดับน้ำในสวนสูง 2 เมตร เพราะหากน้ำยังท่วมขังเกิน 2 สัปดาห์ จะทำให้ต้นส้มโอรากเน่า ใบร่วงยืนตายในที่สุด ซึ่งจะส่งผลเสียหายนับทวีคูณ เพราะนอกจากจะขาดรายได้เข้าจังหวัดเฉลี่ยกว่า 200 ล้านบาทต่อปีแล้ว ยังอาจสูญเสียแหล่งผลิตส้มโอนครชัยศรี ที่มีชื่อเสียงมาช้านานอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากส้มโอมีอายุในการเก็บเกี่ยวผลผลิตยาวนานถึง 25 ปี หากมีการปลูกใหม่ต้องใช้เวลา 4 ปี ถึงจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ และสิ่งที่สำคัญเกษตรกรไม่สามารถหาสายพันธุ์ที่ดีมีคุณภาพได้ดังเดิม เนื่องจากส้มโอนครชัยศรี เป็นผลไม้ที่นิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังได้พบกับ นายบุญชัย ช่วยกระจ่าง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 ม.1 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ที่ได้อาศัยรถบรรทุกของตำรวจเพื่อออกมาหาอาหาร และข้าวของเครื่องใช้ในย่านอำเภอสามพราน บอกว่า ตนเองทำสวนกล้วยไว้กว่า 50 ไร่ และปลูกเพื่อรอการออกดอกมากว่า 2 ปี และกำลังจะตัดดอกออกจำหน่ายในอีกไม่นาน ซึ่งที่ผ่านมาก็ทราบมาตลอดว่าน้ำจะเข้ามาในพื้นที่ โดยสำนักเขตก็ได้แจ้งเป็นระยะ จึงได้เร่งทำคันกั้นน้ำไว้สูง 1 เมตร เพราะคิดว่าพื้นที่ที่ปลูกนั้นอยู่สูง และทางหน่วยงานก็ไม่ได้แจ้งว่าจะมีระดับน้ำมาเท่าไหร่ที่ชัดเจน
กระทั่งเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา น้ำได้ไหลจากคลองทวีวัฒนา และคลองมหาสวัสดิ์ มาที่สวนกล้วยไม้ของตนเอง ซึ่งไม่เกิน 2 ชั่วโมง น้ำได้เข้าท่วมเกินระดับคันกั้นน้ำที่ทำไว้อย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องสูญเงินลงทุนไปกว่า 10 ล้านบาท ถึงวันนี้ยังทำอะไรไม่ถูก ยังไม่รู้จะทำยังต่อไปเพียงแค่รอน้ำลดแล้วค่อยว่ากันต่อไป
ขณะที่สวนเกษตร และการทำประมงหลายพื้นที่ในจังหวัดนครปฐมที่ประสบปัญหาน้ำท่วมนั้นยังคงเป็นเรื่องน่าห่วง ซึ่งจังหวัดนครปฐม เป็นแหล่งการเกษตรหลายประเภท ทั้งข้าว ผลไม้พืชผัก การปศุสัตว์และการประมง โดยต้องสำรวจครั้งอย่างและเอียดว่าจะเป็นไปในทิศทางใดเพราะเกษตรกร ในเขตอำเภอบางเลน นั้นเสียทุ่งนาไปหลายหมื่นไร่ ขณะที่สำนักงานเกษตรจังหวัดได้แจ้งต่อจังหวัดนครปฐมว่ามีการเก็บเกี่ยวไปหมดแล้ว ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้มีการเก็บเกี่ยวข้าวอีกจำนวนมหาศาล