แตกตื่น! ทหารไทยซ้อมเผชิญเหตุ “ภูมะเขือ” - อพยพนักท่องเที่ยวเกลี้ยง “ผามออีแดง”

ศรีสะเกษ - ชาวบ้านแตกตื่น! ทหารพรานไทยอุบซ้อมแผนเผชิญเหตุ “ภูมะเขือ” ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ให้ปชช.นักท่องเที่ยวทุกคนลงจาก “ผามออีแดง” หมดเกลี้ยง ขณะชาวภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ วอนทหารไทยอย่าถอนกำลังทหารพ้นเขาพระวิหาร ผวาถูกกลืนเป็นเขมรทั้งหมู่บ้าน ล่าสุดระบุทหารไทยซ้อมแผนเผชิญเหตุเป็นจริง เหตุเขมรไม่พอใจไทยประดิษฐานพระพุทธรูปจ่อชายแดน

วันนี้ (16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศพากันไปเที่ยวชมผามออีแดงอย่างคึกคัก แต่ปรากฏว่า พอช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.วันเดียวกันนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานไทย มาขอร้องให้บรรดาประชาชนนักท่องเที่ยวพากันเดินทางลงไปจากผามออีแดง จนหมดสิ้นและ ห้ามไม่ให้ประชาชนนักท่องเที่ยวขึ้นไปบริเวณผามออีแดงอย่างเด็ดขาด โดยทหารแจ้งว่ามีเหตุไม่ปกติที่บริเวณภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกเขาพระวิหาร เกรงว่านักท่องเที่ยวจะไม่ปลอดภัย ซึ่งนักท่องเที่ยวได้ทยอยกันลงจากผามออีแดงจนหมดทุกคน

ขณะที่ นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การขอร้องให้นักท่องเที่ยวลงจากผามออีแดง และให้เจ้าหน้าที่ถอนตัวกลับลงมาจากบริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร นั้น เนื่องจากว่า ฝ่ายกัมพูชาได้มีการกล่าวหาไทยรุกล้ำดินแดนบางจุดที่บริเวณภูมะเขือ และในช่วงบ่ายของวันนี้ นายทหารไทยได้นัดเจรจาทำความเข้าใจกับฝ่ายนายทหารกัมพูชาที่บริเวณภูมะเขือ

ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมเผชิญเหตุผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้จึงให้นักท่องเที่ยวลงมาจากผามออีแดงและไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมผามออีแดงเฉพาะวันนี้ (16 ม.ค.) เท่านั้น และตนทราบว่าหลังจากทหารทั้ง 2 ฝ่ายได้เจรจากันแล้ว ก็มีความเข้าใจอันดีต่อกันไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด และในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.) จะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมผามออีแดงได้เช่นเดิมต่อไป

ทางด้าน พ.อ.ธนศักดิ์ มิตรภานนท์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การที่ทหารพรานขอให้นักท่องเที่ยวลงจากผามออีแดงนั้น ไม่มีเหตุการณ์อะไร เป็นการซ้อมแผนเผชิญเหตุเพื่อซักซ้อม ว่า หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาจะดำเนินการเคลื่อนย้ายนักท่องเที่ยวอย่างไร ส่วนที่บริเวณภูมะเขือนั้นไม่มีเหตุการณ์อะไรทุกอย่างยังคงปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่บริเวณสามแยกบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า ชาวบ้านภูมิซรอลได้พากันจับกลุ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพากันหวาดกลัวว่าจะมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้นมาอีก เนื่องจากขณะนี้ใกล้จะถึงวันที่ 4 ก.พ. ซึ่งจะครบรอบ 1 ปี ของการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้รับความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

นางอุไรวรรณ ดอกสี อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ม.12 บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้พวกตนรู้สึกหวาดกลัวมากเกรงว่าจะมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้นมาอีก เนื่องจากทุกวันตนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเป็นประจำทุกวันวันละ 3-4 ครั้งที่บริเวณภูมะเขือ วันนี้ก็ได้ยินเสียงปืนที่ภูมะเขืออีก ตนขอวิงวอนไม่อยากให้ทหารไทยถอนกำลังทหารออกไปจากบริเวณเขาพระวิหารตามคำสั่งของศาลโลก เพราะหากทหารไทยถอนกำลังออกไปพวกตนชาวบ้านภูมิซรอล อาจจะต้องถูกกลืนไปเป็นชาวกัมพูชาอย่างแน่นอน

“ทุกวันนี้แม้ยังไม่มีการถอนกำลังทหารไทยออกจากบริเวณเขาพระวิหาร ก็ยังมีทหารกัมพูชาเข้ามาอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดแนวเต็มไปหมดอยู่แล้ว หากทหารไทยถอนกำลังทหารออกไปตนเชื่อว่าทหารกัมพูชาจะต้องรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยอย่างแน่นอน” นางอุไรวรรณ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า ล่าสุดจากการเปิดเผยของแหล่งข่าวระดับสูง ระบุว่า เหตุการณ์ทหารไทยเร่งอพยพประชาชนนักท่องเที่ยวลงจากผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร วันนี้เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่การซ้อมแผนเผชิญเหตุแต่อย่างใด เพราะเกิดความตรึงเครียดขึ้นเนื่องจากฝ่ายกัมพูชาไม่พอใจกรณี ฝ่ายไทยอัญเชิญพระพุทธรูปไปประดิษฐานบริเวณ ฐานพลาญยาว ด้านทิศตะวันตกเขาพระวิหาร อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร แต่เมื่อทหารไทยสามารถเจรจาตกลงกับฝ่ายกัมพูชาได้ทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง จึงออกมาให้ข่าวแก้เกี้ยวว่า เป็นเพียงการซ้อมแผนเผชิญเหตุดังกล่าว