ตร.อุบลฯออกหมายจับมือยิงนายก อบต.เชื่อขัดแย้งธุรกิจรีสอร์ต-หักเหลี่ยมนักเลง

อุบลราชธานี - ตร.ออกหมายจับจ่าแดง หรือ “นายธนวัฒน์ รัตนเดชา” อดีตทหารพรานนอกราชการใช้อาวุธปืน 11 มม.จ่อยิงนายก อบต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ เสียชีวิต พร้อมลูกน้องรวม 2 ศพ จากการขัดแย้งก่อสร้างรีสอร์ตมูลค่านับร้อยล้านบาท ที่คนตายไปรับเหมาก่อสร้างให้ ส.ว.สรรหาคนหนึ่ง แต่ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้าง และยังพบคลิปที่มือปืนใช้กล้องปากกาแอบถ่ายขณะกลุ่มลูกน้องนายก อบต.ที่เสียชีวิตเข้ามาขนวัสดุก่อสร้างออกไปจากหน้างานจึงเป็นปมที่หักเหลี่ยมนักเลงนำมาสู่การสังหารดังกล่าว

วันนี้ (17 ม.ค.) พ.ต.ท.วีระพันธ์ นาคสุข รองผกก.สส.สภ.ห้วยขะยุง อ.วารินชำราบ ซึ่งเป็นเจ้าของคดีนายก อบต.บุ่งหวาย ได้สอบพยานที่เห็นเหตุการณ์จำนวน 4 ปาก และให้การยืนยันว่าคนที่ลงมือสังหารนายประสาน คำแสงดี และนายไสวประดับจันทร์ ภายในโรงงานผลิตน้ำแข็งคือ นายธนวัฒน์ รัตนเดชา อายุ 48 ปีมีบ้านเดิมอยู่เลขที่ 127 หมู่ 3 ต.หอคำ อ.เมือง จ.บึงกาฬ

โดย นายธนวัฒน์ เป็นลูกน้องของ ส.ว.สรรหารายหนึ่ง ที่เป็นเจ้าของโครงการและถูกส่งตัวให้มาดูแลทรัพย์สินของการก่อสร้างรีสอร์ทที่ยังไม่แล้วเสร็จจึงได้ขออนุญาตศาลจังหวัดอุบลราชธานี ออกหมายจับกุมตัวมาดำเนินคดีแล้ว

สำหรับการติดตามจับกุมตัวนายธนวัฒน์ ได้แบ่งออกเป็น 2 ชุดโดย เป็นชุดสืบสวนของ กองบังคับการ สส.ภาค 3 นำโดย พ.ต.อ.ภาณุ บูรณะศิริรอง ผบก.สส.ภาค 3 ติดตามไปยังบ้านเกิดคือจ.บึงกาฬและจังหวัดใกล้เคียงที่เชื่อว่านายธนวัฒน์จะไปหลบซ่อนอยู่ส่วนชุดสืบสวนของ กก.สส.กองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุบลราชธานี นำโดย พ.ต.อ.เกษมศักดิ์ หะซะนี รอง ผบก.อุบลราชธานี ติดตามในเขตจังหวัดอีสานใต้ที่ สว.สรรหาลูกพี่ของนายธนวัฒน์มีอิทธิพลอยู่ ซึ่งอาจหลบซ่อนอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนด้านนี้ก็ได้

สำหรับชนวนการสังหาร พ.ต.อ.อุดร มณีสาย ผกก.สภ.ห้วยขะยุง คาดว่า จะมาจากความบาดหมางกินใจระหว่างนายประสานผู้ตายกับนายธนวัฒน์ที่ถูกส่งมาดูแลโครงการเพราะหลังโครงการก่อสร้างขาดสภาพคล่องนายประสานและเพื่อนได้ยุติการก่อสร้างก็มักมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปก่อกวนในจุดก่อสร้าง

ซึ่งวันเกิดเหตุนายธนวัฒน์ โทรศัพท์แจ้งนายประสานให้มาดูกระต๊อบที่พักคนงานซึ่งถูกมือดีเข้ามาเผาอาจเป็นไปได้ว่านายธนวัฒน์คิดว่านายประสานมีส่วนรู้เห็นเมื่อพบหน้ากันก็เกิดการโต้เถียง ก่อนชักปืนออกมายิงจนถึงแก่ความตายจากการตรวจสอบยังพบว่า นายธนวัฒน์เป็นนักเล่นปืนคนหนึ่ง

โดยมีอาวุธปืนที่อยู่ในครอบครองที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ถึง 9 กระบอกและเจ้าหน้าที่สามารถยึดปืนในห้องพักของนายธนวัฒน์ภายในโรงน้ำแข็งได้ถึง 3 กระบอก โดยเป็นปืนลูกซองยาวแบบ 5 นัด ปืนลูกกรดยาว และปืนพกสั้นขนาด 9 มม.พร้อมลูกกระสุนจำนวนมาก จึงน่าจะเป็นคนใจร้อน

ส่วนที่ระบุว่าเป็นนายทหารชั้นยศร้อยเอกนั้นไม่ใช่เป็นเพียงทหารพรานนอกราชการเท่านั้นส่วนประเด็นการสังหารตั้งไว้เบื้องต้น คือ เรื่องบาดหมางกันส่วนตัวและตั้งแต่เกิดเหตุผู้ต้องหายังไม่มีการติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

ต่อมาช่วงบ่ายวันนี้ชุดสอบสวนได้ตรวจค้นห้องทำงานและห้องพักของนายธนวัฒน์ พบคลิปที่นายธนวัฒน์ ใช้กล้องปากกาแอบถ่ายขณะมีกลุ่มคนงานของนายประสานนำรถเข้าไปขนวัสดุใช้ก่อสร้างเป็นอิฐบล็อกปูนซีเมนต์ออกจากจุดก่อสร้างเมื่อวันที่ 14 ม.ค.

โดย นายธนวัฒน์ ได้เดินสอบถามจากคนงานว่าใครให้มาขนซึ่งคนงานก็ตอบว่านายประสานต้องการมาขนอิฐบล็อกที่ยังไม่ได้ใช้ประมาณ20,000 ก้อน ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นชนวนหนึ่งที่ทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้นจนนำไปสู่การยิงนายประสานและลูกน้องครั้งนี้

ด้าน พล.ต.ต.สุรพล แก้วขาว ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี ระบุว่า สาเหตุการยิงครั้งนี้ เกิดจากความไม่พอใจระหว่างมือปืนกับคนตายไม่น่าเกี่ยวข้องกับเจ้านายของมือปืนที่เป็น ส.ว.เพราะนายธนวัฒน์ ถูกส่งให้มาดูแลทรัพย์สินและมีเรื่องบาดหมางกับผู้ตายเป็นการส่วนตัวและถึงแม้เรื่องที่เกิดขึ้นจะมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องก็ไม่กดดันในการติดตามจับกุมตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กระจายกันติดตามในพื้นที่ที่สงสัยจะไปหลบซ่อมแล้วและเชื่อว่ายังวนเวียนอยู่ภายในประเทศ ไม่ได้หนีไปไหนไกล

สำหรับศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพักของแต่ละคนในหมู่บ้านบุ่งหวาย ต.บุ่งหวาย โดยศพ นายไสว ประดับจันทร์ คนขับรถจะฌาปนกิจในเย็นวันพรุ่งนี้ ส่วนศพนายประสาน อยู่ระหว่างการขอพระราชทานเพลิงศพ