ศรีสะเกษ - ทหารไทย-เขมร ยังคงตรึงกำลังเข้ม “ภูมะเขือ” ด้านตะวันตกเขาพระวิหาร ขณะผามออีแดงเงียบเหงา นักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวลดฮวบ พ่อค้าแม่ค้าจี้จังหวัด เร่งแจงแก้ปัญหาความสับสน ด้านชาวบ้านยังหวาดผวาสู้รบ เตรียมพร้อมอพยพ
วันนี้ (19 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุทหารกัมพูชาไม่พอใจที่ฝ่ายไทยอัญเชิญพระพุทธรูปไปประดิษฐานที่บริเวณพลาญยาว ด้านภูมะเขือ ทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าเขตแดนยังไม่ชัดเจน และทำให้บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียดและทหารไทยได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อม นั้น
ล่าสุด วันนี้ ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีประชาชนนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวชมทะเลป่า ภูผาหมอก บริเวณผามออีแดง ในช่วงเช้าลดลงกว่าร้อยละ 70 ซึ่งที่ผ่านมา จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมผามออีแดงในช่วงวันจันทร์-วันศุกร์ เฉลี่ยวันละประมาณ 500 คน แต่ขณะนี้แต่ละวันมีไม่ถึงวันละ 100 คนเท่านั้น
ทำให้พ่อค้า แม่ค้าที่มาเปิดร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึกได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ซึ่งพ่อค้า แม่ค้าต่างพากันเรียกร้องขอให้ทาง จ.ศรีสะเกษ ได้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวและออกประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับกรณีสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ชัดเจน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ต่างได้ติดตามข่าวสารกันเอง และสร้างความสับสนเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มว่า ขณะเดียวกัน บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รอบเขาพระวิหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ปรากฏว่า ทหารทั้ง 2 ฝ่ายยังคงตรึงกำลังอย่างเต็มที่ แต่นายทหารที่คุมกำลังทั้ง 2 ฝ่ายในพื้นที่ยังคงมีการพูดคุยเจรจากันเพื่อป้องกันเหตุเข้าใจผิด ขณะที่ทหารไทยจำนวนประมาณ 1 กองร้อยที่เข้าไปเสริมกำลังรอบเขาพระวิหารนั้นยังไม่มีการถอนกำลังออกมาแต่อย่างใด
ส่วนชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่มีไร่นาอยู่ติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชาก็ยังคงพากันเดินทางออกไปประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา และหาของป่ากันตามปกตติ แต่ชาวบ้านยังคงมีอาการหวาดกลัวภัยสงครามที่อาจจะเกิดได้ตลอดเวลา
น.ส.อมร แสนประดับ อายุ 35 ปี ชาวบ้านภูมิซรอล เจ้าของบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เมื่อช่วงเดือน ก.พ.54 ที่ผ่านมา ซึ่งบ้านเรือนได้ถูกระเบิดพังเสียหายทั้งหลัง กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังมีอาการผวาในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ตนได้เตรียมเก็บสิ่งของ เอกสารสำคัญใส่กระเป๋าไว้แล้ว หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นและจำเป็นต้องมีการอพยพออกจากพื้นที่ ก็พร้อมที่จะเดินทางทันที
วันนี้ (19 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุทหารกัมพูชาไม่พอใจที่ฝ่ายไทยอัญเชิญพระพุทธรูปไปประดิษฐานที่บริเวณพลาญยาว ด้านภูมะเขือ ทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าเขตแดนยังไม่ชัดเจน และทำให้บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียดและทหารไทยได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อม นั้น
ล่าสุด วันนี้ ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีประชาชนนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวชมทะเลป่า ภูผาหมอก บริเวณผามออีแดง ในช่วงเช้าลดลงกว่าร้อยละ 70 ซึ่งที่ผ่านมา จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมผามออีแดงในช่วงวันจันทร์-วันศุกร์ เฉลี่ยวันละประมาณ 500 คน แต่ขณะนี้แต่ละวันมีไม่ถึงวันละ 100 คนเท่านั้น
ทำให้พ่อค้า แม่ค้าที่มาเปิดร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึกได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ซึ่งพ่อค้า แม่ค้าต่างพากันเรียกร้องขอให้ทาง จ.ศรีสะเกษ ได้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวและออกประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับกรณีสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ชัดเจน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ต่างได้ติดตามข่าวสารกันเอง และสร้างความสับสนเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มว่า ขณะเดียวกัน บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รอบเขาพระวิหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ปรากฏว่า ทหารทั้ง 2 ฝ่ายยังคงตรึงกำลังอย่างเต็มที่ แต่นายทหารที่คุมกำลังทั้ง 2 ฝ่ายในพื้นที่ยังคงมีการพูดคุยเจรจากันเพื่อป้องกันเหตุเข้าใจผิด ขณะที่ทหารไทยจำนวนประมาณ 1 กองร้อยที่เข้าไปเสริมกำลังรอบเขาพระวิหารนั้นยังไม่มีการถอนกำลังออกมาแต่อย่างใด
ส่วนชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่มีไร่นาอยู่ติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชาก็ยังคงพากันเดินทางออกไปประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา และหาของป่ากันตามปกตติ แต่ชาวบ้านยังคงมีอาการหวาดกลัวภัยสงครามที่อาจจะเกิดได้ตลอดเวลา
น.ส.อมร แสนประดับ อายุ 35 ปี ชาวบ้านภูมิซรอล เจ้าของบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เมื่อช่วงเดือน ก.พ.54 ที่ผ่านมา ซึ่งบ้านเรือนได้ถูกระเบิดพังเสียหายทั้งหลัง กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังมีอาการผวาในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ตนได้เตรียมเก็บสิ่งของ เอกสารสำคัญใส่กระเป๋าไว้แล้ว หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นและจำเป็นต้องมีการอพยพออกจากพื้นที่ ก็พร้อมที่จะเดินทางทันที
