กาฬสินธุ์ - พบ “งากุด” อายุ 200 ปี ลักษณะพิเศษจารึกภาพพระพุทธรูป และ “งาสะเด็น” ดึกดำบรรพ์ที่วัดป่าพุทธมงคล อ.เมืองกาฬสินธุ์ ด้านพระราชศีลโสภิต (หนูอินทร์ กิตฺติสาโร) รองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เผยลูกศิษย์นำมาถวายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง และสิ่งมงคลเสริมบารมี เตรียมสร้าง “พระสมเด็จ-พระปิดตา งาสะเด็น รุ่น 2” เป็นสุดยอดวัตถุมงคลแห่งปี ขณะที่ชาวบ้านเห็นเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่กราบไหว้ขอโชคลาภ
วันนี้ (16 ม.ค.) จากกระแสข่าวชาวบ้านตำบลหลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โจษจันกันมากกรณีมีลูกศิษย์นำงาช้างเก่าแก่ล้ำค่า คือ “งากุด และงาสะเด็น” ลักษณะแปลกประหลาด มาถวายพระราชศีลโสภิต (หนูอินทร์ กิตฺติสาโร) เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธมงคล และรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มหัศจรรย์ ผู้ใดกราบไหว้ถือเป็นสิริมงคลประเสริฐสูงสุดแก่ชีวิต ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าติดตามข้อเท็จจริง
นายประมูล มหิพันธ์ ไวยาวัจกรวัดป่าพุทธมงคล กล่าวว่า งาช้างดังกล่าว มีจำนวน 4 ชิ้น โดย 3 ชิ้นแรกเป็น “งากุด” สีขาวนวล อายุประมาณ 200 ปี น้ำหนักรวมประมาณ 3 กิโลกรัม มีลักษณะพิเศษคือ ชิ้นโตสลักด้วยภาพพระพุทธรูป 2 ด้าน จารึกอักขระขอมโบราณ ชิ้นรองลงมารูปร่างคล้ายโบสถ์ หรือปราสาททอง และชิ้นเล็กสลักด้วยภาพพระพุทธรูปปางต่างๆอย่างสวยงาม
ขณะที่ชิ้นที่ 4 เป็นงาสะเด็นหรืองาช้างหักผ่าซีก สีขาวอมน้ำตาล ความยาวประมาณ 1 ฟุต น้ำหนัก 4 กิโลกรัม ทั้งหมดมีลูกศิษย์ชาว จ.สุรินทร์ (ขอสงวนนาม) นำมาถวาย เพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด และคู่บารมีพระราชศีลโสภิต เนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิด 76 ปี วันที่ 18 ม.ค. 2555 นี้ ซึ่งในวันที่ลูกศิษย์คนนั้นนำมาถวาย มีญาติโยมอยู่ในเหตุการณ์หลายคน ต่างก็เข้ามากราบไหว้บูชาเพราะเห็นเป็นของแปลก เชื่อว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ กราบไหว้ได้โชคลาภ และเป็นสิริมงคล จึงนำไปเล่าลือกันดังกล่าว
ด้าน พระราชศีลโสภิต (หนูอินทร์ กิตฺติสาโร) กล่าวว่า งากุด คืองาช้างพลายที่งอกออกมาแล้วผิดรูป ไม่ปกติ คือด้วนสั้น ไม่ยาวโง้งเหมืองาช้างทั่วไป จึงเป็นของหายาก และจากการที่ปรากฏเป็นภาพพระพุทธรูปอย่างชัดเจนนั้น ลูกศิษย์ที่นำมาถวายบอกว่าเดิมทีมีรูปร่างอย่างนั้นจริงๆ แต่เพื่อให้เกิดความสวยงาม มีเอกลักษณ์และเหมาะสมกับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่า จึงให้ช่างแกะสลักปรับแต่งตามรูปรอยอย่างประณีตบรรจง ซึ่งจะเก็บรักษางากุดเป็นวัตถุมงคลประจำวัด หรือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บารมี เป็นของดีคู่บ้านคู่เมืองต่อไป
“แต่ในส่วนของงาสะเด็นหรืองาช้างหักนั้น สันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุนับพันปี เพราะลักษณะแทบจะกลายเป็นฟอสซิล จึงเรียกว่างาสะเด็นดึกดำบรรพ์ ซึ่งวัตถุประสงค์ของลูกศิษย์ที่นำมาถวายนั้น ต้องการอนุโมทนาทำบุญ เพื่อเป็นมวลสารในการจัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น “พระสมเด็จและพระปิดตา งาสะเด็น” รุ่นที่ 2 ที่จะเป็นสุดยอดวัตถุมงคลแห่งปี ในเร็วๆนี้”
สำหรับพระราชศีลโสภิต (หนูอินทร์ กิตฺติสาโร) เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธมงคล และดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ปัจจุบันอายุ 76 ปี 55 พรรษา เป็นพระเกจิที่เคร่งครัดในธรรมวินัย เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของศิษยานุศิษย์ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ กระทั่งได้รับรางวัลสำนักปฏิบัติธรรมดีเด่นประจำจังหวัดฯ และได้รับปริญญาบัตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์(ปร.ด.) สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค จากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม มีชื่อเสียงโด่งดังในการจัดสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลหลายรุ่น ได้รับนิมนต์เป็นประธานจุดเทียนชัยพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลทั่วภาคอีสาน
ทั้งนี้ วัตถุมงคลของท่านมีพุทธคุณด้านคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย ธุรกิจการค้าขายรุ่งเรือง และมหานิยมเป็นเลิศ เมื่อปี 2552 เคยสร้างวัตถุมงคล “พระสมเด็จและพระปิดตางาสะเด็น” เป็นที่ฮือฮากันมาก แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของศิษยานุศิษย์ จึงเรียกร้องให้สร้างรุ่นที่ 2 โดยจะนำงาสะเด็นดึกดำบรรพ์เป็นมวลสารในการจัดสร้างดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่สนใจจะกราบไหว้งากุดและงาสะเด็น ทางวัดจะจัดให้ชมอีกครั้งในวันแสดงมุทิตาจิตอายุวัฒนะพระราชศีลโสภิต (หนูอินทร์ กิตฺติสาโร) วันที่ 18 ม.ค.55 นี้ ก่อนที่จะเก็บรักษาและรอฤกษ์จัดสร้างวัตถุมงคลในโอกาสต่อไป
