ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - 11 ชุมชนเมืองเชียงใหม่ระดมสมองร่างหนังสือ เตรียมเสนอ “ยิ่งลักษณ์” ช่วงครม.สัญจร วอนนายกฯ สั่งการแก้ไขปัญหาร้านอาหาร-สถานบันเทิงส่งเสียงดัง หลังล่าสุดรับฟังหน่วยงานต่างๆ ชี้แจงผลการดำเนินการแล้วยังไม่พอใจ ลั่นระยะยาวเล็งมีส่วนร่วมเชิงนโยบายมากขึ้น เหตุพบหลายหน่วยงานช่วยได้ไม่เต็มที่เพราะอำนาจจำกัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่าย 11 ชุมชนในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่เตรียมที่จะเข้ายื่นหนังสือต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐแก้ไขแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากกรณีสถานบันเทิงและร้านอาหารส่งเสียงดัง ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 15 ม.ค. ที่จะถึงนี้ หลังจากเห็นว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร แม้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ชี้แจงว่า ยังคงดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่องแล้วก็ตาม
ในการประชุมชี้แจงผลการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จากปัญหาสถานบันเทิงและร้านอาหารที่ส่งเสียงดัง ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุม 21 เทศบาลนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา หน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ได้เดินทางมาชี้แจงผลการดำเนินการ รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานให้กับตัวแทนจากเครือข่าย 11 ชุมชนได้รับทราบ
อย่างไรก็ตาม แม้หลายหน่วยงาน อาทิเช่นเทศบาลนครเชียงใหม่และอำเภอเมืองเชียงใหม่จะได้ชี้แจงในที่ประชุมแล้วว่า มีการส่งหนังสือตักเตือนร้านอาหารและสถานบันเทิงที่ส่งเสียงดังและกระทำผิดกฎหมายจากการแสดงดนตรีในที่แจ้งไปแล้ว อีกทั้งยังมีอีกส่วนหนึ่งที่เตรียมจะดำเนินการลงโทษทางกฎหมายต่อไป แต่ตัวแทนจาก 11 ชุมชนยังคงมีท่าทีไม่พอใจ เนื่องจากเห็นว่าร้านอาหารหรือสถานบันเทิงหลายแห่งกระทำผิดกฎหมายชัดเจน อีกทั้งหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกลับไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ว่าจะมีการดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร
เช่นเดียวกับสรรพสามิตพื้นที่เชียงใหม่ซึ่งได้รับการสอบถามและวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากตัวแทนจาก 11 ชุมชนเห็นว่าเป็นองค์กรที่น่าจะสามารถควบคุมการเกิดขึ้นของสถานบันเทิงด้วยการจำกัดการออกใบอนุญาตจำหน่ายสุราได้ ซึ่งตัวแทนจากสรรพสามิตพื้นที่เชียงใหม่ได้ชี้แจงว่า แม้จะมีมาตรการในการระงับหรือเพิกถอนการให้ใบอนุญาต แต่เหตุที่จะนำมาซึ่งการปฏิบัติได้นั้นส่วนใหญ่จะอยู่ในประเด็นของยาเสพติดหรือการปล่อยให้เยาวชนที่อายุไม่ถึงเกณฑ์เข้าใช้บริการ แต่ยังไม่มีกฎที่ระบุชัดเจนเกี่ยวกับปัญหาการส่งเสียงดังหรือตั้งสถานประกอบการอยู่ใกล้วัดหรือโรงเรียนแต่อย่างใด
ส่วนกรณีการออกใบอนุญาต หากประชาชนที่มาขอใบอนุญาตมีหลักฐานครบถ้วนถูกต้องสรรพสามิตก็จำเป็นจะต้องออกใบอนุญาตให้ มิฉะนั้นก็จะมีความผิดตามกฎหมาย
ทั้งนี้ภายหลังจากรับฟังคำชี้แจงแล้ว กลุ่มตัวแทนจาก 11 ชุมชน ซึ่งประกอบไปด้วยชุมชนนิมมานเหมินท์ ชุมชนลอยเคราะห์ ชุมชนวัดช่างฆ้อง ชุมชนท่าแพ ชุมชนช้างม่อย ชุมชนวัดชมพู ชุมชนวัดทรายมูลเมือง ชุมชนวัดดอกเอื้อง ชุมชนวัดล่ามช้าง ชุมชนศรีมงคล และชุมชนป่าแพ่ง (คลองเงิน) ได้ทำการประชุมหารือกันอีกครั้งในวันที่ 10 ม.ค. โดยได้เชิญตัวแทนจากทุกชุมชนมาร่วมกันร่างหนังสือ และเตรียมที่จะส่งตัวแทนเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สาขาเชียงใหม่ วันที่ 15 ม.ค. นี้
แหล่งข่าวจากกลุ่มตัวแทน 11 ชุมชนระบุว่า ข้อเรียกร้องของทางกลุ่มคือ ต้องการให้นายกรัฐมนตรีสั่งการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามจนไม่สามารถฟื้นฟูได้ เนื่องจากที่ผ่านมาแม้จะได้มีการร้องเรียนไปยังทางจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาแล้ว แต่ปรากฏว่าการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ยังมีข้อจำกัดในเชิงของอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ ซึ่งทำให้การบังคับใช้กฎหมายยังไม่มีประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น
นอกจากนี้ กลุ่ม 11 ชุมชนยังมีความเห็นว่า การแก้ไขปัญหาในระยะยาว จำเป็นอย่างยิ่งที่ภาคประชาชนจะต้องเข้าไปมีส่วนร่วม หรือนำเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการออกกฎระเบียบหรือปฏิบัติตามข้อกฎหมายให้มากขึ้น โดยในการหารือได้มีการหยิบยกแนวความคิดเรื่องการเข้าไปมีส่วนร่วมกับสรรพสามิตในการตัดสินใจออกใบอนุญาตจำหน่ายสุรา ในรูปแบบของตัวแทนชุมชนหรือคณะกรรมการหมู่บ้าน หรือการเสนอให้สมาชิกสภาเทศบาลหรือนายกเทศมนตรี ซึ่งถือเป็นตัวแทนของชุมชนทำการเสนอหรือปรับปรุงแก้ไขเทศบัญญัติ เพื่อให้เทศบาลมีอำนาจในการบริหารจัดการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่าย 11 ชุมชนในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่เตรียมที่จะเข้ายื่นหนังสือต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐแก้ไขแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากกรณีสถานบันเทิงและร้านอาหารส่งเสียงดัง ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 15 ม.ค. ที่จะถึงนี้ หลังจากเห็นว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร แม้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ชี้แจงว่า ยังคงดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่องแล้วก็ตาม
ในการประชุมชี้แจงผลการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จากปัญหาสถานบันเทิงและร้านอาหารที่ส่งเสียงดัง ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุม 21 เทศบาลนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา หน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ได้เดินทางมาชี้แจงผลการดำเนินการ รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานให้กับตัวแทนจากเครือข่าย 11 ชุมชนได้รับทราบ
อย่างไรก็ตาม แม้หลายหน่วยงาน อาทิเช่นเทศบาลนครเชียงใหม่และอำเภอเมืองเชียงใหม่จะได้ชี้แจงในที่ประชุมแล้วว่า มีการส่งหนังสือตักเตือนร้านอาหารและสถานบันเทิงที่ส่งเสียงดังและกระทำผิดกฎหมายจากการแสดงดนตรีในที่แจ้งไปแล้ว อีกทั้งยังมีอีกส่วนหนึ่งที่เตรียมจะดำเนินการลงโทษทางกฎหมายต่อไป แต่ตัวแทนจาก 11 ชุมชนยังคงมีท่าทีไม่พอใจ เนื่องจากเห็นว่าร้านอาหารหรือสถานบันเทิงหลายแห่งกระทำผิดกฎหมายชัดเจน อีกทั้งหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกลับไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ว่าจะมีการดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร
เช่นเดียวกับสรรพสามิตพื้นที่เชียงใหม่ซึ่งได้รับการสอบถามและวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากตัวแทนจาก 11 ชุมชนเห็นว่าเป็นองค์กรที่น่าจะสามารถควบคุมการเกิดขึ้นของสถานบันเทิงด้วยการจำกัดการออกใบอนุญาตจำหน่ายสุราได้ ซึ่งตัวแทนจากสรรพสามิตพื้นที่เชียงใหม่ได้ชี้แจงว่า แม้จะมีมาตรการในการระงับหรือเพิกถอนการให้ใบอนุญาต แต่เหตุที่จะนำมาซึ่งการปฏิบัติได้นั้นส่วนใหญ่จะอยู่ในประเด็นของยาเสพติดหรือการปล่อยให้เยาวชนที่อายุไม่ถึงเกณฑ์เข้าใช้บริการ แต่ยังไม่มีกฎที่ระบุชัดเจนเกี่ยวกับปัญหาการส่งเสียงดังหรือตั้งสถานประกอบการอยู่ใกล้วัดหรือโรงเรียนแต่อย่างใด
ส่วนกรณีการออกใบอนุญาต หากประชาชนที่มาขอใบอนุญาตมีหลักฐานครบถ้วนถูกต้องสรรพสามิตก็จำเป็นจะต้องออกใบอนุญาตให้ มิฉะนั้นก็จะมีความผิดตามกฎหมาย
ทั้งนี้ภายหลังจากรับฟังคำชี้แจงแล้ว กลุ่มตัวแทนจาก 11 ชุมชน ซึ่งประกอบไปด้วยชุมชนนิมมานเหมินท์ ชุมชนลอยเคราะห์ ชุมชนวัดช่างฆ้อง ชุมชนท่าแพ ชุมชนช้างม่อย ชุมชนวัดชมพู ชุมชนวัดทรายมูลเมือง ชุมชนวัดดอกเอื้อง ชุมชนวัดล่ามช้าง ชุมชนศรีมงคล และชุมชนป่าแพ่ง (คลองเงิน) ได้ทำการประชุมหารือกันอีกครั้งในวันที่ 10 ม.ค. โดยได้เชิญตัวแทนจากทุกชุมชนมาร่วมกันร่างหนังสือ และเตรียมที่จะส่งตัวแทนเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สาขาเชียงใหม่ วันที่ 15 ม.ค. นี้
แหล่งข่าวจากกลุ่มตัวแทน 11 ชุมชนระบุว่า ข้อเรียกร้องของทางกลุ่มคือ ต้องการให้นายกรัฐมนตรีสั่งการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามจนไม่สามารถฟื้นฟูได้ เนื่องจากที่ผ่านมาแม้จะได้มีการร้องเรียนไปยังทางจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาแล้ว แต่ปรากฏว่าการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ยังมีข้อจำกัดในเชิงของอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ ซึ่งทำให้การบังคับใช้กฎหมายยังไม่มีประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น
นอกจากนี้ กลุ่ม 11 ชุมชนยังมีความเห็นว่า การแก้ไขปัญหาในระยะยาว จำเป็นอย่างยิ่งที่ภาคประชาชนจะต้องเข้าไปมีส่วนร่วม หรือนำเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการออกกฎระเบียบหรือปฏิบัติตามข้อกฎหมายให้มากขึ้น โดยในการหารือได้มีการหยิบยกแนวความคิดเรื่องการเข้าไปมีส่วนร่วมกับสรรพสามิตในการตัดสินใจออกใบอนุญาตจำหน่ายสุรา ในรูปแบบของตัวแทนชุมชนหรือคณะกรรมการหมู่บ้าน หรือการเสนอให้สมาชิกสภาเทศบาลหรือนายกเทศมนตรี ซึ่งถือเป็นตัวแทนของชุมชนทำการเสนอหรือปรับปรุงแก้ไขเทศบัญญัติ เพื่อให้เทศบาลมีอำนาจในการบริหารจัดการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น เป็นต้น
