ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “โฆษก ทภ. 2” ยัน สถานการณ์เขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ปกติ ทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีการเสริมกำลังทหาร แต่ยอมรับเขมรไม่พอใจไทยอัญเชิญพระพุทธรูปไปประดิษฐานใกล้ “ภูมะเขือ” แต่ไทยชี้แจงแล้วว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ และต้องการเพื่อให้ ปชช.-ทหาร ได้กราบไหว้บูชาเท่านั้น ระบุ ขึ้นเที่ยวชม “ผามออีแดง” ได้เช่นเดิม พร้อมชวนนักท่องเที่ยวหันไปเที่ยวปราสาทตาเมือน-ตาควาย ให้มากขึ้น
วันนี้ (17 ม.ค.) พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กรณีมีข่าวเกิดความตึงเครียดและมีการเสริมกำลังทหารของฝ่ายไทยตามแนวชายแดน หลังจากเมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) ได้เกิดความแตกตื่นขึ้นจากการอพยพประชาชนนักท่องเที่ยวลงจากผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นการด่วน แต่ภายหลังฝ่ายทหารอ้างว่าเป็นการซ้อมแผนเผชิญเหตุ ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) ยืนยันว่า เป็นซักซ้อมแผนการรักษาความปลอดภัย ประชาชนและนักท่องเที่ยวจริง ซึ่งหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ทำการซักซ้อมแผนโดยไม่ได้แจ้งให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทราบล่วงหน้าเนื่องจากเกรงว่าจะไม่สมจริง และนักท่องเที่ยวจะไม่ขึ้นไปท่องเที่ยวบนผามออีแดง โดยในช่วงที่ซ้อมนั้นเป็นเวลาประมาณ 11.00 น.มีนักท่องเที่ยวอยู่ในเหตุการณ์ประมาณ 40 คน การซักซ้อมใช้เวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นแต่อย่างใด
พ.อ.ประวิทย์ กล่าวยืนยันอีกว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าฝ่ายไทยได้เสริมกำลังทหารอีก 1 กองร้อย ตามแนวชายแดนเขาพระวิหาร นั้น ไม่เป็นความจริง ขณะนี้ทุกอย่างยังเป็นปกติ ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาไม่ได้มีการเสริม หรือเพิ่มเติมกำลังทหารแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ทุกนายยังคงปฏิบัติภารกิจตามปกติ สถานการณ์โดยรวมไม่ได้ตึงเครียด ทั้ง 2 ฝ่าย ยังประสานพูดคุยและเชื่อมสัมพันธ์กันมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ฝ่ายกัมพูชามีความไม่พอใจฝ่ายไทยจริง ในกรณีที่เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยได้อัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นไปประดิษฐานและทำพิธีเบิกเนตร พร้อมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ โดย พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ที่บริเวณฐานพลาญยาว ใกล้ภูมะเขือ ทางด้านทิศตะวันตกเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งในส่วนนี้ฝ่ายกัมพูชาได้ท้วงติงมายังฝ่ายไทยว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวยังไม่มีการแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน แต่ไทยเราได้ชี้แจงและทำความเข้าไปแล้วว่า การกระทำพิธีดังกล่าวได้มีการกระทำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2530 และอันเชิญพระพุทธรูปขึ้นไปประดิษฐานแล้วมากกว่า 10 องค์ ไม่ใช่เพิ่งจะมาทำในตอนนี้ ทั้งนี้เพื่อตั้งการให้ประชาชนชาวไทยและทหารไทยได้สักการะกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งฝ่ายกัมพูชาก็เข้าใจถึงเจตนารมณ์ดังกล่าวเป็นอย่างดี
“จากการแสดงท่าทีที่ไม่พอใจของฝ่ายกัมพูชาดังกล่าว เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ฝ่ายไทยเรานิ่งนอนใจไม่ได้ และไม่ตั้งอยู่ในความประมาท หน่วยทหารในพื้นที่จึงได้ทำการซ้อมแผนการรักษาความปลอดภัย ดังกล่าวขึ้น และกลายเป็นข่าวใหญ่โตในปัจจุบัน ซึ่งความเป็นจริงแล้วทุกอย่างยังเป็นปกติ ไม่มีเหตุการณ์ตึงเครียดเกิดขึ้นแต่อย่างใด” พ.อ.ประวิทย์ กล่าว
พ.อ.ประวิทย์ กล่าวอีกว่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปเที่ยวชมผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ยังขึ้นเป็นได้ตามปกติ ยืนยันว่านักท่องเที่ยวทุกคนปลอดภัย ส่วนประชาชนในพื้นที่ไม่ต้องตกใจ และไม่ต้องกังวล ยังไม่มีภาวะที่น่าเป็นห่วง สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแค่การซ้อมแผนเท่านั้น
พร้อมกันนี้ อยากขอเชิญชวนประชาชนนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ด้วย เพราะมีความงดงามที่ไม่แพ้กัน และทหารยืนยันในความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมาทางฝ่ายกัมพูชาได้เกณฑ์คนขึ้นมาเที่ยวชมจำนวนมาก ขณะที่นักท่องเที่ยวฝ่ายไทยเรามีบ้างแต่ไม่มากนัก อาจยังไม่เป็นที่รู้จัก จึงขอเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวชาวไทยหันไปท่องเที่ยวชายแดนด้านปราสาทตาเมือนธม ด้วย
